คุณแบงค์ ปัญจทรัพย์ ธีรพัฒนเกียรติ
คุณพ่อผู้ที่มีวินัยในการ DCA รายสัปดาห์เพื่อลูกๆ

“ ลงทุนได้ 3 ปีแรกได้กำไร 2 แสนทำให้พอร์ตแตะล้านได้ ก็ถือว่าเร็ว แม้เจอภาษีทรัมป์กำไรตกไป 50% แต่ตอนนี้กลับมา ATH แล้ว ”
#รีวิวJittaWealth
DCA ฝ่าวิกฤติ Trump Tariffs พาพอร์ตแตะล้าน – ATH
หนึ่งในนักลงทุนที่รีวิวพอร์ตเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม Jitta Wealth Official อยู่เสมอคือคุณแบงค์ ปัญจทรัพย์ ธีรพัฒนเกียรติ ผู้ที่มีวินัยในการออมเพื่อชีวิตเกษียณและเพื่อลูกๆ ทั้ง 2 ทุกวันนี้คุณแบงค์ลงทุนกับ Jitta Wealth กว่า 95% ของทรัพย์สินที่มี คุณแบงค์ได้ให้โอกาสมาเปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนตลอด 4 ปีเศษ ฝ่ามรสุมตลาดมาหลายต่อหลายลูก แม้กระทั่งล่าสุดภาษีทรัมป์ก็กระทบกับพอร์ตของเขาเพียงชั่วคราว แถมกลับมาทำ All Time High ได้อีกครั้งด้วย Global ETF +34.83% ตั้งแต่ 13 ม.ค. 64 – 20 พ.ค. 68
ก่อนหน้านี้คุณแบงค์เคยเล่าว่า เปิดพอร์ตกับ Jitta Wealth เมื่อปลายปี 63 ด้วย Thematic DIY เริ่มต้นที่ 200,000 บาทแล้วตั้งใจที่จะ DCA ขั้นต่ำ 10,000 บาททุกเดือน ก่อนจะโยกพอร์ตมาเป็น Thematic Optimize และเมื่อรู้จักกับ Global ETF ก็เปิดพอร์ตตามมาในปีถัดมา ซึ่งปีนั้นเขาเร่งเติมพอร์ต Global ETF เพราะตั้งใจที่จะให้เงินต้นแต่ละพอร์ตเท่ากัน แล้วเดินหน้า DCA เพื่อเทียบผลงานกันให้ชัดเจน
แต่เมื่อ Jitta Wealth ประกาศลดวงเงินขั้นต่ำในการเพิ่มทุนเหลือ 1,000 บาท สำหรับ Thematic และ Global ETF
ผู้มีใจรักในการ DCA อย่างคุณแบงค์จึงเริ่มมาคิดวิธีการเพิ่มทุนใหม่ ด้วยการเพิ่มทุนเท่าๆ กันทุกพอร์ต ทุกสัปดาห์!
เคล็ดลับจากหลักพันสู่หลักล้าน
จากต้นทุนที่เร่งให้ขึ้นมา 5 แสนบาทเท่ากันในปี 64 และ DCA อย่างสม่ำเสมอ ช่วงแรกเดือนละ 10,000 บาท ช่วงหลังสัปดาห์ละ 2,000 บาทพอร์ต Global ETF ของเขาใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่ง พอร์ตก็มาถึงล้านได้
ส่วนพอร์ต Thematic Optimize เขายอมรับว่าเริ่มลงทุนในช่วงพีค พอมาเจอปี 2565 ที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย พอร์ตยิ่งร่วงแรงมากถึง 40-50% ในช่วงแรกเขาปรับกลยุทธ์การ DCA จากเดือนละ 10,000 บาท เป็นไตรมาสละ 30,000 บาท และสัปดาห์ละ 2,000 บาทในช่วงหลัง
“ตอนตลาดตก ยิ่งเติมยิ่งหาย เราก็พยายามหากลยุทธ์ที่เราสบายใจมากที่สุด แต่เราก็ยังไม่ทิ้งที่จะ DCA เราปรับมาให้เรารู้สึกสบายใจแค่นั้น ช่วงแรกที่เงินขั้นต่ำยังสูง ก็ยากที่จะลงได้หลายๆ ไม้ ทำได้แค่เดือนละครั้ง พอมีข่าวเฟดออกมาพูดอะไรที หุ้นก็ร่วงทันที ทุกรอบเลย เราจะซื้อเหมือนบนยอดตลอด ตอนหลังลองมาใช้วิธีกระจายเป็นรายสัปดาห์ ก็ยังได้ลุ้นใหม่ว่าอาจจะราคาดีบ้าง แพงไปบ้าง แต่เงินก้อนเล็กลง ไม่ค่อยได้กระทบอะไรเท่าไหร่ เพราะเราจับจังหวะไม่ได้ก็ทำเช่นนี้มาตลอดเกือบ 2 ปีที่ลดวงเงินขั้นต่ำมา”
ผลของการ DCA ใน Thematic Optimize มาตลอด ทำให้พอร์ตของคุณแบงค์ฟื้นกลับมาได้ในช่วงเวลา 2 ปี และมีกำไรแล้วจากต้นทุนเดิม แต่ตัวเลขที่ยังดูติดลบเป็นผลจากการย้ายพอร์ตก่อนหน้านั้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่คิดขายทิ้งและหนีไปลงทุนในพอร์ตอื่น แม้ช่วงที่นักลงทุนหลายคนถอดใจ เขามองว่าเพิ่งลงทุนมายังไม่ถึง 5 ปี และไม่คิดที่จะขายออกอยู่แล้ว ต้องการยึดมั่นเป้าหมายเดิมไว้ คือลงทุนให้ต้นทุนพอร์ตแตะหลักล้านแล้วค่อยปรับกลยุทธ์การ DCA ใหม่ เพราะหากพิจารณาในแง่ของ Core and Satellite แล้ว เวลานี้เขามีสัดส่วนของพอร์ต Core อยู่เพียง 30% เท่านั้น เพราะเขายังมีพอร์ตอื่นๆ กับ Jitta Wealth แทบทุกนโยบายแล้ว เพราะฉะนั้นเขาอยู่ระหว่างพิจารณาปรับกลยุทธ์ใหม่ แน่นอนว่าต้องเร่งใส่เงินเพิ่มในพอร์ต Global ETF ซึ่งเป็นพอร์ต Core ให้มากขึ้นเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต
“เอาจริงๆ Global ETF เป็นพอร์ตที่ผลตอบแทนคาดหวังพอๆ กับ Jitta Ranking
แต่การที่เงินขั้นต่ำในการ DCA น้อยกว่ามาก เราสามารถ DCA ได้เป็นรอบๆ ตามวินัยของเรา แต่ Jitta Ranking เงินเรายังไม่ถึงที่จะเพิ่มทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท ก็ใส่พอร์ตนี้ไปเรื่อยๆ”
แม้เป้าหมายของคุณแบงค์ต้องการให้ทุกพอร์ตมีต้นทุนแตะหลักล้าน ซึ่งทั้งพอร์ต Thematic Optimize และ Global ETF ของเขายังมีต้นทุนอยู่เท่ากันราว 8 แสน แต่มูลค่าพอร์ต Global ETF ของคุณแบงค์ทะลุล้านไปตั้งแต่ลงทุนมาได้ 3 ปีเศษแล้ว เพราะกำไรที่โตขึ้นมามาก และทำให้พอร์ตไม่เคยต่ำกว่าเส้นต้นทุนอีกเลย แม้กระทั่งจะผ่าน Black Monday หรือ Trump Tariffs รอบล่าสุดที่ปั่นป่วนสินทรัพย์ทุกประเภทอย่างรุนแรง พอร์ต Global ETF ของคุณแบงค์ก็กระทบเพียงกำไรที่หายไป 50% จาก 2 แสนกว่าบาท เหลือเพียงแสนกว่าบาท แต่ล่าสุดผ่านมาได้เดือนกว่า พอร์ตของเขาก็กลับมาทำ All time High ได้อีกครั้งแล้ว
“จริงๆ ผมไม่ได้คิด หรือตั้งความหวังว่าจะต้องถึงล้านเมื่อไหร่ แต่คิดว่าสักวันนึงก็ต้องถึง เพราะเราเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ แต่ถามว่า 3 ปีครึ่งเร็วไหม ผมก็รู้สึกว่าเร็วอยู่นะ ทั้งเงินต้นและกำไร จากผลตอบแทนคาดหวังที่ 8% ต่อปี แถมความผันผวนต่ำ สบายใจกว่ามีแต่คนยกให้เป็นพอร์ตลูกรัก ตอนนี้มีคนที่รู้จักขอคำแนะนำก็แนะนำแต่ Global ETF“
ทุกวันนี้คุณแบงค์ ทยอยเปิดพอร์ตอื่นๆ ตามมาจนแทบจะครบทุกนโยบายไปแล้ว แต่พอร์ตลูกรักก็ยังคงยกให้ Global ETF ที่พาพอร์ตฝ่าวิกฤติและเป็นตัวที่ดึงให้ต้นทุนพอร์ตรวมของเขาไม่ติดลบได้
ลงทุนอย่างมีวินัยคือกุญแจสำคัญให้พอร์ตเติบโต
วินัยในการ DCA ของคุณแบงค์มีมาตั้งแต่แรกที่ยังต้องทำด้วยตัวเอง ไม่มีตัดอัตโนมัติเหมือนปัจจุบัน จนเป็นนิสัยไปแล้ว แม้ Jitta Wealth จะเพิ่มฟีเจอร์ Auto DCA แต่ทุกวันนี้เขาตั้ง DCA ทุกวันจันทร์ และเมื่อถึงกลางสัปดาห์เขาจะต้องเข้าไปในแอปฯ เพื่อไปเปลี่ยนวัน DCA เป็นวันจันทร์ถัดไปทุกครั้งทุกสัปดาห์ ทำเช่นนี้จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
“การ DCA รายสัปดาห์ มีข้อดีในความคิดเราคือเราได้แบ่งเป็นหลายๆ ไม้ จากปีหนึ่ง 12 ไม้กลายเป็น 52 ไม้ ไม่ต้องแบบลงเงินก้อนเดียวแล้วไปลุ้นเอาอีกเดือนหน้า เราไม่จำเป็นต้องจับจังหวะอะไร ผมเคยโชคดีที่ครั้งนึงได้เห็นธีมเซมิคอนดักเตอร์ขึ้นมาเยอะมากเลย แต่พอถึงช่วงปรับพอร์ต เราก็งงทำไมอยู่ดีๆ เอาธีมนี้ออก แต่ไม่นานก็มีข่าว Deepseek ธีมนี้เลยร่วงเละ ก็กลายเป็นโชคดีของผม และได้รู้ว่าบางทีเราก็จับจังหวะอะไรไม่ได้จริงๆ”
เหนือไปกว่าการ DCA คุณแบงค์ยังมีวินัยเข้ามาดูพอร์ตทุกวันเพื่อจดตัวเลขลง Excel เพื่อติดตามผลงานไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุนก็ตาม และนำไปพิจารณาประกอบกับข่าวสารการลงทุนที่รับเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเครียดแต่อย่างใด เพราะต้องถือว่า คุณแบงค์ได้ผ่านวัฏจักรการลงทุนมาระดับหนึ่งแล้ว เริ่มเข้าใจสถานการณ์หุ้นขึ้นหุ้นลงมากขึ้น ทำหน้าที่เพียงเติมเงินไปเรื่อยๆ
“เพราะสุดท้ายเป้าหมายของเรา ไม่ใช่เอาเงินมาใช้วันนี้หรือพรุ่งนี้ มันคือ 20 กว่าปีข้างหน้า โจทย์ใหญ่คือ เป็นพอร์ตเกษียณ ซึ่งมันอีกตั้ง 20-30 ปี ข้างหน้า ถามว่าถ้าเราถือไปอีกสัก 10 ปี เส้นกราฟที่เห็นตอนนี้ มันก็คือเส้นเล็กๆที่อยู่แบบเอียงมาทางซ้ายมากเลยในอนาคต”
การจดบันทึกของคุณแบงค์ ทำให้เขาพบว่า ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 พอร์ต Global ETF ของเขามีอายุพอร์ต 1,589 วัน จำนวนวันที่พอร์ตกำไรทั้งหมด 1,363 วัน คิดเป็น 86% ของทั้งหมด และวันที่พอร์ตขาดทุนทั้งหมด 226 วัน คิดเป็น 14% ของทั้งหมด ที่สำคัญพอร์ตกำไรติดต่อกันถึงปัจจุบัน 734 วัน เท่ากับว่า 2 ปีแล้วที่พอร์ตไม่ลงไปขาดทุนอีกเลย
DCA แบบไร้ใจ ไปถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก
วันนี้คุณแบงค์ได้ภูมิใจในวินัยที่ทำให้พอร์ตเติบโตได้ตามเป้าหมาย ไม่หยุดเท่านั้น เขายังคงเดินหน้า DCA ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และปรับไปเรื่อยๆ เขายังคงแชร์ Mindset ดีๆ ของตัวเองเสมอในกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะกลยุทธ์การ DCA ที่ทำต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะเจอวิกฤติหรือสถานการณ์ที่ผันผวนก็ตาม เพราะไม่มีใครรู้ว่าความผันผวนมันจะเหมือนในอดีตหรือไม่ หรือนี่อาจจะเป็นโอกาสได้ซื้อของถูก สิ่งที่ทำได้คือการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตลาดและดูเป้าหมายของตัวเองไว้เท่านั้นเอง
“อย่างที่คุณเผ่า (ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์) บอก DCA ชนะทุกสิ่ง คิดอะไรไม่ออกให้ DCA ไว้ก่อน ยิ่งผมลงแบบรายสัปดาห์ ผม DCA แบบไร้ใจไปเลย คือทำไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ นักลงทุนสบายใจแบบไหนจะรายเดือนหรือรายสัปดาห์ รายไตรมาส แล้วแต่ความสะดวก สุดท้าย พอเราเชื่อมั่นในหลักการหรือว่านโยบายนั้นๆ เราก็ใส่เงินไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า จะได้ราคาสูงกว่าหรือต่ำ เราไม่ต้องทำอะไรครับ และดูเป้าหมายเราเป็นหลัก ถ้าเป้าหมายเราคือยังไม่ใช้เงินวันนี้พรุ่งนี้ ก็ต้องมั่นใจในหลักการ ถ้าพอร์ตนี้เราจะเก็บเงินเพื่อไว้ใช้ในอนาคต อีก 20 ปีข้างหน้า แล้วจะรีบไปถอนออกมาทำไม”



*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com
**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน