Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา

คุณอัครเดช ศรีสง่า

เจ้าของธุรกิจซอฟต์แวร์ งานระบบเขียนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน  

ตั้งใจลงทุนระยะยาวไปเรื่อยๆ หากจะขาดทุนบ้างก็ไม่ซีเรียส เพราะเชื่อว่ามีโอกาสที่เงินจะเติบโต ก็ดีกว่าปล่อยไว้ในออมทรัพย์เฉยๆ

กับพอร์ต Global ETF ผลตอบแทน +53.82%

#รีวิวJittaWealth
เลือกลงทุนให้ถูกที่ เงินก้อนที่มีก็งอกเงย

การมีเงินก้อน แล้วหาทางให้มันเติบโตก็เป็นเรื่องปกติ แต่การเลือกพอร์ตดีๆ ให้เงินก้อนได้งอกเงย อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน แต่คุณอัครเดช ศรีสง่า เจ้าของธุรกิจซอฟต์แวร์ งานระบบเขียนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เลือกที่จะให้ Global ETF เป็นพอร์ตที่จะพาให้เงินก้อนของเขาเติบโต แม้จะไม่ค่อยได้ DCA ก็ตาม แต่ก็สร้างผลตอบแทนได้ถึง +53.82% (23 ก.ย. 63- 20 พ.ค.68) ถือว่าเติบโตที่ถือว่าเกินความคาดหมายไปมากจนต้องยกให้เป็นพอร์ตลูกรัก 

ก่อนที่คุณอัครเดชจะมาลงทุนกับ Jitta Wealth ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่เขามีรายได้ค่อนข้างมาก และเริ่มมีเงินก้อนจึงเป็นที่มาของการเริ่มศึกษาลงทุน โดยเริ่มที่หุ้นไทย และมีโอกาสได้รู้จักกับ Jitta Wealth จากการใช้ Jitta.com เป็นเครื่องมือในการดูข้อมูลหุ้นที่ได้จัดอันดับ Ranking เพื่อพิจารณาเลือกหุ้นที่น่าลงทุน โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งโดยส่วนตัวเขาชอบในแนวทางการลงทุนแบบ VI ที่จะต้องอ่านงบ ดูข้อมูลหุ้นด้วยตัวเอง

มุมมองการลงทุนเปลี่ยนไปเมื่อได้ทำธุรกิจ

เดิมทีคุณอัครเดชยอมรับว่าเขาไม่มีความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนมากนัก และมองว่าหุ้น​ก็น่าจะเหมือนกับการเล่นพนันหรือซื้อหวย ลงไปแล้วก็รอจังหวะได้/เสีย ​จนเมื่อได้มาทำธุรกิจของตัวเอง ก็เข้าใจแล้วว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ มีกำไรและมีขาดทุนเป็นธรรมดา การได้รู้จักธรรมชาติธุรกิจทำให้เขามองเห็นความเป็นจริงของหุ้นมากขึ้น เขาตระหนักดีว่าเมื่อทำธุรกิจแล้วได้เงินมา การจะนำเงินนั้นไปลงทุนเปิดธุรกิจใหม่ก็อาจจะต้องทุ่มทรัพยากรรวมถึงเวลาค่อนข้างมาก เขามองว่าการนำเงินนั้นไปให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญไปบริหารให้จะดีกว่า 

“เงินเป็นสินทรัพย์ที่งอกเงยได้และทุกคนต้องการอยู่แล้ว ​เราดูแลธุรกิจของเราให้ดี ส่วนเงินเย็นที่มีก็ให้มันไปทำงานต่อ การเป็น VI ก็เหมือนเราไปทำธุรกิจนั้นด้วย แต่จริงๆ ไม่ต้องไปทำเอง แค่รู้ว่าบริษัทนั้นทำงานยังไง รู้ว่าได้กำไรจากไหน เราเน้นเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต ราคายังไม่แพง แล้วก็มีปันผล”

คุณอัครเดชทำธุรกิจตัวเองไปด้วยลงทุนเองไปด้วย สักพักก็รู้สึกเหนื่อยและเริ่มขี้เกียจกับการที่ต้องมาติดตามตลาดเองตลอดเวลา ​แม้ว่าเขาจะได้พัฒนาระบบวิเคราะห์หุ้นของตัวเองขึ้นมาเพื่อลดเวลาการเลือกหุ้นของตัวเองลง แต่นั่นก็ยังต้องใช้เวลาในการดูแลระบบอยู่ดี ดังนั้นเมื่อ Jitta Wealth เปิดให้บริการ เขาซึ่งอยู่ในสายเทคฯ อยู่แล้วก็เข้าใจและตัดสินใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างการเซฟเวลาของตัวเองด้วยการใช้ AI ของ Jitta Wealth แลกกับค่าธรรมเนียมที่แสนจะต่ำก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว 

เขาจึงเปิดพอร์ตแรกด้วย Jitta Ranking หุ้นไทย ​ลงทุนมาได้ประมาณ 3 ปี เขาก็ตัดสินใจขายออก ในช่วงนั้นเขาสนใจการไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ก็รู้สึกถึงความยุ่งยากในการออกไปลงทุนเอง เพราะมีเรื่องกฎระเบียบและค่าเงินที่ยุ่งยาก แต่การถือพอร์ตของ Jitta Wealth มาพักใหญ่ ก็มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น จึงเปิดพอร์ต Global ETF เพื่อรับโอกาสการลงทุนต่างประเทศแทน โดยเลือกเปิดทั้ง​ Global ETF แบบสมดุลและ Global ETF แบบเติบโต เพราะต้องการเปรียบเทียบกัน

“พอหลังโควิด ก็ไม่ได้มีเงินเก็บเยอะเหมือนช่วงก่อนที่เรามีก็คอยเอามาเติม ก็เลยกลายเป็นว่าเงินเย็นที่มีก็มีแค่นี้แหละ ไม่ค่อยได้เติมพอร์ต ที่เหลือเราก็เอามาหมุนแทบตลอดเวลา” 

เมื่อมาลงทุนกับ Jitta Wealth คุณอัครเดชก็ไม่ได้ลงทุนในหุ้นไทยอีกเลย เพราะมองว่ามีความผันผวนค่อนข้างมาก และตัวเลือกมีน้อย เพราะราคาแพงไปหมดแล้ว ส่วนหุ้นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะหลังเขาก็ยังไม่มีเวลาไปวิเคราะห์จริงจัง จึงไม่ต้องการเพิ่มความเสี่ยง เพราะสุดท้ายจะเหมือนเล่นพนันเอาได้

“ผมเป็นคนแอนตี้เรื่องการพนันมาก ถ้าต้องใช้ดวงมากกว่าหลักการและเหตุผลในการตัดสินใจ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเลย” 

สำหรับคนทำธุรกิจอย่างคุณอัครเดชมองว่าการนำเงินเก็บมาลงทุนแม้จะมีโอกาสขาดทุน แต่ก็ไม่ต่างจากการนำเงินไปลงทุนธุรกิจใหม่ๆ เพราะด้วยประสบการณ์ที่มีทำให้รู้ว่าการทำธุรกิจให้สำเร็จสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำได้มันไม่ง่ายในยุคนี้ 

สำหรับพอร์ต Global ETF สมดุล และ Global ETF เติบโต ที่เขาตั้งใจลงทุนเพื่อเปรียบเทียบกัน เขาก็ได้เห็นผลตอบแทนที่ชัดเจนมาก โดย Global ETF สมดุล ของเขาได้มีเงินลงทุนรวม​ 600,000 บาท ล่าสุดมูลค่าพอร์ตปรับขึ้นมาอยู่ที่ 770,000 บาท ​ ส่วน Global ETF แผนเติบโตนั้นมีเงินลงทุนรวม 1.2 ล้านบาท ล่าสุดมูลค่าเพิ่มมาเป็น 1.6 ล้านบาท ​เรียกว่าเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน 

นักลงทุนระยะยาว จิตใจต้องแข็งแกร่ง

คุณอัครเดชเป็นนักลงทุนระยะยาว และตั้งใจที่จะลงทุนเพื่อรอคอยการเติบโตไปเรื่อยๆ และอาจเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกให้หลาน หากไม่มีอะไรมากระทบในชีวิต ส่วนการเปิดดูพอร์ตจะทำเพียง​ 2-3 เดือนครั้งเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เขาได้เห็นจังหวะที่พอร์ตปรับขึ้นและปรับลงอยู่บ้าง ซึ่งเขามองว่าไม่เป็นไร

“ต่อให้ขาดทุน ก็ไม่ค่อยซีเรียส​ เพราะเชื่อว่าให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นดีกว่าปล่อยไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่มีประโยชน์ ส่วนความผันผวนในตลาด ผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าตลาดเองก็เป็นแค่อารมณ์ของคนหมู่ใหญ่ แต่ตัวธุรกิจก็คือธุรกิจ พอเราเชื่ออย่างนั้นเราก็จะไม่ตื่นตูมไปกับตลาดเท่าไหร่”

ใช่ว่าจะกำไรไปทุกพอร์ต พอร์ตที่ยังขาดทุนอยู่ก็มี อย่าง Thematic DIY ที่เขาเคยเห็นพอร์ตติดลบหนักสุดถึง -38% แต่ตอนนี้ฟื้นขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังติดลบอยู่ราว 20% ซึ่งคุณอัครเดชยอมรับและเข้าใจในเหตุผลที่พอร์ตติดลบเป็นอย่างดี ว่ามาจากธีมที่เขาได้เลือกเข้าลงทุนในช่วงที่ตลาดเกิดฟองสบู่ ​เนื่องจากในเวลานั้นมีข่าวที่หุ้น Meta ประกาศลงทุนใน VR/AR ในฐานะสายเทคฯ อย่างเขามองว่าหาก Meta ทำสำเร็จจะกระเทือนวงการเทคฯ ได้แน่นอน เขาจึงลงทุนไป แต่สุดท้ายก็ไม่เกิด เขาจึงได้ทำการเปลี่ยนธีมมาเป็น AI แทน ซึ่งเขามองว่ายังเป็นความผันผวนในระดับที่ไม่ได้ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติม เพราะอย่างไรเสีย ธีมที่เหลืออย่างเทคโนโลยีท่องเที่ยวหรือ Cloud Computing ก็เติบโตไปตามยุคสมัยอยู่แล้ว
 
“ธีมส่วนใหญ่ที่เลือกก็จะอยู่ในธีมสายเทคฯ เพราะผมอยู่ในวงการนี้ผมจะเข้าใจว่าความต้องการเทคโนโลยีเหล่านี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ แต่อาจจะเก็งตลาดผิดไปบ้างก็เป็นไปได้ เข้าใจดีว่าภาวะที่เราเข้าไปอาจจะเป็นจังหวะที่ราคามันสูงไปแล้วด้วย” 

ด้วยความที่เราเป็นสายเทคฯ การลงทุนด้วย AI แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจเข้าถึงยากสำหรับเขา แต่อาจจะยากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่สายเทคฯ ดังนั้นการมี Jitta Wealth ถือว่า​​ตอบโจทย์กับนักลงทุนในวงกว้างได้จริง แต่โดยส่วนตัวเขาเองก็เป็นมนุษย์ทำงานที่ต้องดูแลธุรกิจไปด้วย ไม่สามารถที่จะมาลงทุนด้วยตัวเองได้ดีพอ และความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีทำให้เขาเชื่อว่าการปล่อยให้เทคโนโลยีช่วยบริหารจะช่วยสร้างความแม่นยำ ลงทุนเป็นระบบและสม่ำเสมอกว่าการลงทุนเองอยู่แล้ว ช่วยปิดข้อจำกัดของมนุษย์ได้ดี 

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ลงทุนด้วยหลักการที่ถูกต้องกับ Jitta Wealth

ลงทุนอย่างสบายใจ กำไรอย่างยั่งยืน