รีวิวJittaWealth
เลือกการลงทุนที่เหมาะ สบายใจได้ในระยะยาว

เป็นธรรมดาชีวิต หากอยากให้ชีวิตการงานเติบโตก็ต้องมุ่งมั่นในงานที่รับผิดชอบ  

หากอยากให้ชีวิตการเงินมั่งคั่งก็ต้องมุ่งมั่นลงทุน 

และมีหลายคนคงเคยพยายามมุ่งมั่นทำงานและลงทุนไปพร้อมกัน แต่สุดท้ายก็พบว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ดีได้พร้อมๆ กัน เช่นเดียวกับคุณทิพย์อาภรณ์ ประภัสสรพยาบาลสาวจากโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เคยตกอยู่ในภาวะเครียดกับการลงทุนหุ้นไทยรายตัวที่ต้องวิเคราะห์หุ้นเอง จับจังหวะหุ้นเอง ก่อนจะมาพบแนวทางลงทุนที่ใช่กับ Thematic DIY ที่สร้างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีแล้ว 12.5% (YTD)

คุณทิพย์อาภรณ์ สนใจเรื่องการลงทุนมานานแล้วและเริ่มจริงจังกับการลงทุนเมื่อทำงานมาได้ระยะหนึ่ง จนมีเงินเก็บพอ​ที่จะลงทุนระยะยาวให้ผลตอบแทนชนะดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เธอเริ่มหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่ด้วยความที่ไม่มีเวลามากนัก ในช่วงแรกจึงไปซื้อประกันออมทรัพย์ สลากออมทรัพย์ทั้งธนาคารออมสินและธกส. รวมถึงสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลที่เธอหักบัญชีอัตโนมัติเอาไว้ และให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอที่ 4% 

เริ่มต้นการลงทุนง่ายๆ ด้วย ETF

หลังจากนั้นก็หาข้อมูลมากขึ้นและทดลองลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วยตัวเอง ซึ่งช่วงนั้นชีวิตของคุณทิพย์อาภรณ์ไม่ได้เป็นสุขเท่าที่ควร เพราะต้องใช้เวลาในการอ่านหนังสือ และประเมินมูลค่าหุ้นจำนวนมาก ทั้งที่เวลาก็มีจำกัดจากการทำงานพยาบาล เป็นช่วงที่ ‘ท้อ เครียด ไม่มีความสุข’ จนต้องยอมรับกับตัวเองว่าลงทุนหุ้นรายตัวเองไม่น่ารอด​ จึงหยุดพัก กลับมาหาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ พร้อมกับหาข้อมูลมาเรื่อยๆ

กระทั่งปี 2020 เธอเริ่มได้ยินเรื่องของ ETF และสนใจจึงหาข้อมูลมาเรื่อยๆ จนมาเจอ ‘Passive Way’ เธอได้เข้าไปลงทะเบียนรับ E-Book มาอ่านแล้วก็สนใจการลงทุนใน ETF เพราะเป็นการข้อดีของหุ้นและกองทุนไว้ด้วยกัน ​ก็น่าจะเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
ยิ่งได้มาเจอกับ Jitta Wealth ก็รู้สึกมีความหวังมากขึ้น จึงเข้าไปติดตามเพจมาเรื่อย ๆ 

ในที่สุดเธอก็รู้สึกมั่นใจและเปิดพอร์ตกับ Jitta Wealth เมื่อต้นปี 2021 ด้วย Thematic DIY เพราะสนใจในเมกะเทรนด์แห่งโลกอนาคต 

ธีมที่เลือกส่วนใหญ่เป็นเทคโนโลยี ที่มีความหวือหวาค่อนข้างมาก ทำให้พอร์ต Thematic DIY 1 ของเธอค่อนข้างแกว่ง เธอจึงตัดสินใจเปิด Thematic DIY 2 ขึ้นมาอีกพอร์ต เลือกธีมรายประเทศ ประกอบด้วยหุ้นจีน หุ้นสหรัฐฯ หุ้นอินเดียและ หุ้นเวียดนาม แล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะพอร์ต Thematic DIY 2 เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมาก แม้จะขึ้นทีละนิด แต่เธอก็รู้สึกสบายใจ  

“จากประสบการณ์พอร์ตแรกเราพบว่าค่อนข้างสวิง ทำให้ใจไม่ค่อยนิ่งเลย ทั้งที่ช่วงแรกที่ประเมินความเสี่ยง เราคิดว่าต่อให้ลบเยอะๆ ก็น่าจะรับได้แหละ หากระยะยาวมีกำไร แต่พอใจเริ่มไม่ค่อยนิ่ง เลยคิดว่าหรือมันสวิงเกินไปสำหรับเรานะ จึงเลือกเปิดพอร์ตที่ 2 เป็นธีมรายประเทศแล้วเติมพอร์ตพร้อมๆ กัน เพราะอยากเห็นว่าระยะยาวจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น”

ฝ่าความผันผวนด้วยความมั่นใจ

คุณทิพย์อาภรณ์ ยังเล่าถึงประสบการณ์ในการก้าวผ่านช่วงที่พอร์สวิงว่า ในช่วงแรกเธอยอมรับว่ากังวลและเครียดบ้างเล็กน้อย ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ เพราะเคยมีประสบการณ์การลงทุนหุ้นรายตัว แล้วเลือกหุ้นดีแต่ไม่ถูกจังหวะ แต่ Thematic DIY มีการกระจายความเสี่ยงในนั้นอยู่แล้วจึงไม่ได้กังวลมากเหมือนตอนซื้อหุ้นรายตัว และเชื่อว่าในระยะยาวจะเติบโตได้ เพราะตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเธอได้เห็นวัฏจักรพอร์ขาขึ้นและขาลงมาแล้วหลายครั้ง จนเรียนรู้ว่าเมื่อมีช่วงที่ลงก็ต้องมีขาขึ้นกลับมา สิ่งที่เธอทำคือยึดเป้าหมายหลัก 

“เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร เรามองภาพรวมที่จะลงทุนระยะยาว 10-20 ปี ดังนั้นช่วง 1-2 ปี เป็นช่วงสั้นมันต้องสวิงอยู่แล้ว ก็ไม่ได้ท้อแท้หรือแย่ขนาดนั้น” 

และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา คุณทิพย์อาภรณ์ ก็ได้เปิดพอร์ต Global ETF เป็นพอร์ตที่ 3 หลังเห็นรีวิวของเพื่อนๆ ในกลุ่ม Jitta Wealth Official ที่ดูสบายใจผลตอบแทนเติบโตได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวามาก ซึ่งพอร์ตของเธอก็เพิ่งครบ 1 ปีเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผลตอบแทนก็ +17.34% ไปแล้ว 

แต่สำหรับเธอเวลานี้ยังยกให้ Thematic DIY 2 เป็นพอร์ตลูกรัก เพราะเห็นผลตอบแทนที่บวกอย่างมีเสถียรภาพมาก นิ่งมากทำให้เธอสบายใจและแม้ว่า Global ETF ที่เพิ่งมาเปิดพอร์ตทีหลัง ในอนาคตก็อาจกลายเป็นพอร์ตลูกรักอีกพอร์ตก็ได้

มองย้อนกลับไป ในวันที่ลองเล่นหุ้นรายตัวมาจนถึงวันนี้ที่ได้ลงทุนกับ Jitta Wealth เธอพบว่า ทุกวันนี้เธอมีชีวิตที่ง่ายขึ้นมาก เหนื่อยและเครียดลดลง จากการหาข้อมูลวิเคราะห์หุ้นรายตัว การจับจังหวะ ไหนจะอาชีพพยาบาลที่ทำงานไม่เป็นเวลา ที่จะต้องมาหาข้อมูลเพิ่มอีก ซึ่งทุกวันนี้เธอสามารถโฟกัสเรื่องงานได้เต็มที่ หรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่เราชอบได้ ขณะเดียวกันก็ก็ยังเป็นนักลงทุนที่มีการศึกษาข้อมูลเช่นเดิม​

เพราะ Jitta Wealth มีข้อมูลความรู้ที่ช่วยให้เธอสามารถอัปเดตได้หลากหลายช่องทาง ทั้งอีเมล เพจ หรือแอปพลิเคชัน ที่เรียกว่าสะดวกและไม่ต้องเครียดอีกต่อไป​ ทุกวันนี้เธอมีหน้าที่แค่หาเงินและคงเป้าหมายระยะยาว​ที่ต้องการให้พอร์ตโตปีละ 5-8% ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว  

“หุ้นรายตัวต่อให้หาข้อมูลดีแล้วประเมินดีแล้ว แต่ประสบการณ์เรายังน้อย มันมีอะไรอีกมากมายในนั้นที่เราเข้าไม่ถึง ต้องอาศัยประสบการณ์เยอะจริงๆ เลือกตัวให้ถูกไม่พอ ต้องถูกจังหวะด้วย ถ้าเข้าผิดจังหวะ สภาพจิตใจก็เริ่มไม่โอเคละ”  

เดินหน้าเติมพอร์ตด้วยใจที่นิ่ง

สำหรับแผนการลงทุนของคุณทิพย์อาภรณ์คือการลงทุนระยะยาวเพื่อรองรับวัยเกษียณช่วงที่ไม่น่าจะหาเงินได้แล้ว ตั้งเป้าผลตอบแทนต่อปีไว้ที่ 5-8% หลังจากกันเงินฉุกเฉินไว้แล้ว เธอจะนำมาลงทุนแบบสบายๆ ไม่เร่งรัดตัวเองมากไป สัดส่วนหลักกว่า 50% จะอยู่ในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ อย่างเงินฝากประจำ หุ้นสหกรณ์โรงพยาบาลที่เธอสะสมมาตั้งแต่เริมต้นทำงานจึงเป็นพอร์ตที่ใหญ่ที่สุด ลงทุนกับ Jitta Wealth 40% ที่เหลืออีก 10% เป็น Index Fund  

ทุกวันนี้เธอยังคงเดินหน้าเติมพอร์ตอย่างต่อเนื่องตามกำลัง เพราะด้วยอายุที่มากขึ้น เป็นข้อจำกัดที่จะอยู่เวรเพื่อให้มีรายได้มากขึ้นมาลงทุน​ ดังนั้นจากเดิมที่เคยเพิ่มทุนเดือนละครั้งก็ปรับมาเป็นไตรมาสละครั้ง ให้อยู่ในระดับที่ตัวเองสบายใจและไม่เคร่งเครียดมากนัก ซึ่งเธอรู้สึกพอใจและสบายใจกับรูปแบบการลงทุนที่สามารถบริหารเงินได้เองตามความเหมาะสม เพื่อให้สามารถลงทุนได้ในระยะยาวตามที่ตั้งใจไว้ และยังเชื่อว่าหากลงทุนไปตามแผนที่วางไว้สัก 10 ปีก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

“เพราะไม่ได้คาดหวังไว้เยอะมาก 5-8% ต่อปี Happy แล้ว” 

ลงทุนมานับสิบปี มาถึงทุกวันนี้บทเรียนที่คุณทิพย์อาภรณ์ได้รับคือ ‘ห้ามใจร้อน ห้ามใช้อารมณ์มากเกินไป’ บางทีการศึกษาข้อมูลที่เราคิดว่าเยอะแล้ว หน้างานมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง หลักการที่เคยคิดว่าทำได้บางทีก็ทำไม่ได้

“สิ่งที่เรียนรู้ก็คือ ใจเราต้องนิ่ง แต่ก่อนที่ใจจะนิ่งก็ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับเราด้วย หาตัวเองให้เจอก่อน ไม่ต้องใจร้อน หากมีเงินก้อนก็ลองลงทุนหลายๆ แบบเพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะหากเอาเงินก้อนไปลงทุนโดยที่คาดหวังมากไป แต่ความรู้เราไม่มากพอ เราอาจจะเฟลแล้วออกจากการลงทุนไปเลยก็ได้ ระยะยาวไม่เป็นผลดีต่อเรา”

 

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน