Jitta Wealth Journal – เวียดนามขึ้นแท่น ลูกรัก Apple
Fed กัดไม่ปล่อย เพราะเงินเฟ้อไม่ได้เชื่อง
Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 96 ประจำวันที่ 27 กันยายน 2565
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก ส่งแรงกระเพื่อมถึงตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะเร่งให้เกิดเศรษฐกิจถดถอย สวนทางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เวียดนามเตรียมขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิต Airpods ของโลก ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่น ธีมพลังงานสะอาด และเซมิคอนดักเตอร์ยังมีอนาคตที่สดใส
ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ
S&P 500 -4.65% DJIA -3.99% NASDAQ -5.07%
Fed ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามคาดที่ 0.75% และลดขนาดงบดุล 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นักลงทุนบางส่วนเริ่มออกจากตลาดหุ้นไปลงทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีที่ผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้นเป็น 4.15% สูงสุดในรอบ 15 ปี
ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย
CSI 300 -1.95% TOPIX -1.16% VNI -2.49% SET +0.08%
ตลาดหุ้นจีน เวียดนาม และญี่ปุ่นจับมือกันปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังทรงตัวได้จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ แต่ทั้งตลาดหุ้นไทยและเวียดนามยังมีแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 25 กันยายน 2565
Talk of the Town
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
มีเงินต้น 2 ล้านบาท แบ่งลงทุนนโยบายไหนดี?
ถือพอร์ต Jitta Ranking หุ้นไทยฝ่าโควิด ตอนนี้กำไรเท่าไหร่แล้ว?
อยากรู้ว่า Jitta Score คำนวณยังไง ดูที่ไหนได้บ้าง?
เศรษฐกิจเวียดนาม
เวียดนามขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิต Airpods ของโลก
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่า เวียดนามจะผลิตหูฟัง Airpods ของ Apple เป็นสัดส่วนสูงถึง 65% ของทั้งหมดภายในปี 2568 เช่นเดียวกับ TechCrunch ที่รายงานว่าเวียดนามจะกลายเป็นฐานการผลิต iPad และ Apple Watch สัดส่วนสูงถึง 20% ของทั้งหมด รวมไปถึง Macbook ในสัดส่วน 5% ด้วย
เวียดนามได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ – จีน ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่มากมายมองหาฐานการผลิตในประเทศอื่นและ Apple ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยภายในปี 2568 Apple จะเหลือสัดส่วนการผลิตสินค้าในจีนเพียง 5% ของปริมาณการผลิตในปัจจุบัน
Foxconn ซัพพลายเออร์เจ้าใหญ่ของ Apple ก็เตรียมเช่าพื้นที่สร้างโรงงานที่จังหวัด Bac Giang ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตสินค้า Apple และทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 30,000 ตำแหน่ง
ความขัดแย้งของสหรัฐฯ – จีนส่งผลดีต่อหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน เวียดนามก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะค่าแรงที่ยังต่ำ มีแรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจมีศักยภาพที่จะเติบโตสูงต่อเนื่อง
กระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วย Jitta Ranking
การกระจายความเสี่ยงเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการลงทุน เงินของคุณจะเติบโตได้ คุณต้องรู้จักการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม แล้วต้องทำอย่างไร ตามไปอ่านได้เลย
เศรษฐกิจญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 11 ตุลาคมนี้
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวที่เด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องญี่ปุ่นกำลังจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากที่ประสบกับปัญหา Covid-19 อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดย รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 11 ตุลาคมนี้
นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ญี่ปุ่นเคยให้ Free Visa ในช่วงก่อน Covid-19 ก็จะกลับมาได้สิทธินั้นอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องเดินทางกับบริษัททัวร์แล้ว การเปิดประเทศในครั้งนี้จะช่วยส่งผลให้มีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังฟื้นตัวได้ดี และช่วยพยุงค่าเงินเยนหลังจากที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
และเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารญี่ปุ่นได้ออกมาแทรกแซงค่าเงินเยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 แต่สถานการณ์ของญี่ปุ่นจะไม่เหมือนกับประเทศอย่างเวเนซุเอลาหรืออาร์เจนตินา เนื่องจากญี่ปุ่นมีสถานะการเงินการคลังที่แข็งแกร่งกว่ามาก การเปิดประเทศของญี่ปุ่นในครั้งนี้เป็นข่าวที่ดีมากทีเดียว
สรุป Live Q&A with CEO: Jitta Ranking เริ่มต้น 500,000 บาทดียังไง
ปลายปีนี้ลงทุนอะไรดี ตลาดหุ้นไหนน่าสนใจ เงินบาทแข็งมีผลกับการลงทุนหรือไม่ ลงทุน Jitta Ranking เริ่มต้น 500,000 บาทดียังไง ไขทุกคำตอบโดยคุณเผ่า ตราวุทธ์ CEO Jitta Wealth และคุณโอ๊ต คุณากร นักวิเคราะห์การลงทุนของเรา
เศรษฐกิจสหรัฐฯ
Fed ขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% เขย่าตลาดหุ้นทั่วโลก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Fed ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามการคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงหนัก พร้อมปรับประมาณการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจปี 2565 หลายตัวด้วยกัน ดังนี้
- GDP สหรัฐฯ ปี 2565 จาก 1.7% เป็น 0.2%
- อัตราว่างงานจาก 3.7% เป็น 3.8% (แตะระดับสูงสุดที่ 4.4% ในปี 2566 – 67)
- อัตราเงินเฟ้อ (PCE) จาก 5.2% เป็น 5.4%
- อัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 3.4% เป็น 4.4%
เป้าหมายของ Fed คือการรักษาเสถียรภาพด้านราคา และ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Personal Consumption Expenditure (PCE) Price Index ให้ลดลงมาที่ระดับ 2% พร้อมย้ำว่าหากไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ผลกระทบจะใหญ่กว่าการเกิดเศรษฐกิจถดถอยมาก
การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ และเป้าหมายการปรับขึ้นดอกเบี้ยระดับ 4.25% – 4.50% ในสิ้นปีนี้ก็เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนตกใจคือความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับ 4.50 – 4.75% ในปี 2566 มีมากกว่า 50%
เมื่อตลาดหุ้นรับรู้เรื่องนี้จึงปรับตัวลงหนัก แต่บางส่วนก็มองว่าเป็นยาแรงที่ Fed ควรจะทำมานานแล้ว ต้องติดตามกันต่อไปว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้จะช่วยชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดึงให้ดัชนีราคาลดลงมาได้หรือไม่
Jerome Powell ประธาน Fed ได้กล่าวว่า “ผลของการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน” ดังนั้น เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบให้กับเรื่องนี้ว่าสุดท้ายแล้ว Fed จะรับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูงได้ดีมากน้อยแค่ไหน
สูตรลับปรุงกำไรโดย Ray Dalio
เผยสูตรลับ! ลงทุนอย่างไรไม่ให้ขาดทุนโดย Ray Dalio ผู้ทำให้แนวคิดการลงทุนแบบ Asset Allocation เป็นที่แพร่หลาย แนวคิดนี้จะเป็นอย่างไร คุณจะลดการขาดทุนได้ด้วยวิธีใดบ้าง ไปหาคำตอบกันเลย
พลังงานสะอาด
รถยนต์เกิน 50% ในสหรัฐฯ จะเป็นรถยนต์ EV ในปี 2573
ปี 2565 นี้เป็นปีที่ทุกคนเริ่มให้ความสนใจเรื่องพลังงานสะอาดกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะผู้ใช้งานรถยนต์ที่เห็นราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูง จนสูบเงินในกระเป๋าคุณไปอย่างมาก
เทรนด์พลังงานสะอาดทั่วโลกกำลังสดใส โดย Bloomberg NEF คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์มากกว่า 50% ในสหรัฐฯ จะเป็นรถยนต์ EV ในปี 2573 และตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ EV จะได้รับเงินสนับสนุนสูงถึง 7,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ แผนงบประมาณรายจ่ายกว่า 374,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็จะเน้นไปที่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ EV ในสหรัฐฯ ยังต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกและประเทศผู้ผลิตรถยนต์ EV รายใหญ่อย่างจีน โดยประธานาธิบดี Joe Biden มีแผนในการสนับสนุนด้วยการออกกฎหมายเพื่อกระตุ้นให้ชาวอเมริกันหันมาใช้รถยนต์ EV มากขึ้น
การมีแผนสนับสนุนจากรัฐบาลทั่วโลกเป็นสิ่งตอกย้ำว่าธีมพลังงานสะอาดเป็นเมกะเทรนด์ของโลกแบบจริงแท้แน่นอน สุดท้ายเมื่อผู้บริโภคสหรัฐฯ เริ่มใช้รถยนต์ EV มากขึ้นจะผลักดันให้ธีมพลังงานสะอาดเติบโตได้ต่อเนื่อง
เงินบาทอ่อนยวบ ลงทุนยังไงให้ใจชื้น?
เรื่องเด่นประเด็นร้อนช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นค่าเงินบาทที่อ่อนยวบเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แล้วคุณจะรับมืออย่างไรหากลงทุนต่างประเทศ เคล็ดลับลงทุนต่างประเทศแบบสวนกระแสคืออะไร
เซมิคอนดักเตอร์
ตลาดเซมิคอนดักเตอร์เตรียมแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2578
Allied Market Research คาดการณ์ว่าตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะแตะระดับ 1.03 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2578 จากความต้องการชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพและมีความเร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานและเหตุการณ์ Covid-19 ที่ทำให้ราคาชิปประมวลผลสูงขึ้นด้วย
ในปี 2564 ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีมูลค่าตลาดที่ราว 555,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.03 ล้าล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2578 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 6.21% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เช่นนี้
บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น TSMC SK Hynix และ Samsung โดยเซมิคอนดักเตอร์จะทำหน้าที่ควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้าและการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นหัวใจและสมองกลของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท
Warren Buffett เคยพูดว่า ‘หากคุณทนเห็นราคาหุ้นตกลงมาถึง 50% ไม่ได้ ก็ไม่ควรลงทุนในตลาดหุ้น’ เพราะธรรมชาติของการลงทุนหุ้นระยะยาวคือ คุณจะต้องเจอกับตลาดหุ้นขาลงที่โดยเฉลี่ยจะเกิดขึ้น 3 ปีจากทุกๆ ประมาณ 10 ปีอยู่แล้ว
หากคุณหวังจะได้กำไรจากการลงทุน การซื้อหุ้นของธุรกิจที่ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องขณะที่ราคาหุ้นตกลงถือเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ใช้การได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นหรือลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือแม้แต่ธุรกิจอื่นๆ นอกตลาด
ขอเพียงแค่คุณต้องมีวินัยในการลงทุนและยึดมั่นในกลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ในระยะยาวผลตอบแทนจะมาอยู่กับคุณอย่างแน่นอน
แล้วพบกันใหม่วันอังคารหน้า
อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง
Jitta Wealth Journal – EV จีนโตไม่หยุด ธีมไหนได้ประโยชน์?
Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นโตเร็วกว่าคาด ลงทุนเลยดีไหม?