Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นโตเร็วกว่าคาด ลงทุนเลยดีไหม?


Jitta Wealth Journal

เนื้อหาสำคัญ

IMF เพิ่มคาดการณ์ GDP เวียดนาม โชว์ความแกร่งทั่วแผ่นดิน

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 94 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2565 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นแรง นักลงทุนเข้าใจการควบคุมเงินเฟ้อของ Fed มากขึ้น ราคาหุ้นเทคฯ พาเหรดกันขึ้นยกแผง ดันตลาดหุ้นทั่วโลกให้ดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ GDP ญี่ปุ่นในไตรมาส 2 ขยายตัวดีกว่าคาด IMF เพิ่มประมาณการ GDP เวียดนาม ส่วนยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD ก็รุกตลาดโลกเต็มสูบ

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +3.65% DJIA +2.66% NASDAQ +4.14%

นักลงทุนสหรัฐฯ คลายความกังวลและเริ่มกลับมาลงทุนมากขึ้น ดันให้ 3 ดัชนีหลักของสหรัฐฯ ปรับขึ้นแรงหลังจากที่ร่วงลงมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เว็บไซต์ FedWatch Tool คาดการณ์ว่ามีโอกาสกว่า 70% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนกันยายนนี้

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +1.74% TOPIX +1.83% VNI -2.48% SET +2.00%

ตลาดหุ้นจีนปิดบวกหลังวิกฤตต่างๆ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ของเวียดนามปรับตัวลงสวนทาง ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงเพียงแห่งเดียว แต่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้น 

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 11 กันยายน 2565


ลงทุน Jitta Ranking ทุกประเทศ เริ่มต้น 500,000 บาทได้แล้ววันนี้!

ข่าวดีที่คุณรอคอย! เพราะคุณลงทุนหุ้นต่างประเทศกับ Jitta Ranking ได้แล้วด้วยเงินเพียง 500,000 บาท และเรายังลดเงินเพิ่มทุนเหลือ 50,000 บาท แถมลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างประเทศให้อีก 50% เหลือเพียง 500 บาทต่อครั้ง มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย! 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจญี่ปุ่น

GDP ญี่ปุ่นโตแรงเกินคาด หลังขยายตัว 3.5% 

สัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นถือว่าเหนือความคาดหมาย หลัง GDP ไตรมาส 2 ปี 2565 ของญี่ปุ่นขยายตัวถึง 3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% หมายความว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้

การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภายในประเทศ และการส่งออกช่วยดันให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นแรง โดยรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณามาตรการแจกเงิน 50,000 เยนต่อครัวเรือนสำหรับผู้มีรายได้ต่ำเพื่อกระตุ้นการบริโภคต่อเนื่องและแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าที่สูงขึ้น

การบริโภคของญี่ปุ่นขยายตัวอย่างต่อเนื่องแม้จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 จะยังสูง แต่ญี่ปุ่นไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มข้น เพื่อให้ประชาชนทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไปได้ ซึ่งในปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ก็กำลังลดลงต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นกำลังเร่งลงทุนในธุรกิจดิจิทัลและพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น คุณเริ่มได้กลิ่นความเนื้อหอมของญี่ปุ่นหรือยัง นี่คือสิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมาก

ญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศ ใช้ประโยชน์จากเงินเยนอ่อนค่า 

สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ โดยวางแผนจะยกเลิกข้อจำกัดและเงื่อนไขที่ยุ่งยากสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบหนักมาตั้งแต่ปี 2562 แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ Covid-19 ในญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเหลือเพียง 100,000 คนต่อวัน ทำให้เศรษฐกิจภายในญี่ปุ่นเองเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว

หากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเปิดประเทศ ก็จะช่วยให้การบริโภคภายในประเทศ การลงทุน และมูลค่าการส่งออกฟื้นตัวเร็วขึ้น รวมถึงช่วยลดแรงกดดันต่อการอ่อนค่าของเงินเยนที่กำลังทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วย


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

ไม่ได้ดีแค่หุ้นนอก! ลงทุน Jitta Ranking หุ้นไทย กำไรเป็นยังไง ไปดู

ลงทุนหลายแผน แต่ DCA ได้ทีละแผน ควรจัดการยังไงดี?

เงินลงทุนขั้นต่ำ Jitta Ranking ทุกประเทศเหลือ 500,000 บาท ปรับแผนลงทุนอย่างไรดี?

มาร่วมพูดคุยกับเรา


เศรษฐกิจเวียดนาม

IMF เพิ่มประมาณการ GDP เวียดนามปีนี้จาก 6% เป็น 7%

ในขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงจนหุ้นเวียดนามหลายบริษัทราคาถูก แต่ IMF กลับปรับประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ขึ้นจากเดิมที่ 6% เป็น 7% สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเวียดนามมาจากหลายปัจจัย ประกอบไปด้วย

  • อัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • การเติบโตของสินเชื่อ 
  • แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ 
  • การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคการผลิต

นอกจากนี้ ขณะที่ทั่วโลกกำลังหัวหมุนกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง แต่เงินเฟ้อของเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 3% เท่านั้น ยังต่ำกว่าเพดานที่ธนาคารกลางเวียดนามกำหนดไว้ 

เวียดนามเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจขึ้นแม้จะเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ Moody’s ก็ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาล ถือเป็นสัญญาณบวกของเวียดนาม

เวียดนามในปัจจุบันมีมุมที่คล้ายไทยในสมัยก่อน คือเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการส่งออกและการเป็นฐานการผลิตให้บริษัทต่างชาติ แน่นอนว่าในอนาคตเวียดนามยังมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้เพื่อนำตัวเองไปเป็นประเทสพัฒนาแล้ว แต่ตอนนี้เวียดนามถือเป็นโอกาสการลงทุนที่ยอดเยี่ยม

ทั่วโลกอึ้ง! เวียดนามใช้เงินจากงบฟื้นฟูฯ แค่ 16% เท่านั้น

ในขณะที่ทั่วโลกต้องใช้เงินมหาศาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤต Covid-19 โดยเวียดนามตั้งงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไว้ทั้งหมด 350 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 14,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

แต่ทั่วโลกต้องอึ้ง เพราะรัฐบาลเวียดนามใช้เงินจากงบประมาณดังกล่าวไปเพียงแค่ 16% หรือ 55 ล้านล้านดองเท่านั้นในการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ โดยแบ่งเป็น

  • 34.9 ล้านล้านดอง ใช้ในการลดภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีพลังงาน
  • 13.5 ล้านล้านดอง ใช้ในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 2% ต่อปี
  • 4.5 ล้านล้านดอง ใช้ในการอุดหนุนค่าเช่าบ้านสำหรับแรงงานทั่วประเทศ

นอกเหนือจากนี้เป็นงบประมาณที่ช่วยเหลือในส่วนอื่นๆ ซึ่งด้วยการใช้งบประมาณการฟื้นฟูเพียงแค่ 16% แต่เศรษฐกิจเวียดนามกลับฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งสวนทางตลาดโลก แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารประเทศของรัฐบาลเวียดนาม

แน่นอนว่างบประมาณส่วนอื่น ยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนามให้พุ่งแรงกว่าเดิมได้ ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่ารัฐบาลเวียดนามมีแผนฟื้นฟูยังไงต่อ แต่เชื่อว่าคุณกำลังจะได้เห็นในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน


ทำไม Jitta Wealth เลือกธีม SCHX แทนที่จะเป็น S&P500 ETF 

คำถามที่ค้างคาใจของใครหลายๆ คน ว่าทำไม Jitta Wealth เลือกกองทุน Schwab U.S.Large-Cap ETF (SCHX) มาให้ลงทุนในธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยว่า จริงๆ แล้วกองทุน SCHX ETF แทบไม่ต่างอะไรกับการลงทุนในดัชนี S&P 500 เลย 

อ่านต่อ 


พลังงานสะอาดจีน

BYD โตต่อเนื่อง…รุกตลาดโลกเต็มสูบ

ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BYD เจ้าตลาดรถยนต์พลังงานสะอาด (Electric vehicle) ของจีนมีความผันผวนขึ้นลงอย่างกับรถไฟเหาะ ในขณะที่บริษัทเองมีความเคลื่อนไหวที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด BYD ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการของ BYD ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทประกาศยอดขายรถยนต์รวมที่ 173,977 คัน ขยายตัว +157% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งสัดส่วนออกมาได้ดังนี้

  • รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 82,678 คัน
  • รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 91,299 คัน

และยอดขายรวมตั้งแต่เดือน มกราคม – สิงหาคม อยู่ที่ 974,348 คัน ขยายตัวถึง 273.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และที่น่าสนใจคือการที่ BYD ตัดสินใจรุกตลาดญี่ปุ่นที่เป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก โดยเน้นไปที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากที่ญี่ปุ่นยังไม่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่แพร่หลายนัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ BYD ประกาศตัวว่าจะรุกตลาดรถยนต์ของไทยอย่างเป็นทางการ

BYD มีทิศทางที่ยอดเยี่ยมและเติบโตไม่หยุด ซึ่งส่งผลดีต่อธีมต่างๆ ที่ลงทุนในบริษัท เช่น ธีมพลังงานสะอาดจีน พลังงานสะอาด และ ลิเธียมและแบตเตอร์รี่ ที่มีสัดส่วนลงทุนใน BYD สูง แน่นอนว่าอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดเป็นเมกะเทรนด์ที่คุณไม่ควรพลาด 


หุ่นยนต์และ AI 

ปีทองของ AI ช่วยโลกให้เกิดสมดุลมากขึ้น 

Bloomberg รายงานว่า ปี 2565 เป็นปีทองของ AI ที่ช่วยโลกให้เกิดสมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะการได้เป็นผู้ช่วยผ่านบริการ Voice Assistance ที่หลายบริษัทนำมาใช้ แม้ว่าการใช้ AI จะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดแรงงานได้รับผลกระทบ แต่ AI เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มเมื่อแรงงานขาดแคลนมากกว่า 

AI ช่วยให้สินค้าและบริการมีราคาที่ถูกลง ช่วยให้การผลิตและการขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ Bloomberg วิเคราะห์ว่า AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังมีการประยุกต์ใช้ไม่แพร่หลาย แต่มีความเป็นไปได้ว่า AI จะเข้าไปอยู่ในทุกๆ ภาคส่วนของเศรษฐกิจ

ยกตัวอย่างเช่น สร้างสมดุลแรงงานที่ขาดแคลนด้วยการใช้ Robotics หรือการสร้างสมดุลการใช้ทรัพยากรธรรมชาติผ่านการวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานที่มีประสิทธิภาพ


‘กระจายความเสี่ยง’ ทำยังไง? ทำไมถึงสำคัญ? 

คุณคงเคยได้ยินว่า ‘การกระจายความเสี่ยง’ เป็นเรื่องสำคัญของการลงทุน แล้วจริงๆ แล้วมันคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร และจะช่วยให้เราทำผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้อย่างไร Jitta Wealth มีคำตอบ

อ่านต่อ 


แม้คุณจะรู้สึกว่าโลกการลงทุนปีนี้มีแต่ข่าวร้าย ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เงินเฟ้อพุ่ง ดอกเบี้ยขึ้นทั่วโลก แต่เศรษฐกิจหลายๆ ประเทศก็ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและจับต้องได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ไทยเองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาร่วม 1 ล้านกว่าคนแล้วแบบเงียบๆ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

การถือหุ้นก็เหมือนคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ และธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจประเทศนั้นๆ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ก็ย่อมส่งผลดีต่อผลประกอบการของธุรกิจและราคาหุ้นในท้ายที่สุด ขอเพียงแค่คุณมีวินัยและเชื่อมั่นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง แล้วผลตอบแทนจะมาหาคุณเอง

แล้วพบกันใหม่วันอังคารหน้า

ตราวุทธิ์และทีมงาน Jitta Wealth


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – สหรัฐฯ-จีนเอาอีกแล้ว บริษัทไหนกระทบบ้าง?

Jitta Wealth Journal – จีนอัดฉีดเงินก้อนโต ลงทุนเพิ่มดีไหม?