Jitta Wealth Journal – 3 ปัจจัยดันเงินบาทแข็งค่า
จีนเตรียมตั้งตลาดหุ้นปักกิ่งหนุนสตาร์ตอัป
Jitta Wealth Journal ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 7 กันยายน 2564 มีความเคลื่อนไหวทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟให้คุณแล้ว ดังนี้
- 3 ปัจจัยหนุน ‘เงินบาท’ พลิกกลับมาแข็งค่า
- 6 สถิติที่ทำให้หุ้นเทคแบบสมัครสมาชิกเป็นดาวรุ่ง
- ผู้เล่นเกมบนสมาร์ตโฟนในอินเดียเพิ่มขึ้น 45%
- คาด ปี 2564 สมาร์ตโฟนขาย 1,370 ล้านเครื่องทั่วโลก
- อาเซียนใช้อีคอมเมิร์ซสูงกว่าอินเดีย บราซิล และจีน
- Pfizer เริ่มทำการทดลองยาเม็ดต้านโควิด
- จีนเตรียมรายงานผลวัคซีน mRNA ตัวแรกภายในปี 2564
- WHO กลับลำ หนุนฉีดบูสเตอร์โดสกันเดลตา
- จีนเตรียมตั้ง ‘ตลาดหุ้นปักกิ่ง’ หนุนสตาร์ตอัประดมทุน
- จีนออกกฎคุมเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นได้ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- Covid-19 ฉุด GDP เวียดนามโตลดลงเหลือ 4.7% ปี 2564
- สหรัฐฯ ลงทุน 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รับมือระบาดรอบใหม่
ไปติดตามกันได้เลย
3 ปัจจัยหนุน ‘เงินบาท’ พลิกกลับมาแข็งค่า
ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ระบุ 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้ ‘ค่าเงินบาท’ พลิกกลับมาแข็งค่าในช่วงนี้ เป็นทิศทางหลังจากเห็นสัญญาณธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
- นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงินโลก หลังจากประธาน Fed กล่าวในสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole การลดวงเงิน QE จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มปรับลดลงและมีการเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยการผ่อนคลายให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป
- นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทย โดยเดือนสิงหาคม นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในหุ้นไทย 5,400 ล้านบาท และพันธบัตรไทย 45,000 ล้านบาท
ทิศทางค่าเงินบาทปี 2564 ผันผวนหนัก หลังอ่อนค่าแรงกว่า 10% แตะระดับ 33.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นช่วงปลายเดือนค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาแข็งค่าเกือบหลุด 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ณ 3 กันยายน ปิดการซื้อขายล่าสุด ที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติเตือนว่า ทิศทางค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอนของปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศเป็นหลัก ปัจจัยค่าเงินบาทแข็งหรืออ่อนค่า ย่อมมีผลต่อต้นทุนในวันที่ลงทุนอยู่แล้ว
จริงๆ แล้ว ค่าเงินบาทขึ้นลงรายวันรายสัปดาห์ ไม่มีใครคาดการณ์ได้ วิธีรับมือ คุณสามารถทยอยลงทุนเป็นก้อนๆ ในช่วงเวลาที่ต่างกัน DCA (Dollar Cost Averaging) จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนในพอร์ตได้
แต่ถ้าลองไปดูกราฟทิศทางค่าเงินในระยะยาว เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนี S&P500 คุณจะเห็นว่า ผลตอบแทนจากดัชนีสูงกว่าทิศทางค่าเงินหลายเท่าเลย เพราะฉะนั้นในระยะยาว ถ้าการลงทุนของคุณถูกต้อง ก็จะสร้างผลตอบแทนดี ชดเชยค่าเงินที่ผันผวนได้
วิธีรับมือ ‘บาทอ่อน’ เมื่อลงทุนต่างประเทศ
บทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จักปัจจัยที่ทำให้ ‘ค่าเงินบาท’ อ่อนค่าในเดือนสิงหาคม และเปรียบเทียบให้เห็นว่า ระหว่างดัชนี S&P500 กับทิศทางค่าเงิน อย่างไหนให้ผลตอบแทนสูงกว่ากัน
6 สถิติที่ทำให้หุ้นเทคแบบสมัครสมาชิกเป็นดาวรุ่ง
ธุรกิจสตรีมมิงและการสมัครสมาชิกของหุ้นเทคโนโลยีกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก ทุกวันนี้ผู้คนต่างใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ในชีวิตประจำวันรวมไปถึงการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็น Netflix Youtube Premium หรือ Spotify และซอฟต์แวร์การทำงานอย่าง Microsoft Office Google Adobe หรือ Zoom ก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน
ธุรกิจสตรีมมิงแต่ละบริษัททำรายได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะบริการสมัครสมาชิกเป็นบริการที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย และมีราคาที่จับต้องได้ ทำให้มีผู้ใช้บริการทั่วโลก และนี่คือ 6 สถิติที่ทำให้ธุรกิจประเภทนี้มาแรงนั่นเอง
- ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิง ลูกค้าไม่ได้สมัครแค่แพลตฟอร์มเดียว ผลการสำรวจของ Ampere Analysis พบว่า 75% ของครอบครัวในสหรัฐฯ สมัครสตรีมมิงอย่างน้อย 1 แพลตฟอร์ม และมีมากกว่าครึ่งที่ใช้บริการมากกว่า 1 แพลตฟอร์มขึ้นไป
- ธุรกิจสตรีมมิงเพลงกำลังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน Deloitte สำรวจผู้บริโภคอเมริกัน 2,003 ครัวเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่าผู้บริโภค 60% สมัครสมาชิกบริการสตรีมมิงดนตรี และ 41% สมัครสมาชิกมากกว่า 1 แพลตฟอร์มด้วย
- ซอฟต์แวร์ จะมีลูกค้าสมัครสมาชิกเป็นแหล่งรายได้หลัก บริษัทวิจัยตลาด International Data Corporation (IDC) ประเมินว่า ความต้องการบริการแบบคลาวด์ของผู้บริโภค จะทำให้ธุรกิจซอฟต์แวร์มีฐานลูกค้าแบบสมัครสมาชิกเป็นแหล่งรายได้หลัก โดยคิดเป็นสัดส่วน 53% ของรายได้รวมภายในปี 2565
- สมาชิกเช่ารถแทนการซื้อรถจะเติบโตสูง PYMNTS คาดการณ์ว่า ระบบสมัครสมาชิกเช่ารถจะเติบโตเฉลี่ย 71% ต่อปีจนถึงปี 2565 ทั่วโลกมีธุรกิจที่จับระบบนี้ ทั้งสตาร์ตอัปและค่ายรถยนต์
- ระบบสมัครสมาชิกจะทำเงินหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ Zion Market Research คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของโมเดลสมัครสมาชิกจะเติบโตจาก 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 เป็น 10,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568
- ผู้บริหารส่วนใหญ่สนใจ แต่น้อยรายที่ทำสำเร็จแล้ว Manifesto Growth Architect บริษัทที่ปรึกษาด้านการเติบโตทางธุรกิจ สำรวจผู้นำธุรกิจ 504 ราย พบว่า 70% มองโมเดลการสมัครสมาชิกเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการเติบโตในอีกหลายปีข้างหน้า แต่กลับมีเพียง 24% ที่เริ่มนำไปใช้จริงในธุรกิจแล้ว และ 7% เท่านั้นที่เริ่มมีรายได้จากระบบสมัครสมาชิกอย่างชัดเจน
จะเห็นได้ว่า บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการแบบสมัครสมาชิกกำลังเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และสร้าง Recurring Income (รายได้ที่เข้ามาต่อเนื่อง) ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง
ขณะที่บิ๊กเทคอย่าง Facebook และ Amazon ถูกจัดเป็น 1 ใน 5 หุ้นที่ควรลงทุนในเดือนกันยายน
โดย Amazon ยังเป็นหุ้นที่เติบโต นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนเทคโนโลยีได้อย่างครบถ้วนเมื่อถือ Amazon ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ คลาวด์ และโฆษณาออนไลน์
สำหรับ Facebook เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเป็นเจ้าของ Instagram ที่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไปแล้ว WhatsApp สร้างตลาดใหม่ในยุโรป ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
Jitta Wealth ได้อัปเดต 30 รายชื่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ใน Jitta Ranking – U.S. Tech สำหรับปี 2564 คุณสามารถดูบริษัทที่มีการเติบโตทั้งรายได้และงบการเงินได้เลย
5 หุ้นเทคสหรัฐฯ ปี 2564 พร้อมดันพอร์ต Jitta Ranking – U.S. Tech เติบโต
ใบ้ให้ว่า Facebook และ Amazon ติดอยู่ใน Top 5 ใน Jitta Ranking – U.S. Tech บทความนี้จะไฮไลต์ภาพรวมบริษัทและการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ
ส่องพอร์ตลูกค้าคนแรกของ Jitta Ranking – U.S. Tech ผลตอบแทนโต 49%
อยากรู้ว่า ลงทุน Jitta Ranking – U.S. Tech ผลตอบแทนเติบโตอย่างไร ลองดูพอร์ตลูกค้าคนแรก – คุณอดุลย์ สารบัญ อดีตผู้บริหารบริษัทลูกในอินเดียของบมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)
ผู้เล่นเกมบนสมาร์ตโฟนในอินเดียเพิ่มขึ้น 45%
Sony ได้เปิดตัวเกมคอนโซล Playstation 5 โดยคาดว่า จะเขย่าอุตสาหกรรมเกมในอนาคต และทำกำไรมหาศาลให้แก่ผู้ผลิตวิดีโอเกมทั่วโลก หลังจากวางขายในช่วง Holiday Season ปลายปี 2564
โดย Sony จูงใจให้ผู้เล่นสมัครสมาชิกรายปี จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ให้บริการเครื่องเกมคอนโซล และด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ที่นำมาใช้ในระบบเกมปัจจุบัน จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแทนระบบดั้งเดิมในอนาคต
นอกจากนี้โอกาสเติบโตด้านจำนวนผู้เล่นเกม สปอตไลต์ฉายไปที่ ‘อินเดีย’ ประเทศที่น่าจับตามองที่สุด มียอดผู้เล่นเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักในอินเดีย
แต่กลับทำให้มีผู้เล่นเกมบนสมาร์ตโฟนเพิ่มขึ้น 45% ทั่วประเทศ และจำนวนผู้เล่นใหม่ในเกมต่างๆ ก็เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกันโดยเฉพาะเกมออนไลน์
อัตราการเติบโตของผู้เล่นเกมออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านคนในปี 2559 เป็น 90 ล้านคนในปัจจุบัน จากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้อินเดียเป็นที่จับตามองของอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ ซึ่งมีโอกาสจะเข้าตีตลาดอินเดียในอนาคต
ธุรกิจเกมและอีสปอร์ต Jitta Wealth มีให้ลงทุนผ่าน Global X Video Games & E-sports ETF (HERO) ที่รวบรวมบริษัทเกมชั้นนำระดับโลกให้คุณได้กระจายลงทุน คว้าโอกาสเติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์แห่งอนาคต
โอกาสลงทุน Thematic ทั่วโลก
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณตราวุทธิ์ได้มีโอกาส Live ในรายการทันหุ้นทันเกม ของหนังสือพิมพ์ทันหุ้น ได้ไฮไลต์ความน่าสนใจของ Thematic ETF ที่ Jitta Wealth พาคุณไปลงทุนใน ETF ทั่วโลก
3 ตลาดหุ้นใหม่บน Jitta สวีเดน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย พร้อมให้บริการแล้ววันนี้
Jitta ได้เปิดให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 3 ประเทศ – สวีเดน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ตอนนี้แพลตฟอร์มของเราได้ให้บริการครอบคลุมใน 19 ประเทศแล้ว
สรุปข่าวสารการลงทุนทั่วโลก
บริษัทวิจัยตลาด International Data Corporation (IDC) ประเมินภาพรวม ‘ตลาดสมาร์ตโฟน’ ทั่วโลกปี 2564 จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 7.4% อยู่ที่ 1,370 ล้านเครื่อง เนื่องจากผู้บริโภคซื้อเพื่ออัปเกรดเป็นเทคโนโลยี 5G
แม้มีปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก แต่ IDC คาดว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนมีแนวโน้มดีขึ้น จากบทบาทของ 5G คาดว่า จะอยู่ที่ 570 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 123% จากปี 2563 ครองสัดส่วนยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลก 54.1%
จีนยังเป็นผู้นำตลาดผู้ใช้งาน 5G ถึง 47.1% ตามมาด้วยสหรัฐฯ 16% และอินเดีย 6.1% สำหรับปี 2565-2566 คาดว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนจะเติบโต 3.4%
จากการสำรวจ 16,000 คน จากสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม พบว่าการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในช่วง Covid-19 ทำให้แต่ละประเทศจะมีประชากรกว่า 70% เป็นผู้บริโภคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ในปี 2564
ทำให้สัดส่วนการใช้อีคอมเมิร์ซจะเติบโตจาก 5% เป็น 9% ซึ่งเติบโตเร็วกว่าอินเดีย บราซิล และจีน
อ้างอิงจากรายงานประจำปีของ Facebook และ Bain & Co. พบว่า อาเซียนมีผู้ซื้อออนไลน์หน้าใหม่กว่า 70 ล้านคน มีการใช้จ่ายในปี 2563 กว่า 238 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 381 ดอลลาร์ ภายในปี 2564
มีรายงานว่า ในไตรมาสที่สองของปี ชาวอาเซียนกว่า 346 ล้านคน จะใช้ Facebook ทุกวัน และมากกว่า 95% ของผู้ตอบแบบสอบถามเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ตโฟน
แนวโน้มการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในอาเซียน ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ลงทุน Thematic ธีมอีคอมเมิร์ซ เนื่องจาก ProShares Online Retail ETF (ONLN) ถือหุ้นยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้หมดแล้ว ทั้ง Alibaba ที่ลงทุนใน Lazada และ Sea เจ้าของ Shopee นอกจากนี้ยังมี Amazon ผู้นำอีคอมเมิร์ซโลก MercadoLibre ที่โด่งดังในอเมริกาใต้ และ Pinduoduo จากจีน นับว่าเป็นการลงทุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในทุกมุมโลก กระจายความเสี่ยงรับมือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งได้เป็นอย่างดี
ในระยะสั้น นโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศอาจจะทำให้ธีมอีคอมเมิร์ซติดลบได้ แต่ในระยะยาวแล้ว แนวโน้มของธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโต พร้อมพาพอร์ตคุณทะยานไกลเช่นเดียวกัน
Pfizer เริ่มทำการทดลอง ‘ยาเม็ดต้านโควิด’ ในผู้ป่วยโควิดที่แสดงอาการ แต่ไม่สามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาล โดย Pfizer ได้ทดลองกว่าผู้ป่วยจำนวน 1,140 คน ซึ่งโครงการกำลังอยู่ในระยะที่ 2 และ 3
หากการทดลองสำเร็จ Pfizer จะยื่นของอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในไตรมาสที่ 4 เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
Walvax Biotechnology ผู้พัฒนาวัคซีน mRNA ป้องกัน Covid-19 ตัวแรกของจีน คาดว่า จะรายงานประสิทธิภาพวัคซีนในการทดลองระยะสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2564
วัคซีน ARCov ร่วมพัฒนาโดย Walvax Biotechnology และ Suzhou Abogen Biosciences และสถาบันวิทยาศาสตร์แพทย์ทหาร (AMMS)
ล่าสุดได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในอินโดนีเซียและเม็กซิโกให้ทดลองเฟส 3 มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน คาดว่า จะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน Covid-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมไปจนถึงสายพันธุ์เดลตา
องค์การอนามัยโลก (WHO) หนุนฉีดวัคซีน Covid-19 บูสเตอร์โดสให้กับกลุ่มผู้ที่เปราะบางก่อน เป็นมุมมองล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ WHO บอกว่า ควรชะลอแผนการฉีดที่เข็มสาม และให้ความสำคัญกับประเทศยากจนได้ฉีดวัคซีนก่อน
ทางด้านเบลเยี่ยมได้เปิดเผยผลวิจัยออกมาว่า วัคซีน Moderna สร้างภูมิคุ้มกันมากกว่า Pfizer ถึง 2 เท่า โดยบันทึกข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์เกือบ 2,500 คน เพื่อเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายหลังจากได้รับวัคซีน
ประธานาธิบดี Xi Jinping ประกาศเตรียมตั้งตลาดหุ้นปักกิ่ง เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กเข้าระดมทุนได้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของบริษัทเอกชน มุ่งเน้นไปที่ SME และสตาร์ตอัปที่คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
แม้ว่าจะยังไม่ได้กำหนดไทม์ไลน์ชัดเจน แต่ ‘ว่าที่ตลาดหุ้นปักกิ่ง’ จะเป็นส่วนหนึ่งของ National Equities Exchange and Quotations (NEEQ) หรือ The New Third Board เป็นระบบซื้อขายหุ้นของบริษัทที่ไม่ได้อยู่ใน 2 ตลาดหุ้นหลัก
จีนออกกฎข้อบังคับให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมออนไลน์ได้แค่ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยสามารถเล่นเกมได้เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงเวลา 20.00-21.00 น. เล่นได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
จากการประกาศดังกล่าวทำให้หุ้นของบริษัทอุตสาหกรรมเกมในจีน เช่น Tencent และ NetEase ตกลงไปอย่างรวดเร็ว และสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการแข่งอีสปอร์ตของประเทศจีนด้วย
ธนาคาร Standard Chartered ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามลง จาก 6.5% เป็น 4.7% เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ที่แย่ลง และเป็นการปรับครั้งที่ 3 ในปี 2564
ธนาคารได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามในปี 2565 ลงจาก 7.3% เป็น 7% ด้วย คาดการณ์ว่า การระบาดของ Covid-19 จะชะลอการลงทุนภายในเวียดนาม ซึ่งนั่นส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ GDP ด้วย
คณะบริหารของประธานาธิบดี Joe Biden เผยข้อมูล สหรัฐฯ จ่อลงทุน 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐรับมือโรคระบาดใหม่ ช่วยประเทศเตรียมรับมือภัยคุกคามทางชีววิทยารอบใหม่ หลังการแพร่ระบาด Covid-19 สิ้นสุดลง
การระบาดใหญ่ครั้งต่อไป อาจจะแตกต่างไปมากจาก Covid-19 ดังนั้นสหรัฐฯ จึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือ แผนการดังกล่าวมีชื่อว่า American Pandemic Preparedness : Transforming Out Capabilities ซึ่งมีแผนลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีกทศวรรษหน้า
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 แล้วนะ เวลาผ่านไปเร็วมากๆ แป๊บๆ ก็จะเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ทำให้ย้อนคิดได้ว่า Covid-19 อยู่กับเรามา 19 เดือนได้แล้ว
ดูเหมือนว่า เราเผชิญวิกฤตและความเสี่ยงมากมาย สุดท้ายหากคุณยังเชื่อมั่นในหลักการลงทุนแบบ DCA ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้พอร์ตลงทุนผันผวนน้อยลงและทนทานต่อปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาได้
แล้วพบกันสัปดาห์หน้า