Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

Jitta Wealth Journal – ญี่ปุ่นพร้อมทวงบัลลังก์ผลิตชิป ตอบรับโลกเทคฯ


Jitta Wealth Journal

เนื้อหาสำคัญ

IMF ปรับตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจจีนใหม่รับปีมังกร

Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 155 ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566

แบบสำรวจ Reuters ชี้ Fed จะคงดอกเบี้ยถึงกลางปีหน้า จีนมีเฮ! IMF ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโต ไทยเตรียมปรับเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล ญี่ปุ่นทุ่ม 2 ล้านล้านเยน ทวงบัลลังก์เจ้าแห่งชิป 

รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +1.31% DJIA +0.65% NASDAQ +2.37%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับบวกเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน นักลงทุนคลายกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทาง Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางแอดแลนตา (Federal Reserve Bank of Atlanta)  กล่าวว่า Fed จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากผลกระทบทั้งหมดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องใช้เวลา

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +0.07% TOPIX +0.62% VNI +2.31% SET -2.13%

ตลาดหุ้นจีนยังคงปรับบวกเล็กน้อย นักลงทุนเฝ้าติดตามผลกระทบเชิงบวกจากนโยบายกระตุ้นของรัฐบาล ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทรงตัวในแดนบวก นักลงทุนยังคงให้ความเชื่อมั่น ตลาดหุ้นเวียดนามบวกแรง รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 47.6% จากปีก่อน ตลาดหุ้นไทยปิดลบ หลังจากข่าวการประชุม FOMC ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนส่งผลให้มีแรงขายทำกำไร

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 12 พฤศจิกายน 2566


improve-investor-returns-by-time

กลยุทธ์ลงทุนลดโอกาสขาดทุน ทนทุกสภาวะตลาด 

‘ให้เวลาเยียวยาทุกสิ่ง’ คำกล่าวที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ คำคุ้นหูที่ไม่มีทางพิสูจน์ความจริงได้ จนกว่าคุณจะลองได้ด้วยตัวเอง แล้ว ‘เวลา’ เยียวยาการลงทุนได้หรือไม่ ‘เวลา’ ที่หลายคนลืมนึกถึงไปว่าเป็นตัวกำหนดเส้นทางการลงทุน ‘เวลา’ จะช่วยพอร์ตของคุณได้อย่างไร Jitta Wealth หาคำตอบมาให้แล้ว 

อ่านต่อ 

รับชมวีดีโอ


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

แบบสำรวจ Reuters ชี้ Fed จะคงดอกเบี้ยถึงกลางปีหน้า

ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25% – 5.50% ซึ่งเกิดขึ้นในการประชุมทั้งสองครั้งล่าสุด แต่ก็ยังไม่ได้ปิดประตูที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แม้ว่าความเป็นไปได้จะต่ำก็ตาม

จากแบบสอบถามนักเศรษฐศาสตร์ถึง 86% คาดการณ์ว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่คนส่วนใหญ่กว่า 58% คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในช่วงกลางปี ซึ่งใกล้เคียงกับความคิดเห็นจำนวน 55% ในการสำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว 

สิ่งที่จะสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยคือตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่คงไม่เกิดขึ้นในเวลาอันสั้นนี้ หลังสหรัฐฯ ประกาศอัตราเติบโตเกือบ 5% ในไตรมาสที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 1.1% ต่อปีในไตรมาสนี้ และเฉลี่ยเพียง 1.1% ในปี 2567

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน Fed ไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เพียงแต่ต้องรอให้เศรษฐกิจอ่อนตัวลง จากนโยบายและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมา

นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ แม้จะคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไปอีกสักระยะ แต่หากมีการปรับลดที่เร็วขึ้น จะส่งผลต่อการกลับตัวของตลาดหุ้นในปีหน้า ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป อาจจะได้เห็นข่าวดีของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปี 2567 ก็เป็นได้


jitta wealth journal - china stocks

‘หุ้นจีน’ พร้อมทะยานรับตลาดปีมังกร

ท่ามกลางวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน พานักลงทุนอกสั่นขวัญหาย แต่ทำไม IMF กลับมองสวนทาง คาดการณ์ GDP สูงขึ้นแตะ 5.4% ปัจจัยอะไรสนับสนุนให้จีนโตได้? อุตสาหกรรมอะไรน่าสนใจ ฉายแววเด่น? คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth พร้อมตอบ แถมแนวทางการลงทุนในหุ้นจีนคุณภาพ 

รับชม 


เศรษฐกิจจีน

จีนมีเฮ! IMF ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโต

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของจีนเป็น 5.4% ในปี 2566 เพราะการเติบโตไตรมาส 3 ดีเกินคาด เป็นการปรับการคาดการณ์จากครั้งก่อนที่ 5% เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นฟู

อย่างไรก็ตาม IMF คาดว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงในปีหน้าเป็น 4.6% ท่ามกลางความอ่อนแอในตลาดอสังหาริมทรัพย์และอุปทานสินค้าจีนที่น้อยลงในตลาดต่างประเทศ การปรับเพิ่มการคาดการณ์ของ IMF ถือเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสอง 

อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งก่อน IMF ได้เรียกร้องให้รัฐบาลจีนดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์และเร่งเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ

รัฐบาลจีนได้ดำเนินการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์บางส่วน เช่นการผ่อนคลายข้อจำกัดในการกู้ยืมเพื่อการซื้อบ้านและการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี Loan Prime Rate (LPR) 1 ปี ลงมาสองครั้งในปีนี้แต่ก็ยังอยู่ที่ระดับ 3.45% และ 5 ปีอยู่ที่ 4.20% 

แต่ด้วยสถานการณ์เงินหยวนที่อ่อนค่าลงทำให้จีนไม่สามารถใช้นโยบายที่ผ่อนคลายและทำการลดดอกเบี้ยในตอนนี้ได้เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินหยวน 

คาดว่าจีนอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกในไตรมาสนี้หรือต้นปีหน้าเพื่อกระตุ้นการกู้ยืมอีกครั้ง 

จีนยังโฟกัสกับการเติบโตทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศ โดยไม่ต้องพึ่งการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของจีน รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นนโยบายด้านอื่นๆ เพิ่มเติม 

จากที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลจีนยอมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อผลักดันเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน และจากที่ตลาดค่อยๆ มีสัญญาณฟื้นตัวให้เห็น คาดว่าในปี 2567 จีนอาจกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง


shopping day

ข้อดีของวันคนโสด ที่คนมีคู่ก็ร้อง อู้หู! ได้ 

สายช็อปปิงคงคุ้นเคยกับโปรเด็ดในโลกออนไลน์อย่างวันที่ 11 เดือน 11 ที่ของมากมายจะถูกลดแลกแจกแถม ให้คนโสดไม่โสดต้องกระเป๋าเงินสั่น และมันก็คือวันของคนโสดด้วย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอย่างปฎิเสธไม่ได้ แล้วหุ้นตัวไหนมีสถิติน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจไทย

สรุปเกณฑ์เงินดิจิทัล นายกยืนยันจำเป็นต่อเศรษฐกิจ   

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตนรี ตอบคำถามนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยืนยันว่า รัฐบาล “แจกให้แน่นอน” ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

  1. เป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
  2. มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน
  3. มีเงินฝากในบัญชีธนาคารรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

ซึ่งจะเหลือคนที่ได้สิทธินี้ทั้งสิ้น 50 ล้านคน ภายใต้วงเงิน 500,000 ล้านบาท และโยกเงินส่วนที่เหลือไปเป็นงบในการผลักดัน 13 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ 

โดยคาดว่าจะเปิดลงทะเบียนยืนยันการใช้สิทธิเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 และประชาชนจะเริ่มใช้สิทธิครั้งแรกได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยมีระยะเวลา 6 เดือนในการใช้งาน นับจากการใช้ครั้งแรก ซึ่งระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินจะอยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 

อีกเงื่อนไขคือ ผู้ได้รับสิทธิ จะต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2567 หากยืนยันตัวตนแล้วไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่า ‘สละสิทธิ’

โดยจะสามารถนำเงินดิจิทัลไปใช้ซื้อ สินค้า อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ในพื้นที่อำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนให้มากที่สุด 

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า โครงการนี้มีความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตอบโจทย์ GDP ซึ่งระบุว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา GDP ประเทศไทย โดยเฉลี่ยเพียง 1.8 – 1.9% เท่านั้น ต่ำกว่าศักยภาพ 

อีกทั้งระบุว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ค่าเฉลี่ยรั้งท้ายประเทศในกลุ่มอาเซียน และยังมีความเหลื่อมล้ำที่เรื้อรังยาวนาน โดยมีปัจจัยเสี่ยงมากมาย เช่น สงครามระหว่างประเทศ สถานการณ์ Covid-19 และความแตกต่างของรายได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข 

การอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจจึงเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาความยากจน และส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นคั่งในอนาคต แต่ก็ต้องทำให้ปริมาณที่เหมาะสม คงต้องติดตามกันต่อไปว่า บาลานซ์ที่ว่าคืออะไร และนโยบายนี้จะช่วยดันเศรษฐกิจไทยแค่ไหน 


jitta wealth journal - 16 weeks project 7

คู่มือลงทุน 101 16 ก้าว สู่การเป็นมือโปร ก้าวที่ 8 เช็คนิสัย คุณใช้เงินแบบไหน

มาสำรวจลักษณะนิสัยการใช้จ่าย คุณใช้เงินแบบไหน พร้อมแนะนำสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม เพื่อการออมเงินที่ง่าย และเป็นตัวคุณมากยิ่งขึ้น พร้อมเก็บเงินเพื่อลงทุนต่อไปได้อย่างมั่นใจ 

สำรวจตัวเองได้ในก้าวที่ 8


เซมิคอนดักเตอร์

ญี่ปุ่นทุ่ม 2 ล้านล้านเยน ทวงบัลลังก์ผู้ผลิตชิป 

ในช่วงปี 1980 ญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าตลาดไมโครชิปของโลกกว่า 50% แต่ในปัจจุบันส่วนแบ่งทางการตลาดกลับลดลงมาเหลือเพียง 10% เนื่องจาก Samsung Electronics ของเกาหลีใต้ปรับตัวได้ดีกว่าและแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ไป 

Bloomberg รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรมกำลังเตรียมเงินกว่า 2 ล้านล้านเยน เพื่อดันอุตสาหกรรมผลิตชิป พร้อมทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ยังขาดเงินสนับสนุนอีกกว่า 1.85 ล้านล้านเยนเพื่อมาเป็นส่วนเสริม ให้มั่นใจได้ว่าการผลิตชิปจะอยู่ภายในประเทศ 

เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวว่า ความมั่นคงในอุตสาหกรรมชิปมีความตึงเครียดมาก ทำให้ญี่ปุ่นได้รับความสนใจจากในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น 

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องการให้ Rapidus สตาร์ตอัปผลิตชิป สามารถเข้าแข่งขันกับบริษัทชิปชั้นนำของโลกอย่าง TSMC รวมไปถึง Samsung Electronics ให้ได้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2570 ต้องผลิตชิปขั้นสูงให้ได้ 

เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแผนระยะยาวในการทวงบัลลังก์เจ้าพ่อวงการชิป หลังโดนแย่งตำแหน่งไปนาน ที่ผ่านมาญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีความตั้งใจและน่าเชื่อถือ เป้าหมายนี้คงไม่ไกลเกินฝัน น่าติดตามว่าความยิ่งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว และยิ่งใหญ่แค่ไหน 


jitta wealth journal - review port

รีวิว Jitta Wealth ให้เวลาเรียนรู้การลงทุนรับอนาคตกับ Thematic DIY +26.86%

คุณปวรุตม์ เฉยทิม พนักงานเดินเรือในธุรกิจพาณิชย์นาวี ผู้สนใจเรียนรู้เรื่องการลงทุน เกือบ 3 ปีเต็มที่คุณปวรุตม์ลงทุนกับ Jitta Wealth ใน Thematic DIY ธีมการลงทุนแห่งโลกอนาคต แต่พอร์ตเติบโตไปแล้วกว่า +32.56% เอาชนะดัชนี S&P 500 Index ในช่วงเวลาเดียวกันไปเรียบร้อย 

อ่านต่อ 


เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กับเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ หลายๆ ประเทศต่างมองไปถึงก้าวต่อไปในปีหน้า แม้บางประเทศจะยังคงมุ่งมั่นผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

ตลาดเริ่มมีการตอบรับกลไกนโยบายให้นักลงทุนได้ใจชื้นกันไปบ้างแล้ว และคาดว่าระยะเวลาจะช่วยให้นโยบายต่างๆ ที่ถูกใช้ออกไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเริ่มค่อยๆ ตอบสนองและเยียวยาตลาดได้ในที่สุด

ท่ามกลางความผันผวนที่ยังมีอยู่ ล้วนแฝงไว้ด้วยโอกาส และไม่ว่าตลาดจะสะดุดอีกสักกี่ครั้ง ก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา 

หุ้นหลายๆ ตัวจึงไม่สามารถดูจากราคาเพียงอย่างเดียวได้ เพราะแม้ราคาจะปรับตัวลง ผันผวนตามกลไกตลาด แต่พื้นฐานของธุรกิจอาจเติบโตไปอย่างไม่หยุดหย่อน รอเพียงแค่เวลาที่ราคาจะเติบโตตามมาเท่านั้น

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – ระวังพลาดหุ้นราคาดี พันธบัตรจีนดันเศรษฐกิจ

Jitta Wealth Journal – 3 สัญญาณบอกหุ้นจีนกำลังมา