Jitta Wealth Journal – 3 สัญญาณบอกหุ้นจีนกำลังมา
เงินเฟ้อไทยลดลงครั้งแรกในรอบ 25 เดือน
Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 154 ประจำวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566
บริษัทกองทุนบอกสัญญาณดีหุ้นจีนกำลังมา ตัวเลขจ้างงานชะลอตัว สนุบสนุน Fed ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย มาตรการของรัฐได้ผล เงินเฟ้อไทยติดลบในรอบ 25 เดือน ญี่ปุ่นเพิ่มงบ 17 ล้านล้านเยน ต่อสู้เงินเฟ้อ Elon Musk เชื่อ คนทั้งโลกตกงานเพราะ AI
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ
S&P 500 +5.85% DJIA +5.07% NASDAQ +6.61%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับบวกแรงหลัง Fed แถลงคงอัตราดอกเบี้ย แนวโน้มตัวเลขจ้างงานลดลงให้สัญญาณที่ดี ทำให้ Fed ไม่มีเหตุผลที่จะเพิ่มดอกเบี้ยอีก
ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย
CSI 300 +0.61% TOPIX +3.00% VNI +1.52% SET +2.27%
ตลาดหุ้นจีนปรับบวก มีการใช้ Margin (เงินกู้ยืม) ในการซื้อขายหุ้นมากขึ้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวกแรง รัฐบาลอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 17 ล้านล้านเยน ตลาดหุ้นเวียดนามปรับบวก ตัวเลขการส่งออกค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตลาดหุ้นไทยบวกแรงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค นักลงทุนคลายกังวลหลังประชุม FOMC
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 5 พฤศจิกายน 2566
รวบตึง 3 นโยบายลงทุน Jitta Wealth เลือกแบบไหน…ที่ตรงใจ ปีล่าสุด
คุณกำลังมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศอยู่รึเปล่า แต่ก็ไม่รู้ว่านโยบายไหนที่ตรงใจ บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ ประกอบการตัดสินใจ เลือกนโยบายที่เหมาะกับความเสี่ยงของคุณ
เศรษฐกิจจีน
กองทุนรายใหญ่จีนมั่นใจดันหุ้นในประเทศ เงินไหลกลับเข้าสู่ตลาด
โดย E Fund GF Fund และ China Asset ถือเป็นบริษัทกองทุนรวมสามอันดับแรกของจีนที่บริหารหุ้นมูลค่าสูงที่สุดของประเทศ จุดยืนเชิงบวกของทั้ง 3 บริษัทถือเป็นสัญญาณที่สำคัญสำหรับตลาดหุ้นจีน
มุมมองของ Li Yimei ผู้จัดการกองทุนของ China Asset กล่าวว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นจีนในช่วงที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งเป็นผลมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ใกล้จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
หมายความว่าแรงกดดันของสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อาจเป็นส่วนเสริมให้เงินไหลกลับเข้าสู้ตลาดหุ้นอื่นๆ นอกจากสหรัฐฯ มากขึ้น
สามารถสรุป 3 เหตุผลดันหุ้นจีนได้ดังนี้
- กองทุนรวมของจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดหุ้นระยะสั้น
- รัฐบาลจีนกำลังดำเนินการเพื่อเปิดเสรีภาคการเงินและดำเนินการปฏิรูปการลงทุนของประเทศจีนอีกด้วย
- บริษัท Central Huijin Investment หน่วยงานหนึ่งของกองทุนความมั่งคั่งของประเทศ ซื้อกองทุน ETFs ของประเทศโดยที่ไม่เปิดเผยจำนวน และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธนาคารของรัฐขนาดใหญ่ 4 แห่ง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตลาดที่เพิ่มขึ้น
คู่มือลงทุน 101 16 ก้าว สู่การเป็นมือโปร ก้าวที่ 7 ‘จด’ อย่างไร ให้รู้จักตัวเอง
‘จด’ จะช่วยให้การลงทุนของเราดีขึ้นได้อย่างไร มาทำความเข้าใจ การจดบันทึก งบดุล และสินทรัพย์ จดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ จดอย่างไรให้รู้จักตัวเอง เพื่อการลงทุนที่ยั่งยืนในอนาคต
เศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตัวเลขจ้างงานชะลอ สนับสนุน Fed ไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย
สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ตามการสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์ของ Reuters คาดว่าการจ้างงานภาคการผลิตจะลดลง 10,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 17,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน
รายงานการจ้างงานของกระทรวงแรงงาน แสดงให้เห็นว่าสภาวะตลาดแรงงานผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของค่าจ้างรายปีน้อยที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง ซึ่งรายงานดังกล่าวอาจสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป
ในการประชุมล่าสุด Fed ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากยังควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รายงานการจ้างงานประจำเดือนตุลาคมได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดเพราะจะมีผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินในอนาคต แต่เรียกได้ว่ารายงานตัวเลขล่าสุดเป็นไปในทิศทางที่ดี
หุ้นไทยใครว่าแย่ แก้ได้ด้วยการลงทุนระยะยาว
ตลาดหุ้นไทยดุดันไม่แพ้ใคร กับพอร์ต Jitta Ranking หุ้นไทย ของคุณธนพร ไขรัศมี ที่ตลอดเวลา 3 ปีเศษ สร้างผลตอบแทนไปกว่า 48.93% อะไรทำให้ตัดสินใจลงทุนในหุ้นไทยกับ Jitta Wealth มีการจัดการเงินลงทุนอย่างไรบ้าง จัดการความรู้สึกอย่างไรให้ลงทุนระยะยาวได้อย่างมั่นใจ หาคำตอบได้ที่นี่
เศรษฐกิจไทย
มาตรการของรัฐได้ผล เงินเฟ้อไทยติดลบในรอบ 25 เดือน
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 107.72 จุดเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง 0.31% (YoY) ติดลบครั้งแรกในรอบ 25 เดือน จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและสินค้าอุปโภค-บริโภค
ดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ยตลอด 10 เดือนของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 สูงขึ้นกว่า 1.60% และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการนโยบายการเงินกำหนดเอาไว้
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวลดลง 0.65% ราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มก็ปรับตัวลดลง 0.09% ตามการลดราคาของสินค้ากลุ่มพลังงาน
สนค. ประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนว่า จะยังปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่อย่างไรก็ตามอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยว การส่งออก และราคาสินค้าเกษตร ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรและค่าจ้างดีขึ้น สถานการณ์จากความขัดแย้งในต่างประเทศ การจำกัดการผลิตและส่งออกน้ำมันของผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอาจเป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้เงินเฟ้อไม่เป็นไปตามที่คาด ต้องติดตามกันต่อไปว่า สถานการณ์เงินเฟ้อไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
รถไฟท่องเวลา ฝ่าหลุมดำตลาดหุ้นไทย
ความน่ากลัวของจักรวาลที่เวิ้งว้างอันไกลโพ้นอย่างหนึ่ง คือความดำมืดและเป็นปริศนาของหลุมดำ ที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ในโลกการลงทุนเองก็มี ‘ช่วงเวลาที่หายสาบสูญ’ แล้วอะไรจะที่จะเป็นตัวช่วยดึงนักลงทุนขึ้นมาจากหลุมดำอันน่ากลัวได้ หาคำตอบ ท่องเวลาฝ่าหลุมดำของตลาดหุ้นไทย
เศรษฐกิจญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น เพิ่มงบอีก 17 ล้านล้านเยน เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ
Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 17 ล้านล้านเยน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่งสูงขึ้นจากเงินเยนที่อ่อนค่า อีกทั้งยังเป็นการเรียกคืนความมั่นใจจากประชาชน หลังจากที่คะแนนความนิยมของรัฐบาลลดลง
เป้าหมายของมาตรการในครั้งนี้คือ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาสินค้าที่สูง โดยเน้นไปที่การลดอัตราภาษีชั่วคราว รวมถึงการแจกเงินให้ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ
แม้ในช่วงที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจะพยายามขึ้นค่าแรงให้ประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่าค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่สอดคล้องกับราคาสินค้าที่สูงขึ้นอยู่ดี โดยราคาอาหารที่ไม่รวมอาหารสดพุ่งสูงขึ้นถึง 8.8%
คาดการณ์จากสถาบันวิจัย Nomura ระบุว่า การลดอัตราภาษีชั่วคราวและการแจกเงิน อาจช่วยเพิ่ม GDP ที่แท้จริงของญี่ปุ่นเพียง 0.2% ต่อปีเท่านั้น เปรียบเทียบกับมาตรการในอดีตที่มีลักษณะคล้ายกันพบว่ามาตรการเหล่านี้ไม่สามารถกระตุ้นการบริโภคได้ เนื่องจากครัวเรือนในญี่ปุ่นมีความเรียบง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในญี่ปุ่นพบว่ามีประมาณ 65% ไม่เห็นด้วยกับการลดภาษีเพื่อแก้ปัญหาค่าครองชีพ และมีเพียง 24% ที่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวซึ่งต้องติดตามในระยะยาวว่าเม็ดเงินและนโยบายที่รัฐบาลอัดฉีดในครั้งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่
Talk of the Town
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
ร่วมแสดงความเห็น เพิ่มทุนในพอร์ต ช่วงหุ้นขาขึ้นหรือขาลงดีกว่ากัน
Jitta Wealth ออกโปรดีอะไรช่วงนี้บ้าง
(อย่าลืมกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม )
หุ่นยนต์และ AI
Elon Musk เชื่อว่า คนทั้งโลกจะตกงานเพราะ AI
Elon Musk เจ้าของแพลตฟอร์ม X เชื่อว่า AI จะเป็นสิ่งที่มาดิสรัปต์มนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และในวันหนึ่งมันจะถูกพัฒนาจนถึงขั้นที่ทำให้คนทั่วโลกจะต้องตกงาน
โดยเขาได้กล่าวว่า ในอนาคตจะมีสิ่งที่ฉลาดกว่ามนุษย์ที่สุดเป็นครั้งแรก แต่คงยากถ้าจะต้องระบุว่าสิ่งนั้นจะมาถึงเมื่อไร แต่ AI จะถูกพัฒนาจากปัจจุบันไปจนถึงขั้นที่สามารถทำทุกอย่างแทนมนุษย์ได้ และเขายังได้ระบุอีกว่า ในอนาคต มนุษย์อาจยังทำงานอยู่ แต่การเลือกทำงานนั้นจะเกิดจากความพึงพอใจส่วนตัว และความท้าทายที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือการค้นหาความหมายของชีวิต
Musk ระบุว่าในอนาคต AI อาจเป็นเหมือนยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่ช่วยให้คนได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ที่แตกต่างกันออกไปคือ สิ่งที่ต้องการ สามารถขอได้ไม่จำกัด และอาจเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ได้
และก่อนหน้านี้ Musk เคยเตือนถึงภัยคุกคามจาก AI ที่อาจเป็นอันตรายยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์ หลายครั้งแล้ว และยังเคยเรียกร้องให้ OpenAI หยุดพัฒนา AI ที่มีความก้าวหน้ากว่า GPT-4
ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดเหมือน Musk เพราะ Alex Karp ผู้บริหารบริษัท Palantir เคยกล่าวว่า ผู้คนที่เรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ก็ทำไปเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เองได้
เป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันในอนาคตว่า AI จะมีผลกระทบกับมนุษย์มากขนาดไหน หรือมนุษย์จะพัฒนาและยังคงอยู่เหนือกว่า AI ได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ในปัจจุบันธุรกิจหรือธีมการลงทุนเกี่ยวกับหุ่นยนต์ และ AI กำลังก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยทีเดียว
เป็นสัปดาห์แรกๆ ในหลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมาเลยที่ทุกตลาดเป็นบวก สีเขียวชื่นใจ ให้นักลงทุนได้ใจชื้นขึ้นมาสักหน่อย
ด้วยทิศทางของตลาดหุ้นหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมา ฉายแววดี ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเริ่มกลับเข้าตลาด
เริ่มด้วยจีน ที่รัฐบาลพยายามหาทุกวิถีทางแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจ ออกนโยบาย เล่นทุกกระบวนท่า ผลักดันเศรษฐกิจพร้อมโชว์ศักยภาพในการแก้ปัญหาเพื่อเรียกความน่าเชื่อถืออีกครั้ง และดูแล้วก็เหมือนจะได้ผล ดันตลาดจีนส่งสัญญาณดีอีกครั้ง
สหรัฐฯ ยังคงเฝ้ามองการตัดสินใจเดินหมากต่อของ Fed ในการเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ย ไทยเองก็มีข่าวดีเช่นกัน เพราะอัตราเงินเฟ้อลดลงในรอบ 25 เดือน ส่งสัญญาณนโยบายเดินมาถูกทาง
เรียกได้ว่า สำหรับนักลงทุนระยะยาวอย่างเราๆ ผลตอบแทนสีเขียวๆ ก็เหมือนน้ำเย็นๆ หล่อเลี้ยงจิตใจให้เดินหน้าต่อไป
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง
Jitta Wealth Journal – 3 วิธีรับมือหลัง Fed คงดอกเบี้ยสูง
Jitta Wealth Journal – ระวังพลาดหุ้นราคาดี พันธบัตรจีนดันเศรษฐกิจ