Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

ลงทุน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ทำไมต้อง Jitta Ranking?


Jitta Ranking

เนื้อหาสำคัญ

ไฮไลต์

  • ‘ญี่ปุ่น’ ขุมทรัพย์หุ้นดีที่ถูกลืม แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับมาโตแล้ว มีหุ้นดีราคาถูกรอให้คุณค้นหาอีกเพียบ
  • การลงทุน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ มีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะลงทุนเอง ซื้อกองทุน หรือลงทุนกับนโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่น เราสรุปมาให้แล้วว่าแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
  • ‘Jitta Ranking ญี่ปุ่น’ ลงทุนหุ้นญี่ปุ่นระยะยาว คัดกรองหุ้นพร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติทุก 3 เดือนด้วยระบบ AI พิสูจน์ด้วยการทดสอบ Back test ว่าชนะตลาดได้จริง พร้อมให้คุณลิ้มลองรสชาติความหอมหวานของตลาดหุ้นแดนปลาดิบได้แล้ววันนี้

ช่วงนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่กระแส ‘ลงทุนหุ้นญี่ปุ่น’ เต็มไปหมด คุณอาจยังสงสัยว่าทำไมตอนนี้ ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ถึงกำลังเนื้อหอมสุดๆ

ขณะที่หลายคนมั่นใจแล้วว่าจะลงทุนหุ้นญี่ปุ่น แต่กลับมีเรื่องต้องตัดสินใจต่อ เพราะวิธีการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นมีเต็มไปหมด แล้วทางเลือกไหนถึงเหมาะกับคุณมากที่สุดกันล่ะ?

บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจว่า ‘หุ้นญี่ปุ่น’ จะโตได้อีกแค่ไหน แล้วลงทุนยังไงได้บ้าง วิธีไหนจะเหมาะกับคุณ เพื่อให้คุณเปิดพอร์ตลงทุน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ได้อย่างมั่นใจ

‘ญี่ปุ่น’ ขุมทรัพย์หุ้นดีที่ถูกลืม

ต้องเล่าก่อนว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังเนื้อหอมสุดๆ สำหรับนักลงทุนทั่วโลกที่อยากลงทุนในตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (Developed market) เพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป เพราะเห็นแล้วว่า ‘ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโตมากกว่าที่คิด’

ในปี 2565 IMF คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโต 2.4% สูงสุดในรอบ 12 ปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ คุณจึงหมดกังวลเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นได้เลย ทำให้บริษัทจัดการลงทุนยักษ์ใหญ่หลายแห่งเห็นโอกาสทองตรงนี้ โดยเฉพาะ BlackRock ที่แนะนำให้ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น 

หรือแม้แต่นักลงทุนที่รวยที่สุดในโลกอย่าง Warren Buffett ก็ย่องมาลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นถึง 5 แห่งอย่างเงียบๆ ตั้งแต่ปี 2563 จนอิ่มหนำสำราญกับกำไรก้อนโตไปแล้ว

ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น คุณจะเจอ ‘หุ้นดี ราคาถูก’ จำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลายบริษัทกำไรเติบโตสูงแต่ราคาหุ้นกลับไม่ไปไหน เพราะเป็นตลาดหุ้นที่ถูกมองข้ามมานาน นักลงทุนติดภาพเก่าๆ ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่โต เงินฝืด อยู่ใน ‘ทศวรรษที่สาบสูญ’ หรือ The Lost Decade ซึ่งผ่านไปนานแล้ว

และทุกคนก็เหมือนแกล้งลืมว่าบริษัทญี่ปุ่นมีการลงทุนตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศจำนวนมาก ใช้ทรัพยากรของประเทศอื่นผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสร้างกำไรและส่งกลับไปญี่ปุ่น ช่วงนี้เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจาก Covid-19 บริษัทญี่ปุ่นจึงได้ประโยชน์เต็มที่ ต้องรีบตักตวง รีบเข้าไปเก็บหุ้นก่อนที่คนอื่นจะรู้

และถึงแม้ในฉากหน้าญี่ปุ่นจะดูไม่ได้เป็นผู้นำเทคโนโลยียุค 4.0 แต่หลายบริษัทจากแดนซามูไรก็แอบชักใยอยู่ เบื้องหลังสายการผลิตเทคโนโลยีเมกะเทรนด์ล้ำยุคอยู่อย่างเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดีไซน์สวยงาม ตอบโจทย์ผู้ใช้ของ Apple Inc. หรือรถยนต์ EV ที่ดูโฉบเฉี่ยวของ Tesla หลายบริษัทผลประกอบการโตระเบิดก็เพราะแบบนี้ เพียงแต่ ‘คุณไม่รู้’

3 ทางเลือกลงทุน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ แบบไหนที่ใช่คุณ

ถึงตรงนี้คุณคงรู้สึกไม่อยากตกขบวน อยากมีหุ้นญี่ปุ่นในพอร์ตขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อโลกเปิดกว้าง เทคโนโลยีพัฒนา การลงทุนต่างประเทศก็ทำได้หลากหลายวิธีมากขึ้น เราจะชี้ให้เห็นข้อดี-ข้อเสียของวิธีการลงทุนหุ้นญี่ปุ่นทั้ง 3 ทางที่ทุกคนเข้าถึงได้ เอาให้เห็นชัดๆ ไปเลยว่าคุณเหมาะกับทางเลือกไหน

ทางเลือกที่ 1: เปิดพอร์ต ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ลงทุนเอง

หากคุณลงทุนหุ้นด้วยตัวเองอยู่แล้ว การเปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศก็มักเป็นทางเลือกแรกที่หลายคนนึกถึง เพราะคุณจะได้เฟ้นหาหุ้นเข้าพอร์ตด้วยตัวเอง จัดการพอร์ตเอง แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ หรือไม่อยากวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง วิธีการนี้ก็อาจไม่เหมาะเท่าไรนัก 

การเปิดพอร์ต ลงทุนหุ้นต่างประเทศด้วยตนเองมี ข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้ 

ข้อดี

การลงทุนหุ้นญี่ปุ่นด้วยตัวเองจะทำให้คุณได้คัดสรรหุ้นน่าลงทุนมาเข้าพอร์ตได้ตามใจ และยังสามารถกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นแต่ละตัวในพอร์ตได้ทั้งหมด เช่น คุณจะถือหุ้น A เป็นสัดส่วน 70% ของพอร์ต และหุ้น B C D อีกตัวละ 10% ก็ทำได้ตามต้องการ และยังมีสิทธิในความเป็นหุ้นส่วน เป็นเจ้าของบริษัทที่ลงทุนโดยตรงด้วย

โดยทั่วไป การเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศจะมีที่ปรึกษาการลงทุนและนักวิเคราะห์คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำในการลงทุน 

ข้อเสีย

หากคุณมีเงินลงทุนไม่สูงมาก คุณจะเจอกับค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นต่างประเทศขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินเยนที่คิดเป็นสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับเงินลงทุนรวม

และนอกจากต้นทุนที่เป็นเงินแล้ว คุณยังต้องมีเวลาติดตามข่าวสาร ศึกษาธุรกิจและไล่ดูงบการเงินของบริษัทที่สนใจ ซึ่งในหลายๆ ครั้งต้องใช้ประสบการณ์และความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาประกอบด้วย รวมถึงต้องปรับพอร์ตด้วยตัวเอง คุณจึงต้องมีวินัยในการลงทุนพอสมควร

สรุป การลงทุนหุ้นญี่ปุ่นด้วยตัวเองจะเหมาะกับนักลงทุนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีเวลาให้กับการลงทุนพอสมควร หากต้องการเลือกหุ้นลงทุนและกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นด้วยตัวเอง การลงทุนด้วยตัวเองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ทางเลือกที่ 2: ลงทุน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ผ่านกองทุนรวม

การลงทุนผ่านกองทุนรวมนับเป็นอีกทางเลือกที่คุณอาจนึกถึงเมื่ออยากลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดยกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีมากมายหลายรูปแบบในท้องตลาด 

การลงทุนหุ้นญี่ปุ่นผ่านกองทุนรวม มี ข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี

ในปัจจุบันการลงทุนผ่านกองทุนรวมทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้นเยอะ โดยหากคุณมีเงินลงทุนแค่ 500-1,000 บาท ก็เริ่มลงทุนในกองทุนรวมได้แล้ว

ด้วยความที่เป็นตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว กองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นจึงมีมากมายในท้องตลาด คุณจึงสามารถเลือกช็อปปิงกองทุนที่เหมาะกับตัวเองได้ไม่ยากเลย

นอกจากนี้ ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดในธุรกิจกองทุน ค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมส่วนใหญ่จะสมเหตุสมผลและยุติธรรม และยังมีกฎหมายที่กำกับดูแลการทำธุรกิจอย่างเข้มงวดอีกด้วย

โดยปกติ กองทุนจะอัปเดตราคาหน่วยลงทุนทุกสิ้นวัน เพื่อให้คุณติดตามความเคลื่อนไหวได้เป็นประจำ และในแต่ละกองทุนก็จะมีผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์คอยดูแลเงินลงทุนของคุณให้ได้ผลตอบแทนขึ้นมา

ข้อเสีย

หากลงทุนผ่านกองทุนรวม แน่นอนว่าคุณจะไม่สามารถเลือกหุ้นที่จะลงทุนเองได้ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุนที่จะปรับพอร์ตของกองทุนรวม

นอกจากนี้ ธุรกิจจัดการลงทุนจะมีกฎหมายกำกับดูแลอยู่ คุณจะสังเกตว่ากองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกันก็มักลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่เหมือนๆ กัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปมีอิทธิพลต่อราคาหุ้นของบริษัทขนาดกลาง-เล็กตามที่กฎหมายห้ามไว้ ดังนั้น หุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่กำไรเติบโตดีและน่าลงทุนจึงมักจะ ‘อยู่นอกเรดาร์’ ของกองทุนรวมด้วยเหตุนี้

สรุป การลงทุนหุ้นญี่ปุ่นผ่านกองทุนรวมทำได้ง่ายและสะดวกสบาย เพราะใช้เงินลงทุนต่ำและสามารถซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ได้ จึงเหมาะกับผู้ที่เริ่มลงทุน ไม่มีความรู้เรื่องลงทุนมากนัก หรือไม่สะดวกลงทุนด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ กองทุนรวมยังมีกฎหมายกำกับดูแล มีนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเงินลงทุนให้คุณ แต่ก็จะทำให้คุณได้ลงทุนในหุ้นที่คล้ายกับกองทุนอื่นๆ และไม่ได้ลงทุนหุ้นของบริษัทขนาดเล็กลงมาที่มีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีเช่นกัน

ทางเลือกใหม่ล่าสุด…ลงทุนผ่าน ‘Jitta Ranking ญี่ปุ่น’ 

อีกทางเลือกที่จะให้คุณลงทุนหุ้นญี่ปุ่นได้ง่ายและสะดวกสบาย ก็คือการลงทุนผ่านนโยบาย ‘Jitta Ranking ญี่ปุ่น’ ที่ใช้ AI ในการคัดกรอง ‘หุ้นดี ราคาถูก’ มาจัดพอร์ตให้คุณ ตามหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ของนักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett

โดยนโยบาย Jitta Ranking หุ้นญี่ปุ่น มี ข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้ 

ข้อดี

Jitta Ranking ญี่ปุ่นเหมาะมากหากคุณอยากลงทุนหุ้นญี่ปุ่นโดยตรงแต่ไม่มีเวลามากนัก เพราะ AI จะวิเคราะห์งบการเงินของทุกบริษัทกว่า 3,400 แห่ง ในตลาดหุ้นโตเกียวทุกวันแบบไม่มีเหนื่อย ไม่มีหยุดพัก จากนั้นจึงนำมาจัดอันดับความน่าลงทุนเพื่อจัดพอร์ตลงทุนต่อไป 

คุณจึงมั่นใจได้ว่าหากลงทุนกับนโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่น เงินของคุณจะถูกนำไปลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่คุณภาพดี ราคาถูก และมีแนวโน้มเติบโตสูงอยู่เสมอ ไม่ได้ลงทุนเฉพาะหุ้นยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่รู้จักและเลือกลงทุนกันเท่านั้น

นอกจากนี้ หากมองหาการลงทุนหุ้นญี่ปุ่นระยะยาว Jitta Ranking ญี่ปุ่นก็เหมาะกับคุณอย่างมาก เพราะคุณจะไม่ต้องมานั่งปวดหัวคอยปรับพอร์ตด้วยตัวเอง เพราะระบบ AI จะคอยปรับพอร์ตให้คุณโดยอัตโนมัติทุก 3 เดือนแบบไม่มีอคติ ไม่ใช้อารมณ์ ไม่มีการกอดหุ้นไว้ พอร์ตของคุณจึงจะมีแต่หุ้นที่สดใหม่ เพิ่มโอกาสสร้างกำไรอยู่เสมอ

โดยการคัดกรองหุ้นของ AI ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำกำไรชนะดัชนีตลาดได้ในระยะยาว จากการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) จากข้อมูลปี 2555-2564 พบว่า AI ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 26.12% ต่อปี ในขณะที่ดัชนี TOPIX ปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 13.01% ต่อปี

การลงทุนผ่านนโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่นมีค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผลและมีกฎหมายกำกับดูแลเช่นเดียวกับกองทุนรวม โดยคิดค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนที่ 0.5% ของเงินลงทุนต่อปี  รวมถึงค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วย

ข้อเสีย

นโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่นมีจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 1,000,000 บาท เพื่อให้สามารถซื้อหุ้นได้หลายตัวและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และการฝากเงินลงทุนเข้าพอร์ตเพิ่มเติมจะกำหนดเงินขั้นต่ำที่ครั้งละ 100,000 บาท จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนสูงระดับนึง และคุณไม่สามารถเลือกหุ้นเพื่อลงทุนหรือปรับสัดส่วนการลงทุนเองได้

และนอกจากค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนแล้ว นโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่นยังมีค่าธรรมเนียมที่คิดตามกำไรที่อัตรา 10% ของผลกำไรของพอร์ตในแต่ละปี ซึ่งหากพอร์ตของคุณไม่มีกำไรหรือมีกำไรต่ำลงในปีนั้น ก็จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนนี้

สรุป การลงทุนหุ้นญี่ปุ่นผ่านนโยบาย Jitta Ranking จะทำให้คุณได้ลงทุนหุ้นที่ถูกวิเคราะห์ด้วย AI ว่าเป็น ‘หุ้นดี ราคาถูก’ ตามหลักการลงทุนแบบ VI ของ Warren Buffett ซึ่งจะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้คุณ และมีการทดสอบย้อนหลัง (Back test) ที่เสมือนจริง

หุ้นญี่ปุ่น

‘Jitta Ranking ญี่ปุ่น’ ปั้นกำไรจากตลาดหุ้นนอกสายตา

นี่คือ 3 ทางเลือกการลงทุนที่มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไปตามเป้าหมายของแต่ละคน และน่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะ ‘ลงทุนหุ้นญี่ปุ่น’ ยังไงดี

หากคุณสนใจลงทุนหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว อยากลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่คุณภาพดี ราคาถูก และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจริงๆ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ไม่ใช่เฉพาะหุ้นแบบพิมพ์นิยมที่คนส่วนใหญ่รู้จัก นโยบาย Jitta Ranking ญี่ปุ่นก็พร้อมให้บริการคุณแล้ว 

ยิ่งช่วงนี้ เงินเยนอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับเงินบาท ที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง ตอนนี้จึงถือเป็นโอกาสทองในการลงทุนหุ้นญี่ปุ่น เพราะคุณจะแลกเงินเยนได้จำนวนมากขึ้นด้วยเงินบาทจำนวนเท่าเดิมนั่นเอง

ในช่วงที่โลกโดนเงินเฟ้อเล่นงานกันทั่วโลก ทีมงาน Jitta Wealth อยากให้คุณเปิดใจ ลิ้มลองรสชาติอันหอมหวานของตลาดหุ้นแดนปลาดิบ ในแบบที่คุณไม่เคยรู้เคยสัมผัสมาก่อน 

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเปิดบัญชีและเริ่มต้นลงทุน กันได้เลย

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ Jitta Ranking ญี่ปุ่น


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


อ้างอิง

  1. BlackRock ปรับเพิ่มมุมมอง “หุ้นญี่ปุ่น” น่าสนใจ แม้จะเผชิญความเสี่ยงจากสถานการณ์ Covid-19 จากการจัดแข่งขันกีฬา Olympics https://www.mtsgold.co.th/th/research/detail.php?ID=24855&SECTION_ID=22
  2. BlackRock upgrade puts Japan top for bulls of 2022 recovery https://citywire.com/investment-trust-insider/news/blackrock-upgrade-puts-japan-top-for-bulls-of-2022-recovery/a1596573
  3. Credit Suisse explains why Japan is its favorite developed market https://www.cnbc.com/2021/11/15/credit-suisse-explains-why-japan-is-its-favorite-developed-market.html
  4. หุ้นญี่ปุ่น” น่าสนใจอย่างไร แล้วทำไมถึงควรลงทุน? https://www.moneybuffalo.in.th/stock/how-interesting-are-japanese-stocks-so-why-should-you-invest
  5. BOJ ทวนกระแส ตรึงดอกเบี้ยต่ำ -0.1% ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้น https://www.prachachat.net/breaking-news/news-986778

อ่านเพิ่มเติม

Say Hai ‘หุ้น VI กำไร 9 เด้ง’ กับ Jitta Ranking ญี่ปุ่น

9 เหตุผลว่าทำไม ‘หุ้นญี่ปุ่น’ ถึงโต 9 เด้ง ไม่ลงทุน ไม่ได้แล้ว

7 บริษัทญี่ปุ่น เบื้องหลังผู้สร้างเทคโนโลยีล้ำยุค