Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

สรุป Live: Ask Me Anything ประจำเดือนตุลาคม 2567


Events Live

เนื้อหาสำคัญ

พบกันทุกวันพุธต้นเดือนกับ Ask Me Anything จาก Jitta Wealth ประจำเดือนตุลาคม 2567 Live สดจากคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และคุณอ้อ พรทิพย์ กองชุน CGO ของ Jitta Wealth ที่มาพูดคุยถามตอบกันแบบสดๆ จะมีคำถามอะไรบ้าง คำตอบคืออะไร เราสรุปมาให้คุณแล้ว 

หากคุณสนใจอยากรับชม Live ของเราแบบสดๆ ในโอกาสต่อไปติดตามเราได้ที่ Facebook หรือ Youtube ของ Jitta Wealth ได้เลย 

ดูวิดีโอย้อนหลัง

อายุ 50 แล้ว ยังลงทุนอยู่ได้มั้ย ต้องลงทุนยังไง? 

หลายคนอาจจะมองว่า อายุ 50 ปีแล้ว อาจจะสายไปที่จะลงทุน ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนเราเพิ่มมากขึ้นด้วย เรื่องที่น่ากลัวที่สุดคือ ‘อายุยืนแล้วไม่มีเงินใช้’ ทำให้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ คุณก็ควรลงทุน แต่ลงทุนให้เหมาะสมกับอายุและความเสี่ยงที่เรารับได้ 

ตามปกติแล้วด้วยหลักการ เมื่ออายุมากขึ้นก็ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยลงไป แต่ถ้าเป็นนักลงทุนอยู่แล้ว หรือนักลงทุนที่มีชื่อเสียงหลายๆ คนต่อให้อายุเยอะก็ยังลงทุนในหุ้นอยู่ หมายความว่า ถ้าคุณเข้าใจในสิ่งที่คุณลงทุน คุณจัดสรรความเสี่ยงได้ดี จัดสรรสินทรัพย์ในพอร์ตได้ดี เมื่ออายุมากขึ้นก็ยังลงทุนไปได้เรื่อยๆ เพราะ ผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงของเรามันคุ้มค่า 

สรุปคือ ยังลงทุนได้อยู่ 

วางแผน ‘เกษียณ’ ยังไงดี? 

จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินมันง่าย ที่ยากคือแผนที่เราวางเอาไว้เราทำได้รึเปล่า ยกตัวอย่างเช่น เราอยากมีเงิน 1 ล้านในอีก 10 ปีข้างหน้า เราต้องย้อนกลับมาดูว่า แล้วตอนนี้เรามีเท่าไหร่ ต้องการผลตอบแทนเท่าไหร่ต่อปี 

ถ้าเราไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพ การได้ผลตอบแทน 6-8% ต่อปีก็ยังมีความเป็นไปได้ แล้วเราก็มาดูประกอบว่าตอนนี้ต้นทุนเรามีเท่าไหร่ จะ DCA ยังไง 

แผนไม่ได้ยาก ขึ้นอยู่กับว่าเราทำตามแผนได้หรือไม่ 

มีเงินก้อนควรเอามา ‘โปะบ้าน’ หรือ ‘ลงทุน’ ดี? 

เงินที่จะเอาไปโปะบ้าน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3-5% ต่อปี คำถามคือ ถ้าเราไม่เอาไปโปะบ้าน เราเอาเงินนั้นไปทำอย่างอื่นมันได้มากกว่าดอกเบี้ยหรือไม่ และเทียบแบบนั้นเช่น ถ้าเราเอาเงินไปลงทุนก่อนแล้วได้ 8% ต่อปี เราก็ควรเอาเงินนั้นไปลงทุนก่อนโปะบ้าน แต่ก็อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า เรายังมีเงินผ่อนบ้านครบทุกเดือนตามปกติด้วย 

อย่างผมเองก็เคยมีประสบการณ์ตอนที่เริ่มลงทุนใหม่ๆ เราเอาเงินทุกอย่างมาลงทุน จนเกิดวิกฤติหุ้นตก ก็หน้าซีดมาแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามบาลานซ์ให้ดี ดูความสามารถของตัวเองให้ดี 

‘เงินบาท’ หยุดแข็งเมื่อไหร่? 

ไม่มีใครตอบได้ แต่โดยปกติแล้วเมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เงินบาทก็มักจะแข็งค่า ตอนนี้ต้องติดตามว่า แบงค์ชาติจะลดดอกเบี้ยลงหรือไม่ ค่าเงินก็มีโอกาสอ่อนค่าลง และในเชิงการเงินระหว่างประเทศ ผมก็เชื่อว่า แบงค์ชาติก็ต้องพยายามปรับเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไปหรืออ่อนเกินไป เพราะปัจจุบันก็เริ่มมีธุรกิจได้รับผลกระทบแล้ว 

‘บาทแข็ง’ โอนเงินก้อนไป ‘Jitta Money’ ก่อนดีไหม?

อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ เช่นถ้าคุณโอนไปตอนนี้ แล้วเงินบาทเกิดอ่อนค่าขึ้นมาเราก็อาจจะมีความสุข แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้ามเราก็อาจจะรู้สึกว่าไม่น่าเลย 

วิธีการที่ไม่เสี่ยงเกินไปคือ ทยอยแบ่งไม้ไปเรื่อยๆ แบ่ง DCA เข้าไปเรื่อยๆ เพราะถ้าโอนเป็นก้อนเดียวเราก็ต้องเผื่อใจไว้หน่อย 

ตลาดหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้?

จากข้อมูลต่างๆ ทั้งด้าน Valuation และโอกาสในการเติบโต หุ้นจีนถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ และราคายังถูกอยู่ 

หุ้นจีนมีโอกาสพุ่ง เหมือนกับสหรัฐฯ หลังวิกฤติซับไพร์มปี 2551 ไหม?

หุ้นจีนยังมีโอกาสเติบโต แม้จะตอบไม่ได้ว่าจะโตแซงสหรัฐฯ หรือไม่ แต่จาก GDP จีน ที่มีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายราคาหุ้นก็จะขึ้นตาม

และถ้าเศรษฐกิจกิจจีนกลับมาเติบโตในแบบที่ควรจะเป็นได้เร็ว ก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นได้เร็วเช่นกัน เพราะราคา หรือ P/E ที่ตอนนี้ถือว่าถูกมาก และ Fund Flow หรือเม็ดเงินลงทุนก็พร้อมที่จะไหลเข้าหุ้นจีน จากทั้งนักลงทุนในประเทศเอง หรือแม้แต่นักลงทุนต่างประเทศ 

ลงทุนหุ้นจีนตอนนี้ ช้าไปไหม?

หุ้นจีนยังลงทุนได้ สำหรับการลงทุนระยะยาวในหุ้นจีน ยังมองว่าไม่ช้าไป เพราะแม้ปัจจุบันหุ้นจีนจะพุ่งขึ้นไปกว่า 20% แต่ถ้ามองจากจุดสูงสุด ถือว่ายังไม่ได้ขึ้นมาสูงมากนัก ยังสามารถเติบโตขึ้นอีกได้ 

แต่ในระยะสั้นตอนนี้ถือเป็นจุดที่เป็นไปได้ทั้งสองทาง คือสามารถขึ้นต่อ หรือมีโอกาสจะตกลงมาก็ได้ แต่ในภาพระยะยาว มีโอกาสสูงที่จะเติบโตต่อไป แม้ตอนนี้จะดูเหมือนว่าหุ้นจะพุ่งขึ้นมาเยอะมาก และแน่นอนว่าจะต้องมีจังหวะที่หุ้นจะย่อตัว 

ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติไหนก็ตาม เมื่อตลาดหุ้นกลับตัว ให้มองหาหุ้นเติบโต หุ้นแข็งแกร่ง ที่มีโอการเติบโตสูง ในอุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์เติบโตในอนาคต เพื่อคว้าโอกาสเติบโตจากกำไรต่อหุ้น จาก P/E ที่ปรับเพิ่มขึ้นหรือ EPS (Earnings Per Share ) กำไรต่อหุ้นที่อาจเติบโตเป็นเท่าตัว

ซึ่งถ้าคุณยังไม่ทราบว่าจะหาหุ้นลักษณะนี้ได้อย่างไร สามารถลงทุนใน Jitta Ranking ให้ AI วิเคราะห์คัดเลือกหุ้นได้เช่นกัน

แนวทางรับมือภาษีเงินได้ต่างประเทศ?

เกณฑ์ภาษีต่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ ถ้าไม่นำเงินกลับเข้าไทย หรือจำนวนที่นำกลับมาไม่เกินจำนวนที่โอนไปลงทุนก็จะไม่ต้องนำไปคิดภาษี ส่วนที่จะถูกนำไปคิดคือ ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น (เงินที่นำไปลงทุน – เงินที่นำกลับมา) จะถูกนำไปคำนวณร่วมกับฐานภาษีของแต่ละบุคคล 

ซึ่งวิธีบริหารจัดการคือลงทุนให้เงินทบต้นไปเรื่อยๆ และค่อยนำกลับเข้ามาตอนเกษียณ ไม่มีรายได้ ก็จะสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

แต่ล่าสุดที่มีข่าวออกมาว่าสรรพากรจะเปลี่ยนกฎเป็นแนวทาง Global Income Tax คือหากมีรายได้จากต่างประเทศ รายได้นั้นจะต้องถูกนำมาคำนวณภาษีด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ชัดเจน หากมีการเก็บภาษีในลักษณะนี้จริงๆ ส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น กำไรต้องนำไปหักลบปีที่ขาดทุนหรือไม่ หรือ กำไรส่วนแรกจำนวนเท่าไหร่จะถูกยกเว้นภาษี เป็นต้น 

ซึ่งในส่วนนี้จะต้องรอดูกฎหมายที่ชัดเจนมากขึ้นในอนาคต ใครที่กำลังลงทุนอยู่อาจไม่กระทบ เนื่องจากโดยปกติแล้วกฎหมาย หรือประกาศต่างๆ ที่กระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จะต้องมีการประกาศล่วงหน้า และในเกณฑ์ของกฎหมาย จะไม่บังคับใช้ย้อนหลัง

โดยทาง Jitta Wealth จะคอยติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลง และนำมาอัปเดตให้กับนักลงทุนเป็นระยะๆ 

(อย่างไรก็ตามรายละเอียดเหล่านี้เป็นการตีความจากประกาศและคำสั่งของกรมสรรพากรเท่านั้น บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด มิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีโดยตรง หากมีคำถามที่เฉพาะเจาะจง ติดต่อสรรพากร 1161)

อยากให้เด็กมัธยมสนใจเรื่องการลงทุน ต้องเริ่มพูดคุยยังไง? 

จากประสบการณ์ตรงทั้งที่เคยเป็นลูก และเป็นพ่อ ควรทำอะไรให้สนุกไว้ก่อน เริ่มจากให้รู้ว่าการออมคืออะไร ทำไมต้องออม และฝึกให้หาเงินด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างประสบการณ์สมัยเด็กอยากได้เงินค่าขนมเพิ่มก็ไปรับจ้างถูห้องญาติๆ ในบ้าน หรือช่วยทำนู้นทำนี่ที่บ้าน ก็จะได้เงินค่าขนมเพิ่มมา ฝึกให้เด็กๆ รู้คุณค่าของเงิน

เมื่อได้เงินมาก็นำไปฝากธนาคาร เมื่อเด็กๆ เห็นว่าจำนวนเงินในธนาคารมันเพิ่มขึ้น ก็จะอยากให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดกระบวนการคิดว่า แล้วจะทำให้เงินเพิ่มขึ้นได้อย่างไรบ้าง เขาก็จะรู้สึกสนุก และเราก็ค่อยๆ สอนเขาทีละขั้นๆ ไม่จำเป็นต้องไปอัดเรื่องลงทุนตั้งแต่แรก 

สรุปคือเริ่มจากหาทางให้เขาลองหาเงินเอง เก็บเงินให้ได้ แล้วค่อยบอกว่าหลังจากเก็บเงินได้แล้ว จะต้องจัดการยังไงกับเงินต่อ มีอะไรที่เขาสามารถทำได้บ้าง แบบค่อยเป็นค่อยไป 

ในมุมของเด็กมัธยมที่โตขึ้นมาหน่อย แต่ยังไม่สามารถเปิดพอร์ตลงทุนเองได้ ก็มีตัวอย่างจากนักลงทุน Jitta Wealth ที่เปิดพอร์ตลงทุนให้ลูก แล้วบอกว่านี่คือพอร์ตของเขา เด็กก็จะได้เห็นและเรียนรู้ว่า มันผันผวนอย่างไร มันค่อยๆ โตอย่างไร เมื่อเขาเข้ามามีส่วนร่วมก็จะทำให้เขาสนใจ อยากติดตาม กลายเป็นสร้างภูมิคุ้มกัน และกระบวนการเรียนรู้ไปในตัว 

Jitta Card ตัวช่วยเรื่องการออมเงิน 

เป็นสิ่งที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ออมเงินได้ เพราะสิ่งที่ยากที่สุดของการออม คือการบังคับตัวเองให้มีวินัยในการออม ซึ่งสมัยก่อนไม่มีอะไรยั่วยุขนาดสมัยนี้ ที่มีอะไรให้เสียเงินเยอะมาก เก็บเงินยากกว่าเดิม อีกทั้งเงินก็ไม่ใช่เงินสดแล้ว เปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์ หรืออย่างบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ทำให้ซื้อง่ายจ่ายคล่องกว่าเดิม

Jitta Card เลยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้จ่ายผ่าน Jitta Card แล้วใช้เทคโนโลยีในการปัดเศษเป็นเงินทอนมาเก็บไว้ และสุดท้ายจะนำเงินเก็บไปลงทุนให้อัตโนมัติ ช่วยฝึกวินัยในเรื่องการออมเงิน และการลงทุนแบบครบจบ ในที่เดียว

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jittacard.com/ 

มีแผนปล่อย ETF ธีมใหม่มาอีกไหม? 

ทางทีม Jitta Wealth สำรวจและวิเคราะห์ธีมใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งจะต้องมั่นใจจริงๆ ว่าจะเป็นเทรนด์ที่มันชัดเจน ล่าสุดธีมอวกาศ (Space) ก็อยู่ในการจับตามองของเรา เพราะตอนนี้หลายๆ บริษัทก็เริ่มทำอะไรที่เกี่ยวกับอวกาศมากขึ้น

แต่โดยรวมแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีธีมธุรกิจอะไรที่เป็นเมกะเทรนด์ขนาดนั้น อย่างไรก็ตามธีมที่ Jitta Wealth คัดเลือกมาให้ลงทุนอยู่ตอนนี้ก็ครอบคลุมเมกะเทรนด์ในปัจจุบันแล้ว 

มีความเสี่ยงที่ Jitta จะปิดไหม? 

ในเชิงทฤษฎี ต้องตอบตามตรงว่าไม่มีอะไรแน่นอน แต่ถ้าในทางปฏิบัติ จากจุดที่เราอยู่ อุตสาหกรรมโดยรวม และการสนับสนุนที่ดีของนักลงทุนทุกคน โอกาสที่ Jitta จะปิดตัวเป็นไปได้ยากมาก และตอนนี้บริษัทเราก็มีแผนที่จะทำอะไรใหม่ๆ อีกหลายๆ อย่างเพื่อนักลงทุน รอติดตามได้ผ่านทุกช่องทางของเรา 

ถ้านักลงทุนเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร เงินที่อยู่กับ Jitta จะจัดการยังไง?  

หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถให้ผู้จัดการมรดกของนักลงทุนแจ้งกับทางบริษัท บริษัทก็จะทำการตรวจสอบ และดำเนินการถอนให้  

หรือในกรณีที่ไม่มีใครทราบว่าคุณเป็นนักลงทุน Jitta Wealth ในทุกๆ ปี บริษัทจะมีแบบประเมินประจำปี (Yearly Review) ที่คุณจะต้องอัปเดตสม่ำเสมอ ถ้าอยู่ๆ หายไป โดยไม่ได้กรอกแบบประเมินนี้ ก็จะมีทีมงานโทรศัพท์ไปตรวจสอบ และถ้าติดต่อไม่ได้ ก็จะติดต่อผู้ติดต่อฉุกเฉินแทนจนทราบเรื่อง ขั้นตอนต่อไปคือ เมื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินทราบว่ามีพอร์ตที่ลงทุนกับเราอยู่ ก็สามารถไปแจ้งผู้จัดการมรดกเพื่อดำเนินการถอนได้ 

ข้อมูล Jitta Market Predictions ล่าสุด 

ปีนี้ AI ของ Jitta คาดการณ์ว่าตลาดจีนมีโอกาสทำกำไรระยะยาว ด้วยการวิเคราะห์จากข้อมูล ความถูกแพงของตลาดต่างๆ ทั่วโลก

อีกหนึ่งสถิติที่ยังสามารถใช้อ้างอิงได้ก็คือ ตลาดหุ้นจะเป็นขาขึ้น 7 ปี ขาลง 3 ปี ทำให้มีโอกาสสูงที่จีนจะกำไรได้ในปีนี้ เพราะตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงตั้งแต่ปี 2564 – 2566 ปีนี้อาจมีหวังที่จะปรับบวก แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันจนถึงสิ้นปีว่าจะเป็นอย่างไร แต่จากแน้วโน้ม Fund Flow ในปัจจุบัน คาดว่าตลาดจีนไม่น่าจะกลับไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดที่ผ่านมา 

‘Jitta Ranking จีน’ มีทำประกันค่าเงินไหม?

ทุกนโยบายของ Jitta Wealth ไม่มีการทำประกันค่าเงินไว้ เพราะจากการจำลองภาพการลงทุนระยะยาวพบว่าการทำประกันค่าเงินนั้นได้ผลตอบแทนน้อยกว่า เนื่องจากนักลงทุนจะต้องแบกรับในเรื่องของค่าธรรมเนียมซึ่งกระทบต่อผลตอบแทนในระยะยาว 

ถ้าใครฟังมาทั้งหมดแล้ว สนใจอยากเริ่มลงทุน มือใหม่ที่กำลังตัดสินใจอยู่อาจจะได้คำตอบแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เลย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-460-8888 หรือ Line @JittaWealth ในช่วงเวลาทำการได้เลย 


อ่านรีวิวพอร์ตลงทุน Jitta Wealth ของนักลงทุนอีกมากมายได้ที่ Facebook และ เว็บไซต์ของเรา


ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย Jitta Ranking Thematic Global ETF และ Jitta Money ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน