Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

Jitta Wealth Journal – เวียดนามโตกระฉูด สวนทางตลาดหุ้น


Jitta Wealth Journal

เนื้อหาสำคัญ

Tesla ส่งมอบรถยนต์สูงสุดทำสถิติ

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 97 ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2565 

ตลาดหุ้นเวียดนามแตะจุดต่ำสุดของปีสวนทาง GDP ที่โตกระฉูด ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสร้างความกังวลไปทั่วโลก จีนเตรียมเปิดประเทศต้นปีหน้า Tesla ทำสถิติส่งมอบรถ EV สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับยอดขาย iPhone 14 ที่ไม่ปัง จนทำเอาราคาหุ้นซัพพลายเออร์ของ Apple ร่วงระนาว

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 -2.91% DJIA -2.92% NASDAQ -2.69%

เศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวของสหรัฐฯ สร้างความกังวลต่อเนื่อง นักลงทุนชะลอการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะจุดต่ำสุดในปี 2565 และส่งผลให้หุ้นหลายบริษัทของสหรัฐฯ มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่มาก

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 -1.33% TOPIX -4.18% VNI -5.91% SET -2.59%

ตลาดหุ้นเวียดนามยังได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศหนีไปลงทุนในเงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกและค่าเงินเยนที่อ่อนลงต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นไทยและจีนได้รับผลกระทบจากเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นกัน

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 2 ตุลาคม 2565


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

ลงทุน Jitta Ranking หุ้นไทย ขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้นะ รู้ยัง!

มัดรวมสุดยอดคัมภีร์เรื่อง DCA เซฟเก็บไว้อ่านกันได้เลย

มือใหม่อยากลงทุน DCA ระยะยาว มือเก๋าจะแนะนำยังไง ไปดู!

มาร่วมพูดคุยกับเรา


เศรษฐกิจเวียดนาม

ดอกเบี้ยเวียดนามพุ่ง ทำเงินไหลออกจากตลาด

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงย่อมดึงดูดนักลงทุน และการฝากเงินในธนาคารก็มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ล่าสุดธนาคารกลางเวียดนามปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% ทำให้ธนาคารพาณิชย์เวียดนามพร้อมใจกันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 – 0.5% ตามระยะเวลาในการฝาก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนอยู่ที่ 6.1 – 6.3% ต่อปี ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นและนำเงินไปฝากมากขึ้น เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงต่อเนื่อง

แต่หากมองถึงมูลค่าของกิจการต่างๆ ในตลาดหุ้นเวียดนาม ก็ยังมีราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าพื้นฐาน ขณะเดียวกันการเทขายหุ้นก็ช่วยทำให้หุ้นของธุรกิจที่แข็งแกร่งมีราคาต่ำลง เหมาะแก่การเข้าลงทุนระยะยาว เกาะกระแสการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม

GDP เวียดนามไตรมาส 3 โตระเบิด 13.7% yoy 

เศรษฐกิจของเวียดนามมีทิศทางที่สดใส โดยล่าสุดเวียดนามได้ประกาศ GDP ไตรมาส 3 ปี 2565 ขยายตัว 13.7% yoy และหากรวม GDP ของ 9 เดือนแรกเข้าด้วยกันจะเติบโตอยู่ท่ี 8.8% yoy ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554

เศรษฐกิจทุกภาคส่วนของเวียดนามล้วนขยายตัวสูง ประกอบไปด้วย 

  • ภาคการผลิต ขยายตัว 10.7%
  • ภาคการค้าปลีกและบริการ เติบโต 21.0%

แนวโน้มการเติบโตแบบติดจรวดทำให้เวียดนามเนื้อหอม มีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI เพิ่มขึ้นถึง 16.3% มูลค่ารวมมากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคารโลกประมาณการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 ไว้ว่าจะขยายตัว 7.2% yoy สูงสุดในภูมิภาค ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมาที่ 3.94% แต่คณะกรรมการด้านนโยบายการเงินได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% เพื่อป้องกันเงินเฟ้อลุกลามแล้ว

สิ่งที่น่าสนใจคืออัตรา P/E (Price-to-Earnings Ratio) ตลาดหุ้นเวียดนามอยู่ที่เพียง 14 เท่า ถือว่าว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีราคาเหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุน VI ในช่วงเวลานี้


4 นักลงทุน 4 เส้นทางชีวิตกับ Jitta Wealth 

การลงทุนระยะยาวกับ Jitta Wealth เหมือนกับการออกเดินทางไกลสู่จุดมุ่งหมายที่นักลงทุนคาดหวังไว้ คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณมีเพื่อนร่วมทางไปพร้อมๆ กับคุณ วันนี้เราจะพาคุณไปพบกับ 4 นักลงทุนที่ไว้ใจ Jitta Wealth ให้ดูแลเงินลงทุน

อ่านต่อ


เศรษฐกิจจีน

จีนเตรียมเปิดประเทศต้นปี 2566

ตลาดหุ้นกับเศรษฐกิจในบางครั้งก็ไม่ได้ไปทางเดียวกันสักเท่าไร เพราะเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง โดยดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจของ Bloomberg จัดให้อยู่ที่อันดับ 5 ในโซนสีเขียว ซึ่งมีความหมายว่า เศรษฐกิจจีนกำลังขยายตัว 

เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวดีในไตรมาส 3 หลังพ้นมาตรการล็อกดาวน์ช่วงกลางปี 2565 ถึงแม้ว่าจีนจะพบเจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ Zero Covid ความผันผวนเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการตรวจสอบบัญชีหุ้นจีนในสหรัฐฯ

Morgan Stanley และสถาบันการเงินอีกหลายแห่ง คาดการณ์ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid และเตรียมเปิดประเทศในช่วงเดือนมีนาคมปี 2566

โดย จีนเตรียมทดลองเปิดประเทศในพื้นที่ชายแดนกับ 14 ประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งหากมีแนวโน้มที่ดีก็จะนำไปสู่การเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์ ช่วยให้เศรษฐกิจจีนกลับมาเติบโตได้อย่างสมดุลและมีเสถียรภาพมากขึ้น

จีนเป็นอีกประเทศที่น่าลงทุนเพราะเศรษฐกิจมีศักยภาพการเติบโตสูงขณะที่หุ้นมีราคาถูก ถึงแม้จีนจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่หากทุกอย่างเป็นปกติมีโอกาสที่จีนจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

จีนอัดฉีดเงินกว่า 868,000 ล้านหยวนก่อนหยุดยาววันชาติ

รัฐบาลจีนอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 868,000 ล้านหยวน หรือกว่า 122,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจก่อนวันหยุดยาวเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีน โดยได้ดำเนินการผ่านระบบ Reverse Repo อายุ 7 วันและ 14 วันที่อัตราดอกเบี้ย 2.00% และ 2.15% ตามลำดับ ถือว่าเป็นจำนวนเงินอัดฉีดเข้าระบบที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 

ทางการจีนคาดว่าในช่วงวันหยุดยาว ประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ธนาคารกลางจีนจึงต้องการสร้างสภาพคล่องในระบบ ประกอบกับในช่วงวันหยุดยาวนี้จะมีการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งการอัดฉีดเงินนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจจีนได้ 

Jitta Wealth มองว่าจีนกำลังพยายามรักษาสมดุลของเศรษฐกิจภายในประเทศทั้งเรื่องการเติบโตและความเสี่ยง ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะชัดเจนมากขึ้นหลังการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2565 นี้


พอร์ตแดง ถือต่อหรือพอแค่นี้? 

พอร์ตสีแดงๆ คงทำให้ใจคุณหวั่นไหวในบางครั้ง จะตัดใจขายขาดทุนก็กลัวเจ็บใจถ้าราคาเด้งกลับ แต่จะถือต่อไปก็ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน 

วันนี้เรามีวิธีวางแผนรับมือกับภาวะ ‘ถือต่อหรือพอแค่นี้’ มาเสนอ

อ่านต่อ


รถยนต์ไฟฟ้า 

Tesla ทำสถิติส่งมอบรถยนต์ EV สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

Tesla ประกาศยอดการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 3 ปี 2565 แตะ 343,830 คัน ขยายตัวกว่า 42% เมื่อเทียบกับปี 2564 และทำสถิติส่งมอบรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ยังตำ่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 358,000 คัน โดยรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดคือ Model 3 และ Model Y ซึ่งคิดเป็น 94% ของยอดขายทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม Tesla ยังแสดงความกังวลต่อห่วงโซ่อุปทานที่อาจกระทบต่อแผนการส่งมอบ โดยยอดส่งมอบรถยนต์ของ Tesla ต้องมาสะดุดในไตรมาส 2 ปี 2565 หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดกันหลายไตรมาส เนื่องจากโรงงานของบริษัทที่เซี่ยงไฮ้ต้องหยุดทำการผลิตเนื่องจากนโยบาย Zero Covid ของจีน 

ซึ่งหลังจากที่จีนอนุญาตให้ทำการผลิตด้วยระบบปิดและเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ ยอดส่งมอบรถยนต์ของ Tesla ก็พุ่งขึ้นชัดเจน 

Tesla เป็นผู้บุกเบิกเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้แบรนด์รถยนต์มากมายหันมาสนใจตลาดนี้อย่างจริงจัง เร่งให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งขันกันพัฒนา ซึ่งเป็นผลดีกับภาคธุรกิจหลายภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเอง รวมถึงธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์พลังงานสะอาดด้วย 


DCA คืออะไร? ทำไมดีต่อใจคุณ

กลยุทธ์การลงทุนเป็นอาวุธเสริมที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้คุณ และ DCA ก็เป็นอีกกลุยุทธ์ยอดฮิตที่ใครหลายคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่าแต่ DCA มันจะดีจริงหรอ มีหลักการอย่างไร แล้วจะเหมาะกับคุณหรือไม่? ไปติดตามกันเลย

อ่านต่อ 


เซมิคอนดักเตอร์ 

iPhone 14 ไม่ปัง! Apple ลดเป้า ทำหุ้นซัพพลายเออร์ร่วง 

Bloomberg รายงานว่า ยอดขาย iPhone 14 ไม่เป็นไปอย่างที่คาด จน Apple ต้องสั่งให้บริษัทซัพพลายเออร์ลดกำลังการผลิตลง ราคาหุ้นซัพพลายเออร์จึงพาเหรดกันร่วงหนัก จากเดิมที่คาดว่าในช่วงนี้จะสามารถทำยอดขายได้มากถึง 6 ล้านเครื่อง

หลังมีกระแสข่าวปรับลดกำลังการผลิต ทำให้หุ้นของซัพพลายเออร์ลดลงยกแผง ไม่ว่าจะเป็น Taiwan Semiconductor Manufacting (TSMC) ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ Apple ตกลงมากว่า 1.8% Hon Hai Precision Industry (Foxconn) ลดลงมากถึง 2.4% และผู้ผลิตอื่นๆ เช่น Largan Precision และ LG Innotek ต่างก็ลดต่ำลงมากกว่า 7%

แหล่งข่าวคาดว่าสาเหตุที่ยอดขาย iPhone 14 ไม่เป็นไปตามที่คาดเป็นเพราะจีน ซึ่งเป็ตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยข้อมูลจาก Jefferies ระบุว่า ยอดขาย iPhone 14 ในช่วง 3 วันแรกที่วางจำหน่ายในจีนลดลงถึง 11% จากรุ่นก่อนๆ 

ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ความกลัวภาวะถดถอยของเศรษฐกิจและสงคราม ทำให้ IDC คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะหดตัวลงกว่า 6.5% ในปีนี้ และ Apple ก็เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนเช่นกัน 


ในช่วงเวลาที่มืดมนของตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2565 มา เราก็ยังได้ยินข่าวดีเข้ามาประปราย เป็นเหมือนแสงสว่างที่สาดส่องลงมาให้คุณเห็นโอกาสการลงทุนระยะยาวที่ดี

อย่างเทรนด์พลังงานสะอาดก็มีพัฒนาการที่ดีวันดีคืนทั้งในจีน สหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจฝั่งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือแม้แต่ไทยเองก็อยู่ในทิศทางที่ดี โดยไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ IMF คาดการณ์ว่า GDP ในปี 2566 จะเติบโตเร็วขึ้นจากปี 2565 ท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจทั่วโลก

ลองไขว่คว้าหาโอกาสลงทุนจากแสงสว่างเหล่านี้ดู ไม่แน่ว่าคุณอาจค้นพบเพชรเม็ดงามที่พร้อมจะเฉิดฉายเป็นผู้ชนะ ในวันที่บรรยากาศการลงทุนดูหม่นหมองไปทุกหย่อมหญ้าแบบตอนนี้ก็เป็นได้

แล้วพบกันใหม่วันอังคารหน้า


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – เวียดนามขึ้นแท่น ลูกรัก Apple

Jitta Wealth Journal – EV จีนโตไม่หยุด ธีมไหนได้ประโยชน์