Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

Jitta Wealth Journal – หุ้นสหรัฐฯ เด้งแรง รับเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด


Jitta Wealth Journal

เนื้อหาสำคัญ

เจาะลึกสาเหตุตลาดหุ้นเวียดนามร่วงยาว

Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 103 ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 

หุ้นสหรัฐฯ ดีดแรง รับผลประกอบการหุ้นเทคหลายตัวดีกว่าคาดและเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด หวัง Fed เบามือลง ตลาดหุ้นเอเชียบวกถ้วนหน้า นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ดีดแรงรับการเปิดประเทศ แต่ตลาดหุ้นเวียดนามยังตั้งหลักไม่ได้ Nintendo กำไรพุ่ง TSMC เตรียมสร้างโรงงานเพิ่มในสหรัฐฯ จีนผ่อนมาตรการคุม Covid-19 ส่วน BYD ยอดขายเดือนตุลาคมแซงหน้า Tesla อีกครั้ง

ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย


ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ

S&P 500 +5.90% DJIA +4.15% NASDAQ +8.10%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกแรง ตอบสนองเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนตุลาคมที่ต่ำกว่าคาด หุ้นเทคโนโลยีหลายตัวราคาเด้งแรงจากอารมณ์ตลาดและผลการดำเนินงานก็ทำได้ดีกว่าคาด นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยตามเงินเฟ้อที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย

CSI 300 +0.56% TOPIX +3.26% VNI -4.27% SET +0.67%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นยกแผงยกเว้นตลาดหุ้นเวียดนาม ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเด้งแรงสุดตอบสนองการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงหนักจากประเด็นตลาด HOSE อาจถูกถอนจาก World Federation of Exchanges (WFE) และปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 13 พฤศจิกายน 2565


สรุป Live ชี้เป้าหุ้นเทคโนโลยีจีน ทำไมวันนี้สาย VI ควรมีในพอร์ต 

มาเข้าใจสาเหตุ เบื้องลึก เบื้องหลังการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีจีนที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ ฟังข้อมูลจริงจาก คุณเผ่า ตราวุทธิ์ CEO แห่ง Jitta Wealth และคุณโอ๊ต คุณากร นักวิเคราะห์การลงทุนของเรา พร้อมคำตอบว่าทำไมสาย VI ควรมีหุ้นเทคโนโลยีจีนติดพอร์ต

อ่านต่อ 

รับชม Live ย้อนหลัง 


เศรษฐกิจเวียดนาม

Jitta Wealth เจาะลึก! สาเหตุหุ้นเวียดนามร่วงหนัก

ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงในเดือนพฤศจิกายนนี้ไปแล้วมากกว่า -7% นักลงทุนหลายคนที่ลงทุนในเวียดนามอาจเริ่มกังวล แต่สาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงหนักแบบนี้คืออะไร เราจะพาคุณเจาะลึกไปกัน

ประเด็นที่ 1 ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงหล่นเกิดขึ้นจากข่าวลือ ตามรายงานของเพจ Vietnam Value Investor หุ้นเวียดนาม เนื้อหาข่าวลือถูกสรุปออกมาได้ว่า ตลาดหุ้นโฮจิมินห์ (HOSE) อาจถูกถอนออกจากสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (WFE) ทำให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ

ประเด็นที่ 2 ปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ Bloomberg รายงานว่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยทางการเวียดนามเริ่มควบคุมการออกตราสารหนี้ชุดใหม่มากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ทำให้ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วย 

Phung Trung Kien ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการลงทุน Vietnam Holdings Inc. กล่าวว่า “หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับลงแรงเกิดจากการ Margin Call โดยบริษัทโบรกเกอร์ ทำให้นักลงทุนต้องเทขายหุ้นที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่พื้นฐานดีแค่ไหนก็ตาม ส่งผลให้ตลาดหุ้นเวียดนามร่วง”

จากข้อมูลนี้คุณคงพอจะเห็นว่า สถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของทุกบริษัท 

ความกังวลและอารมณ์ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงกว่าพื้นฐานมาก ทำให้หุ้นพื้นฐานดีหลายตัวมีราคาต่ำลง หากคุณเข้าใจหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ช่วงเวลาแบบนี้คือช่วงที่น่าลงทุนและเป็นช่วงต้องห้ามในการออกจากตลาด


Talk of the Town 

เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official

ควรศึกษา! ระหว่างลงทุน SSF ลดหย่อนภาษี กับลงทุน Jitta เพิ่ม เลือกทางไหนดี?

นับถือใจ! โชว์พอร์ต Jitta Ranking เวียดนาม ‘จากสูงสุดกลับสู่สามัญ’

หมดไปเท่าไรกับ 11.11? นักลงทุนสาย VI ซื้ออะไรบ้าง มาแชร์กัน

มาร่วมพูดคุยกับเรา

(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ )


เศรษฐกิจสหรัฐฯ

เงินเฟ้อต่ำกว่าคาด หุ้นสหรัฐฯ พุ่งติดจรวด

สหรัฐฯ ประกาศอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ขยายตัว 7.7% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และลดลงจากเดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้น นักลงทุนเริ่มคลายกังวลเรื่องการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed

นักลงทุนคาดว่า Fed อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย โดยโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนธันวาคมมีสูงถึง 85% ซึ่งถือว่าชะลอลงจากการประชุมรอบก่อนหน้า และทำให้อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.75% – 5.00%

ต้องติดตามแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่อจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร หากยังเป็นขาลงต่อเนื่องก็มีโอกาสที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเริ่มฟื้นตัว โดย Fed อาจยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อแต่ชะลอความเร็วลงเพื่อดึงเงินเฟ้อลงมาสู่เป้าหมาย Personal Consumption Expenditures (PCE) ที่ 2%


เกมและอีสปอร์ต

Nintendo กำไรพุ่ง 34% งบครี่งแรกปี 2565

เหล่านักลงทุนและเกมเมอร์ Gen Y คงคุ้นเคยกับชื่อบริษัท Nintendo ค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนเป็นอันดับ 3 ในกองทุน HERO ETF ล่าสุดบริษัทประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกของงบประมาณปี 2565 (มี.ค. – ต.ค.) มีกำไรสุทธิราว 230,451 ล้านเยน เติบโต 34.11%yoy 

Nintendo ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินเยนอ่อนค่า เนื่องจากรายได้กว่า 80% ของบริษัทมาจากต่างประเทศ ถือเป็นความได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของบริษัทญี่ปุ่นที่รุกตลาดต่างประเทศ แต่บริษัทก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิปด้วยเช่นกัน 

ทิศทางตลาดเกมและอีสปอร์ตช่วงนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลดีต่อบริษัทเกมทั่วโลก ธีมเกมและอีสปอร์ตถือเป็นเมกะเทรนด์ที่จะพาโลกให้เข้าสู่ยุคเมตาเวิร์สได้อย่างเต็มตัว การฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีทำให้ราคาหน่วยลงทุน HERO ETF ปรับตัวขึ้นกว่า 7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


บทเรียนนักลงทุน จากมหกรรมเซลล์ 11.11 

สูญเสียกันไปเท่าไหร่กับมหกรรมเซลล์ 11.11 ที่ผ่านมา อย่ามัวแต่เสียเงินอย่างเดียวครับ มาหาโอกาสลงทุน หาเงินเข้ากระเป๋า กับบทเรียนของนักลงทุนสาย VI จากวันคนโสด มหกรรมช็อปแหลกแห่งปีกันดีกว่า 

อ่านต่อ 


เซมิคอนดักเตอร์

TSMC เตรียมสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในสหรัฐฯ

หากคุณติดตามตลาดเซมิคอนดักเตอร์ต้องคุ้นเคยกับชื่อ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) แน่นอน เพราะเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก และในตอนนี้บริษัทก็กำลังจะลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติม 

โดย TSMC เปิดเผยว่าบริษัทกำลังวางแผนเตรียมการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในรัฐแอริโซนา ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานแห่งแรกมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 2 หรือไม่ โดยขอพิจารณากำลังการผลิตและการจัดการด้านต้นทุนก่อน 

การก่อตั้งโรงงานของ TSMC เป็นสิ่งที่ประธานาธิบดี Joe Biden ต้องการ เพราะสหรัฐฯ พยายามดึงดูดผู้ผลิตชิปให้เข้ามาลงทุนมากขึ้นเพื่อกดดันการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน และเป็นไปตามความมั่นคงของชาติ 

การก่อตั้งโรงงานของ TSMC จะส่งผลดีต่อทั้งสหรัฐฯ และธีมเซมิคอนดักเตอร์ และดูเหมือนว่า TSMC จะมีแผนขยายกำลังการผลิตในญี่ปุ่นและเยอรมนีเช่นกัน สถานการณ์ขาดแคลนชิปอาจทุเลาลงหลังจากที่โรงงานแต่ละแห่งเสร็จสมบูรณ์


ปลดล็อกหุ้นเทคโนโลยีจีน สู่มหาอำนาจโลก 

วงการเทคโนโลยีจีนอยู่ในเงามืดมาแรมปีหลังรัฐบาลจีนควบคุม สร้างความปั่นปวนให้นักลงทุนทั่วโลก แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มเปิด จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจีนปลดล็อกกฎต่างๆ หุ้นเทคโนโลยีจีนจะมีอนาคตไกลแค่ไหน หาคำตอบได้ที่นี่ 

อ่านต่อ 


เศรษฐกิจจีน 

จีนคลายมาตรการโควิด คาดหวังเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ 

คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ของจีนประกาศลดระยะเวลากักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีน โดยต้องกักตัวในโรงแรมหรือศูนย์กักกันโรคเป็นเวลา 5 วันและกักตัวต่อ ณ ที่พักอีก 3 วัน รวมเป็น 8 วัน ซึ่งลดลงจากมาตรการเดิมที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าจีนต้องกักตัวรวม 10 วัน 

ระบบลงโทษสายการบินที่นำผู้ติดเชื้อ Covid-19 เข้าจีนก็ถูกยกเลิกเช่นกัน ส่งผลดีต่อการขนส่งและการเดินทางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ จีนยังยกเลิกนโยบายการติดตามผู้ติดเชื้อ เพื่อลดจำนวนผู้ที่ต้องกักตัวตามมาตรการเดิม

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากผู้นำระดับสูงของจีนออกคำสั่งให้จัดการ Covid-19 แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าจีนจะเลิกใช้วิธีการสั่งลงโทษที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ


รถยนต์ไฟฟ้า 

BYD ยอดขายในจีนแซงหน้า Tesla เดือนตุลาคมคนจีนซื้อรถเพิ่ม 75% 

สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (PCA) เปิดเผยยอดขายปลีกรถยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งเหมารวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบ Batterty EV (BEV) และแบบ Plug-in Hybrid ในเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 556,000 คัน เติบโตกว่า 75% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดย BYD มียอดส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 217,518 คัน แซงหน้า Tesla ไปแล้ว

แต่ยอดขายรถยนต์นั่งทุกประเภทในจีนเดือนตุลาคมลดลง 4.4% จากเดือนกันยายน จากการที่รัฐบาลจีนสั่งล็อกดาวน์จนทำให้สายการผลิตต้องหยุดชะงักลง

ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นทำให้การแข่งขันระหว่างค่ายรถยนต์ทวีความรุนแรงขึ้น โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ทั้งราย ได้แก่ Nio Li Auto และ Xpeng ถูกแซงหน้าโดย BYD และ Tesla ไปแล้ว นอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทยังถูกแซงหน้าโดยค่ายรถยนต์ที่เน้นตลาดผู้ใช้ทั่วไปอย่าง Aion และ Hozon New Energy Automobile รวมถึงรถยนต์รุ่นพรีเมียมอย่าง Zeekr จากค่าย Geely Automobile ด้วย


ช่วงนี้มีข่าวใหญ่หลายประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Zero-covid และเตรียมเปิดประเทศในต้นปีหน้า ข่าวเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนล่าสุดที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด รวมถึงการรวมตลาดหุ้นเวียดนามทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกันและปัญหาหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม

หลายประเด็นถือเป็นการพลิกสถานการณ์จากเรื่องร้าย กลับกลายเป็นเรื่องดี ตลาดหุ้นหลายประเทศจึงฟื้นตัวแรง

หากคุณไม่ได้วางแผนไว้ก่อน ช่วงนี้อาจต้องทำการบ้านเรื่องลงทุนหนักหน่อย แต่สำหรับหลายๆ คนที่ติดตามข่าวสารพร้อมวางแผนรับมือเอาไว้ตลอด ก็จะได้เปรียบในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นกลับทิศแบบนี้ 

สถิติในอดีตก็บอกกับเราว่าช่วงที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวแรง ถือเป็นช่วงเวลาชี้ขาดผลตอบแทนในระยะยาวได้เลย ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเซียนหุ้นหลายคนถึงเลือกถือหุ้นตลอดเวลา มากกว่าจะถือเงินสดรอจับจังหวะตลาด

พบกันใหม่วันอังคารหน้า

ทีมงาน Jitta Wealth


อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง

Jitta Wealth Journal – หุ้นจีนเด้งแรง ถึงเวลาลงทุนแล้วหรือยัง?

Jitta Wealth Journal – นักวิเคราะห์ประสานเสียง SET ปีหน้าขาขึ้น!