แต่แน่นอนว่าโลกโซเชียลมีเดียไม่มีวันหลับใหล การจัดสรรเวลาของคุณพ่อคนนี้จึงพิเศษกว่าใคร
“พี่กล้าเชื่อใน Work Life Integration อย่างที่ทำงานมีของเล่นเด็ก มีเตียงเด็ก ถ้าวันไหนลูกพี่มาทำงานด้วย เขาก็อยู่ที่นี่ได้โดยไม่เหงา เกินไป”
การได้รับบทบาทความเป็นพ่อทำให้ตระหนักถึงอนาคตและอยากจะดูแลลูกและคนในครอบครัวให้มั่นคงที่สุด
จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาสนใจการลงทุน และเป็น Jitta Wealth ตัวเลือกแรกสุดสำหรับการลงทุนระยะยาวของเขาคนนี้
ก่อนรู้จักกับ Jitta Wealth เรียกว่าลงทุนค่อนข้างมั่วซั่ว
เพราะว่าพี่ไม่เก่งเรื่องลงทุนเลย
ฉะนั้นการที่จะให้เสียเวลาไปเก่งเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
พี่มองว่าเอาเวลาไปทำงานอื่นดีกว่า
และฝากเงินไว้ให้กับคนที่เราไว้ใจ และเชื่อว่ามันจะเวิร์ก
ส่วนตัวพี่รู้จักกับ Jitta Wealth มาตั้งแต่ช่วงก่อตั้งแรกๆ
รู้จักกับทีมผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน และรู้ว่าพวกเขาตั้งใจทำขนาดไหน
บวกกับเพราะเป็นคนสายเทคฯ เลยรู้ว่าการใช้ AI
มาช่วยจัดการพอร์ต สุดท้ายแล้วมันน่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
คอมพิวเตอร์มีข้อดีหลายข้อที่เหนือมนุษย์ หนึ่งคือมันเร็วมาก
ถ้ามันได้เริ่มพร้อมกันกับมนุษย์ แน่นอนว่า AI จะซื้อได้ก่อน
ขายได้ก่อน และถอนได้ก่อน
สองคือมันไม่ถอยหลัง คนอาจจะมีความเสี่ยงต่างๆ แต่ AI
คือถ้าสอนให้มันเก่งพอ มันก็จะเก่งแบบนั้นเสมอ เลยคิดว่า Jitta Wealth น่าจะเป็นตัวที่ฝากผีฝากไข้ได้
ตอนนี้พี่มี 2 พอร์ตกับ Jitta Wealth คือ Thematic Optimize กับ Thematic DIY ซึ่งพี่จะปล่อยมันทิ้งไว้เฉยๆ เลย ให้ AI ทำงานไป ในส่วนของ DIY
ธีมที่เลือกลงทุนจะเป็นส่วนที่เข้าใจอยู่แล้วคือธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี
เพราะ ‘เวลา’ คือสิ่งสำคัญที่สุดเวลามีความสำคัญมาก ทุกคนมีเวลาเท่ากันและเป็นสิ่งที่มีจำกัด การเอาเวลาไปแลกเงินมันคือการแลกเปลี่ยน
การที่จะข้ามจุดนั้นไปได้ต้องเอาอย่างอื่นไปแลกเงินแทน
โดยวิธีการคือการเอาทรัพย์สินไปแลกเป็นเงินกลับมา และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณไม่ต้องใช้เวลาไปแลกเงินแล้ว
จะทำให้คุณมีเวลาให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น พี่ว่าสมการนี้เป็นสมการของคนที่จะประสบความสำเร็จ