จากอักษรศาสตรบัณฑิต ปัจจุบันเฟื่องลดาขยับขยายจากการฉายเดี่ยวมาทำบริษัทของตัวเองในชื่อ Flourish Digital หรือที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยมากกว่าจากเพจเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ชื่อ LDA ลดา - Ladies of Digital Age มุ่งสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอสู่แพลตฟอร์มออนไลน์
โดยมีเป้าหมายอยากส่งต่อความรู้ให้คนไทยเพื่อเตรียมความพร้อมให้ก้าวไปกับคลื่นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างเท่าทัน แม้จะอยู่ท่ามกลางโลกของเทคโนโลยีที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ความท้าทายในวันนี้ของหญิงสาวอายุ 28 ปีอย่างเฟื่องลดากลับไม่ใช่แค่พุ่งไปข้างหน้าหรือมุ่งมั่นพัฒนางานให้โดดเด่นแบบก้าวกระโดด แต่เธอค้นพบว่าชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จไม่ควรมีแค่เรื่องงาน แต่รวมถึงการจัดการชีวิตทุกๆ ด้านให้บาลานซ์ลงตัว และมีความสุขกับทุกวัน
สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการทำงานปีที่ผ่านมาของเฟื่อง คือเรื่อง Work-life Balance เพราะที่ผ่านมาเหมือนเฟื่องถนัดวิ่งสปรินต์ วิ่งเต็มแรงมาตลอดตั้งแต่เด็ก เฟื่องเป็นคนไฟแรง ชอบทำงาน การทำงานคือความสุข แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจว่าร่างกายคนเราไม่ใช่เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ยังต้องมีพักเลย เราล่ะจะยอมปล่อยงานบ้างไหม ประเมินกำลังตัวเองได้ไหม เฟื่องเริ่มเห็นว่าชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มีแค่เรื่องงาน
แต่มันคือการจัดการชีวิตทุกๆ ด้านให้บาลานซ์ลงตัวและมีความสุขมากกว่า เฟื่องพยายามวางแผนชีวิตให้ชัดเจนขึ้นว่าเป้าหมายในการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์หนึ่งคน เราจะต้องมีเสาหลักด้านไหนบ้าง แล้วด้านไหนที่เรายังขาดก็ต้องพัฒนาส่วนนั้นขึ้นมา จัดเวลาแต่ละวันให้ Productive มากขึ้น
เมื่อก่อนเฟื่องใช้ชีวิตคนเดียว ทำงานเอง บริหารจัดการชีวิตตัวเอง แต่พอเริ่มมีทีมเยอะขึ้นเรื่อยๆ เฟื่องต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น
ยิ่งเฟื่องเป็นเจ้าของบริษัทคนเดียว ไม่ได้มี Co-founder ดังนั้นเฟื่องต้องเป็นคนที่ชัดมากๆ ในการกำหนดทิศทางทุกอย่าง การตัดสินใจแต่ละครั้งต้องคิดละเอียดถี่ถ้วนมาก ทั้งเรื่องการดูแลคน บริหารเงิน และทำให้บริษัทให้เติบโตไปด้วย
ในการทำธุรกิจ เราต้องรู้ว่าเราชอบทำอะไร สไตล์ไหน เฟื่องไม่ใช่สายทุ่มสุดตัว ลงทุนห้าล้านแล้วหวังอยากได้รีเทิร์นสิบล้านทันที เราไม่ใช่สายนั้น เราเป็นสายค่อยๆ เติบโต ในการลงทุนก็เหมือนกัน เฟื่องหาข้อมูลเยอะมาก และคิดว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเองคือการลงทุนระยะยาว เฟื่องอาจไม่ค่อยมีเวลามาดูตลาดหุ้นเท่าไหร่ เราอยากทิ้งเงินที่เราอุตส่าห์หามาได้ไว้ให้คนที่ไว้ใจได้เอาไปดูแลให้มูลค่างอกเงย แล้วเราก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปดูแลสุขภาพ ไปโฟกัสกับธุรกิจ ไปทำงาน ไปพัฒนาศักยภาพของตัวเองและน้องๆ ในทีม และมีความสุขกับการใช้ชีวิตในทุกวัน