บทบาทสุดท้ายของ ชิงชัย เอี่ยมสิทธิพันธุ์ ก่อนเกษียณคืออดีตผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การไฟฟ้านครหลวงเป็นหัวแรงสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานจนประสบความสำเร็จ
เมื่อเกษียณแล้วเขาก็ยังได้รับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาสภาวิศวกรในวัย 63 ปีเช่นนี้อีกด้วย
นิยามความสำเร็จของเขาคือ การมุ่งมั่นทำงานที่รักให้ดีที่สุด และสามารถพัฒนาบุคลากรให้ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า ความมุ่งมั่นใจการทำงานกว่า 35 ปีทำให้เขาไม่ได้สนใจเรื่องการลงทุนมากนัก รู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ช่วงชีวิตแห่งการเกษียณแล้ว
“ผมว่าแต่ก่อน ผมสนุกกับการทำงานแล้วมัววุ่นอยู่กับการทำงาน จึงไม่ได้สนใจเรื่องการลงทุนเท่าไหร่นัก”
แต่เมื่อเกษียณคุณชิงชัยได้หยุดพักและคิดถึงเรื่องเงินในอนาคต นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาเริ่มสนใจและศึกษาเรื่องการลงทุน ในวัยที่เข้าสู่เลข 6 และเพราะทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาตลอดทั้งชีวิต จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเลือกลงทุนใน Jitta Wealth
“หลักการลงทุนของผมไม่ใช่การ DCA หลักการของผมคือการใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตในการลงทุนที่ผมเชื่อมั่น”
ผมเป็นเด็กจากสุพรรณบุรี มีโอกาสเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอจนจบ มศ.5 แล้วก็เข้าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงในคณะสถิติ วิชาโทคอมพิวเตอร์
เลยเป็นที่มาที่ทำให้ผมทำงานด้านไอทีมาโดยตลอดในการไฟฟ้านครหลวง
จากไม่มีอะไรเลยจนทำให้มีทุกอย่าง ทั้งบ้าน ครอบครัว ภรรยา ลูก รวมแล้วทำงานที่นี่มากว่า 35 ปี
ตำแหน่งสุดท้ายคือผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาระบบฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มีพนักงานในสังกัดประมาณ 50 คน
จนตอนนี้ก็มีครบทุกอย่างแล้ว แต่สิ่งที่คาดหวังว่าจะมีต่อไปคือการสร้าง Passive Income
ผมไม่มีความรู้ด้านการลงทุนเลยนะ ก่อนหน้านี้ก็เก็บออมอย่างเดียว ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF เท่านั้นเลย
แล้วก็ลงอยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ของการไฟฟ้านครหลวง เพราะผมก็ไม่มีความรู้ มันไม่เหมือนกับสมัยนี้
ฉะนั้นพอเกษียณแล้วจะให้ไปเริ่มศึกษาการลงทุนหรือหาความรู้มันก็คงไม่ทัน
ก่อนที่จะเกษียณประมาณ 3-4 ปี ได้มีโอกาสไปเป็นคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถึงได้รู้ว่ามันมีการลงทุน
ก่อนเกษียณปีนึงผมเริ่มหัดไปเล่นหุ้น แต่ก็มีแต่ตัวแดงติดลบเพราะผมไม่ได้มีความรู้อะไร อายุก็มากแล้ว
ตอนนั้นได้มารู้จักกับ Jitta Wealth เลยมีความสนใจในการเริ่มลงทุนกับ Jitta Wealth เมื่อเดือนธันวาคม 2563 พอร์ตแรกที่เปิดเลยก็คือ Global ETF กับ Thematic DIY โดยใช้เงินออมในการลงทุนครั้งนี้ทั้งหมดเลย
หลังจากนั้นปี 2564 ก็เอาเงินจาก LTF และ RMF ไปลงใน Jitta Ranking แล้วก็เอากองทุนสำรองเลี้ยงชีพมูลค่า 5 ล้านกว่าบาทไปลงทุนใน Jitta Wealth ทั้งหมด โดยรวมก็มีอยู่ 7 พอร์ต ก็คือ Jitta Ranking 4 ประเทศ Global ETF Thematic DIY และ Thematic Optimize
ผมทำงานด้านไอทีมาตลอดชีวิตกว่า 35 ปี ดังนั้น ผมจึงเชื่อในระบบแล้วก็หลักการเลือกลงทุนโดยเทคโนโลยี
ผมเชื่อว่าบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการหรือเพื่อช่วยลงทุนผลลัพท์มันจะออกมาดี แล้วผมก็รู้สึกว่าผลงานจากการลงทุนกับ Jitta Wealth นั้นโอเค มีผลกำไร
หลักการของผมคือการใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตจากการทำงานทั้งชีวิตมาลงทุน ความตั้งใจของผมคือ 2568 ผมอยากมีเงินในพอร์ต 10 ล้านบาทเพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพช่วงเวลาเกษียณนี้
เพราะผมไม่ได้มีรายได้จากทางอื่น การที่เลือกลงใน Jitta Wealth อย่างเดียวอยู่ที่ความเชื่อมั่นในหลักการและเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ Jitta Wealth เขาขอค่าบริการ 10% ของกำไร ถ้าเขาสามารถทำกำไรให้พอร์ตผมได้ มันก็แฟร์นะ
ผมอยากบอกน้องๆ ว่าให้เริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่อายุน้อยๆ เมื่อเกษียณแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่พี่พูดเป็นสิ่งที่ถูก
หากสมัยก่อนผมรู้เรื่องการลงทุนเร็วขึ้น ในตอนนี้ผมก็อาจจะรวยกว่านี้ไปแล้ว แต่ละคนต้องใช้เงินต่างกัน
จะมีเงินมากเงินน้อยก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ผมจึงมองว่าการวางแผนเกษียณเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่าแน่นอน