รีวิว Jitta Wealth ให้ AI เลือกหุ้นเวียดนาม เพื่อพอร์ตลงทุนระยะยาว
การรับไม้ต่อทางธุรกิจและนำพาให้องค์กรอยู่รอดได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ถือเป็นหนึ่งในความที่ท้าทายที่ทายาทธุรกิจหลายคนได้รับ เช่นเดียวกับคุณโดม มงคลประดิษฐ นักธุรกิจส่งออกจิวเวลรี่ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อนำพาธุรกิจให้ข้ามผ่านเศรษฐกิจถดถอยไปให้ได้ พร้อมๆ กับการเดินหน้าปั้นพอร์ตลงทุนเพื่อไปสู่เป้าหมายทางการเงินส่วนตัวที่ปักธงไว้เช่นกัน
ด้วยพอร์ตการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงพอร์ตลงทุนระยะยาวใน Jitta Ranking หุ้นเวียดนามที่สร้างผลตอบแทนให้เขาได้อย่างสวยงามที่ 55.59% เทียบกับ ผลตอบแทนดัชนี VN index ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน (3 มีนาคม 2564 – 21 มีนาคม 2567) อยู่ที่ +7.54% เรียกว่าชนะขาดลอย
จุดเริ่มต้นสู่โลกการลงทุน
คุณโดมเข้าสู่โลกการลงทุนตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี หลังจากที่คุณแม่ได้โยนโจทย์หิน ด้วยการยกเงินก้อนใหญ่จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตัวเอง มาให้คุณโดมนำไปบริหารต่อให้งอกเงย เพราะเชื่อว่าเขาจะเรียนรู้เส้นทางการลงทุนได้เป็นอย่างดี
ในเวลานั้นเขาก็ได้ใช้วิชาครูพักลักจำจากการทำงานพาร์ทไทม์ในบริษัทจัดการกองทุนเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ทำให้พอจะรู้วิธีเริ่มต้นลงทุนอย่างไร และจัดพอร์ตอย่างไร ประกอบกับการหาอ่านหาเรียนด้วยตัวเองจากหนังสือด้านการลงทุนมากมาย ระหว่างนั้นก็ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในกองทุนรวมที่จะมีผู้เชี่ยวชาญในการบริหารให้ก่อน
ครั้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยในคณะวิศวะกรรมคอมพิวเตอร์ เขาก็เลือกเรียนวิชาด้านการเงินและธุรกิจ เพราะมองว่าสุดท้ายปลายทางของชีวิต คือการทำธุรกิจของตัวเอง
ดังนั้นความรู้พื้นฐานด้านการเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเป็นเจ้าของกิจการมากทีเดียว เรียนไป คอยบริหารพอร์ตคุณแม่ไป โดยเลือกสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงของคุณแม่และสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร
“คุณแม่ไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนัก รู้แต่ประหยัด เก็บเงินให้ลูกเรียน เรียกว่าค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ ไม่ค่อยรับความเสี่ยงเท่าไหร่ ก็ต้องลงทุนแบบระมัดระวังอย่าง กองทุน Fixed Income หรือหากเป็นหุ้นก็จะเป็นบิ๊กแคปที่มีความมั่นคง ซึ่งผลตอบแทนก็ดี เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่าในบางครั้งบางทีอาจจะสู้ Index ไม่ค่อยได้ แต่โดยรวมถ้าเราลงทุนไปแล้วในตลาดหุ้น 10 ปีผ่านไปก็มีโอกาสที่จะทำให้เงินงอกเงยเป็น 2-3 เท่าได้ เทียบกับการที่เก็บเงินในธนาคาร ซึ่งได้แค่ปีละ 1-2%”
จากจุดเริ่มต้นสู่การลงสนามลงทุนของตัวเอง
เมื่อเริ่มเรียนเรื่องการลงทุนผ่านการบริหารพอร์ตให้คุณแม่แล้ว หลังจากเรียนจบปริญญาตรีเริ่มทำงาน มีรายได้จากการเป็นพนักงานบริษัทก็เริ่มเก็บเงินเพื่อเปิดพอร์ตลงทุนซื้อหุ้นของตัวเอง เพราะเห็นแล้วว่าการลงทุนในหุ้นจะมีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก
เขาจึงเริ่มต้นจากการจัดสรรรายได้ออกเป็น 3 ส่วนตามทฤษฎีที่ศึกษามา ประกอบด้วยเงินออมที่เก็บในรูปของเงินฝาก เงินลงทุนและเงินที่ต้องใช้จ่ายประจำ โดยเริ่มต้นลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปที่มีความเสี่ยงน้อยก่อน เพื่อให้ได้ประสบการณ์การซื้อ การขายหุ้น
แต่ด้วยความที่อายุยังน้อย ยังมีเวลาในการทำงานอยู่มาก ในเวลานั้นคุณโดมยอมรับว่าอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ ก็ขยายสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลายและรับความเสี่ยงมากขึ้นกว่าพอร์ตของคุณแม่ เพราะต้องการให้มีเงินใช้ยามเกษียณ
เขาได้ลองลงทุนในหุ้น IPO ตราสารอนุพันธ์ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง หรือแม้กระทั่งคริปโทเคอร์เรนซี เรียกว่าประสบการณ์โชกโชนพอสมควร โดยเฉพาะในคริปโทฯ ที่เขาลงทุนตั้งแต่ยุคแรกๆ ของบิทคอยน์ และมีการบริหารความเสี่ยงด้วยการทำกำไรออกมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังอยู่บน “ดอย” เช่นกัน บาดแผลและบทเรียนที่ได้ มีทั้งบวกและลบแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสนุกและผลตอบแทนที่น่าพอใจ
มองเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก Jitta
และด้วยการที่คุณโดมจบปริญญาทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จึงมีความรู้ความเข้าใจการทำงานของ AI เป็นอย่างดี เมื่อเขาได้รู้จัก Jitta ก็มองเห็นโอกาสที่จิตตะจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้เขาได้ เขาใช้ Jitta.com เพื่อประเมินขั้นต้นในการลงทุนในหุ้นรายตัว
จนกระทั่งเห็นข่าวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงมากขึ้นจนเริ่มเห็นข่าวการย้ายฐานการผลิตของบริษัทสหรัฐฯ ไปประเทศเวียดนาม ทำให้เขาสนใจที่จะไปลงทุนในประเทศเวียดนาม
“เราเห็นแล้วว่าธุรกิจจากสหรัฐฯ ต้องย้ายไปอยู่เวียดนามแน่ๆ แต่ผมเองไม่มีเวลามานั่งวิเคราะห์หุ้นของเวียดนามด้วยตัวเอง ก็เลยคิดว่าถ้ามี AI ที่จะช่วยวิเคราะห์ได้ด้วยหลักการ ต่างๆ แล้วก็เป็นวิธีที่อาจจะดีกว่า”
Jitta Wealth ตัวช่วยที่ตอบโจทย์การลงทุน
เมื่อเห็นแล้วว่าการใช้ AI ของ Jitta Wealth มาช่วยลงทุนให้จึงตอบโจทย์ที่สุด คุณโดมจึงตัดสินใจเปิดกองทุน Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม
ซึ่งในช่วงที่ลงทุน เขาเข้ามาดูความเคลื่อนไหวของพอร์ตตลอดเวลา เคยเห็นจังหวะสูงสุดและต่ำสุดของพอร์ตมาแล้ว แต่เขามีเป้าหมายให้เป็นการลงทุนระยะยาวจึงไม่ได้หวั่นไหวกับราคาที่ปรับลดลง และยังคงมองหาโอกาสหากจังหวะที่เห็นการปรับขึ้น ก็ตั้งใจว่าจะเข้าไปลงทุนเพิ่ม
ผ่านมา 15 ปี กับการลงทุนของตัวเอง สินทรัพย์ลงทุนของคุณโดมงอกเงยขึ้นหลายเท่าเช่นเดียวกับประสบการณ์การลงทุนที่เติบโต ด้วยความสุขที่ได้ลงทุน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่ได้ลงลึกในแต่ละสินทรัพย์ขนาดที่ต้องเฝ้าจอทุกวัน แต่เป็นการลงทุนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ ความเข้าใจตลาด โดยยังคงกลยุทธ์หลักที่เป็นพื้นฐานอย่างการจัดสรรเงินออมเงินลงทุนแล้วในระยะยาวก็จะทำให้สินทรัพย์เพิ่มพูนขึ้นได้หลายเท่า โดยใช้ความสม่ำเสมอในการลงทุน มีความกล้าเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องมาพร้อมกับความใจเย็นและระมัดระวัง
ทุกวันนี้เส้นทางการลงทุนของคุณโดมมีปลายทางที่เขาใฝ่ฝันว่าจะมีสินทรัพย์สภาพคล่องที่เหมือนเงินสดให้ได้ในระดับหนึ่งที่วางตัวเลขไว้ในใจ และด้วยอายุที่มากขึ้น ก็ได้มีการจัดสรรความเสี่ยงตัวเองใหม่ให้เหมาะสม จากเดิมที่จัดสรรสัดส่วนเงินออม เงินลงทุนและเงินใช้จ่ายประจำ 20 : 20 : 60 ปัจจุบันปรับสัดส่วนเป็น 40 : 40 : 20 เพราะเริ่มเห็นภาพตัวเองที่ชัดขึ้นว่าเป็นนักลงทุนแนวอนุรักษ์นิยม (Conservative)
และในวันนี้ที่เขาต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการธุรกิจ ที่มีภารกิจในการนำพาธุรกิจที่คุณพ่อและคุณน้าส่งไม้ต่อให้ สามารถเติบโตและก้าวผ่านภาวะถดถอยไปได้ พร้อมไปกับการดูแลพอร์ตลงทุนของตัวเองให้เติบโตควบคู่กันไป โดยให้นิยามตัวเองว่าเป็น “นักธุรกิจที่ลงทุนตลอดเวลา” เพราะแม้ว่าในอนาคตจะเข้าสู่วัยเกษียณ เขาก็จะยังคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเงินของเรากำลังสร้างผลตอบแทนหรือกำลังเสี่ยงอยู่แค่ไหน