Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

4 สุดยอดฟีเจอร์ใหม่บนแอป Jitta Wealth พร้อมใช้งานแล้ววันนี้!


Jitta Wealth

เนื้อหาสำคัญ

เมื่อคุณขอมา…Jitta Wealth ก็จัดให้

ฟีเจอร์ใหม่! เอาใจนักลงทุนตัวจริง ด้วยการแสดงผลข้อมูลการลงทุนที่ละเอียดขึ้น ให้คุณเช็คผลตอบแทนได้หลายมิติ ขยายภาพการลงทุนให้ชัดเจนขึ้น พร้อมให้คุณปรับแต่งได้ตามใจชอบ

ทีมงาน Jitta Wealth ฟังเสียงนักลงทุนอยู่เสมอ และหนึ่งในเรื่องที่คุณบอกว่าอยากให้ทีมงานพัฒนาให้มากที่สุด ก็คือ การแสดงผลข้อมูลการลงทุนที่ลึกและละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินฝาก-ถอนรวมของแต่ละพอร์ต การแสดงผลตอบแทนหลากหลายรูปแบบที่จะช่วยให้คุณติดตามการลงทุนได้สะดวกสบายขึ้น มีคำตอบครบทุกข้อสงสัย มีเวลาออกไปใช้ชีวิตได้มากกว่าที่เคย

วันนี้…ทีมงาน Jitta Wealth จัดให้! กับแอปพลิเคชัน Jitta Wealth เวอร์ชัน 3.10.0 ที่พร้อมให้คุณอัปเดตได้แล้วทาง iOS AppStore และ Google Playstore รวมถึง Huawei AppGallery

ส่วนในแอปพลิเคชันเวอร์ชันนี้จะมีฟีเจอร์ใหม่อะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ผลกำไร/ขาดทุน

ฟีเจอร์แรกที่ถูกถามถึงมากที่สุด และน่าจะตอบโจทย์การติดตามผลตอบแทนของคุณ ก็คือ ‘การแสดงผลกำไร/ขาดทุน’ ที่เกิดจากการนำมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปัจจุบัน (Net Asset Value หรือ NAV) ไปลบกับจำนวนเงินลงทุนรวม (Net Deposit) ของแต่ละพอร์ตลงทุนนั่นเอง

ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณหาผลตอบแทนแบบ Simple Return ที่คุ้นเคยได้ง่ายขึ้น เพียงแค่นำผลกำไร/ขาดทุนในรูปตัวเงินมาหารด้วยเงินลงทุนรวมตามที่แสดงในแอปพลิเคชันได้เลย 

คุณสามารถดูข้อมูล ‘ผลกำไร/ขาดทุน’ ได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. จาก ‘หน้าหลัก’ เลือกพอร์ตลงทุนที่คุณต้องการรู้ผลกำไร/ขาดทุน
  2. จากนั้น แอปพลิเคชันจะแสดงผล ‘มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)’ ของพอร์ตที่คุณเลือก
  3. เลื่อนหน้าจอแอปพลิเคชันลงมาด้านล่างสุด คุณจะพบกับข้อมูลนี้ในส่วนการแสดงผล ‘มูลค่าพอร์ตลงทุน’
Profit Loss

เงินฝากรวม เงินถอนรวม และเงินลงทุนรวม

ฟีเจอร์นี้ถูกพัฒนาขึ้นตามคำเรียกร้อง เพื่อช่วยให้คุณติดตามความคืบหน้าในการลงทุนได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ การแสดงผล ‘เงินฝาก-ถอนรวม และเงินลงทุนรวม’ ของแต่ละพอร์ตนั่นเอง

ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์กับคุณมากๆ ในการติดตามจำนวนเงินฝาก-ถอนรวม และเงินลงทุนรวม (Net Deposit) ของแต่ละพอร์ต ให้คุณนำไปเปรียบเทียบกับเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว หรือจะใช้ในการปรับแผนลงทุนก็ได้เหมือนกัน 

หากคุณมีพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth หลายพอร์ต หรือลงทุนแบบ DCA เป็นประจำ ฟีเจอร์นี้จะช่วยประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียว

คุณสามารถดูข้อมูลจำนวนเงินฝากรวม เงินถอนรวม และเงินลงทุนรวมได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. จาก ‘หน้าหลัก’ เลือกพอร์ตลงทุนที่ต้องการรู้ข้อมูลเงินฝาก-ถอนรวม และเงินลงทุนรวม 
  2. แอปพลิเคชันจะแสดงหน้า ‘มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)’ ของพอร์ตที่คุณเลือก 
  3. เลื่อนหน้าจอลงมาด้านล่างสุด ในส่วนการแสดงผล ‘มูลค่าพอร์ตลงทุน’ 
  4. กดที่สัญลักษณ์ (i) หลัง ‘เงินลงทุนรวม’ คุณจะพบข้อมูลที่ต้องการทันที
Net Deposit

กราฟเงินลงทุนสุทธิ

ฟีเจอร์ถัดมาที่ต่อเนื่องจากการแสดงผลเงินลงทุนรวมที่ทีมงานเพิ่งอธิบายไป ก็คือการแสดงผล ‘กราฟเงินลงทุนสุทธิ’ ที่คุณสามารถตั้งค่าเปิด/ปิดได้ตามที่ต้องการทุกเวลา 

กราฟเงินลงทุนสุทธิจะช่วยให้คุณเห็นภาพการเปรียบเทียบระหว่างมูลค่าเงินลงทุนสุทธิ (Net Deposit) กับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ในแต่ละช่วงเวลาที่ต้องการทราบข้อมูลได้ทันที ซึ่งส่วนต่างระหว่างกราฟทั้ง 2 เส้น ก็คือผลกำไร/ขาดทุนของพอร์ตนั้นๆ นั่นเอง 

คุณสามารถเข้าไปตั้งค่าเปิด/ปิดกราฟเงินลงทุนสุทธิ (หรือเงินลงทุนรวม) ได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. จาก ‘หน้าหลัก’ เลือกเมนู ‘เพิ่มเติม’ ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ 
  2. เลือกเมนู ‘ตั้งค่า’ 
  3. เลือกเมนู ‘พอร์ตลงทุน’ 
  4. คุณจะพบกับตัวเลือกเปิด/ปิดการแสดงผลกราฟเงินลงทุนสุทธิทันที
Graph Deposit

ผลตอบแทนแบบ Time-weighted Return หรือ Money-weighted Return

ฟีเจอร์สุดท้ายที่มาพร้อมกับแอปฯ เวอร์ชันใหม่รอบนี้ ก็คือการที่คุณจะเลือกได้ว่าจะแสดงผลผลตอบแทนจากการลงทุนแบบ Time-weighted Return (TWR) ที่จะวัดฝีมือของกองทุนล้วนๆ หรือ Money-weigheted Return (MWR) ที่จะวัดทั้งฝีมือของกองทุนและการจับจังหวะเพิ่ม-ถอนทุนของคุณให้เลือกตั้งค่าได้ตามใจชอบ

ส่วนวิธีการตั้งค่าว่าจะให้แอปพลิเคชัน Jitta Wealth แสดงผลตอบแทนแบบไหน ก็ทำได้ง่ายๆ คล้ายคลึงกับการตั้งค่าเปิด/ปิดกราฟเงินลงทุนสุทธิ ดังนี้

  1. จาก ‘หน้าหลัก’ เลือกเมนู ‘เพิ่มเติม’ ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ 
  2. เลือกเมนู ‘ตั้งค่า’ 
  3. เลือกเมนู ‘พอร์ตลงทุน’ 
  4. เลือกเมนู ‘วิธีแสดงผลตอบแทน’ 
  5. คุณจะพบกับตัวเลือกการแสดงผลตอบแทนทั้ง 2 แบบ ให้คุณเลือกได้ตามใจว่าอยากดูผลตอบแทนแบบไหน
TWR MWR

หากคุณยังไม่รู้ว่าการวัดผลตอบแทนทั้ง 2 วิธีต่างกันอย่างไร ก็สามารถกดที่สัญลักษณ์ (i) ด้านหลังแต่ละตัวเลือกเพื่ออ่านคำอธิบายสรุปของแต่ละวิธีได้ หรือถ้าอยากศึกษาวิธีการคำนวณและจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละวิธีอย่างละเอียด ให้กดที่คำว่า ‘วิธีคำนวณผลตอบแทนต่างกันอย่างไร?’ เพื่ออ่านบทความที่ทีมงานอธิบายไว้ก็ได้เช่นกัน

คุณสามารถเข้าไปศึกษาการวัดผลตอบแทนทั้ง 2 แบบได้ในที่นี่ https://jitta.co/3J16XvI

และเมื่อเลือกแสดงผลตอบแทนแต่ละแบบแล้ว ในกล่องสีเทาที่หน้าแสดงมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของพอร์ตก็จะมีอักษรย่อขึ้นกำกับหลังตัวเลขผลตอบแทน เพื่อบอกว่าแอปพลิเคชันกำลังแสดงผลตอบแทนแบบไหนอยู่

  • หากเลือกการแสดงผลตอบแทนแบบ Time-weighted Return หลังตัวเลขผลตอบแทนจะแสดงเป็น (TWR)
  • หากเลือกการแสดงผลตอบแทนแบบ Money-weighted Return หลังตัวเลขผลตอบแทนจะแสดงเป็น (MWR)

การเลือกวิธีวัดผลตอบแทนให้ตรงตามแผนหรือเป้าหมายการลงทุน จะช่วยให้คุณติดตามความก้าวหน้าในการลงทุนได้ถูกต้องและเที่ยงตรงขึ้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเป้าหมายส่วนตัวที่ตั้งไว้ก็จะไม่เพี้ยนไปจากความเป็นจริง จนทำให้การปรับแผนการลงทุนผิดพลาดต่อเนื่องเป็นไฟลามทุ่งไปเรื่อยๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 4 ฟีเจอร์ใหม่ของแอปพลิเคชัน Jitta Wealth ที่ทีมงานพัฒนาขึ้นมาให้ตามเสียงเรียกร้อง เพื่อให้ชีวิตคุณสะดวกสบายมากขึ้น มีเวลาให้กับสิ่งที่ความหมายมากขึ้นกว่าที่เคย 

ถ้าถูกใจฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทีมงานพัฒนาขึ้น อย่าลืมรีวิว 5 ดาวให้ทีมงาน Jitta Wealth ทุกชีวิตมีกำลังใจในการสร้างการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ช่วยให้คุณได้กำไรอย่างยั่งยืนต่อไป 

หากคุณมีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะดีๆ ที่อยากให้ทีมงานพัฒนา เอามาบอกทีมงานที่ Line ID: @JittaWealth ได้เลย


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน