Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

S&P 500 พิสูจน์แล้ว! ลงทุนระยะยาวดีจริง?


Jitta Wealth

ไฮไลต์

  • จากข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500 Rolling Return) ตั้งแต่ปี 2471-2567 พบว่าระยะเวลาลงทุนที่นานขึ้น จะช่วยให้โอกาสขาดทุนลดลง 
  • อีกหนึ่งข้อดีของการลงทุนระยะยาวคือ ผลตอบแทนทบต้น (Compound Interest) ที่จะช่วยให้เงินเติบโตเร็วขึ้นด้วย
  • การลงทุนระยะยาว อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการลงทุนระยะสั้น เพราะความเสี่ยงที่ลดลง และต้นทุนในการบริหารจัดการพอร์ตที่น้อยกว่าการซื้อขายระยะสั้นๆ
  • Warren Buffett เป็นตัวอย่างของนักลงทุนระดับโลกที่สร้างความมั่งคั่งมหาศาลจากการลงทุนระยะยาว
  • ลงทุนระยะยาวให้ประสบความสำเร็จ ต้องเข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุน กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และมีวินัยที่ดี

คุณอยากลงทุนแล้วเห็นพอร์ตเติบโต แต่รู้หรือไม่ว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้รวยขึ้นเพราะซื้อขายทุกวัน แต่เพราะพวกเขา ‘ให้เวลา’ กับการลงทุนของตัวเอง

ตลาดหุ้นมีความผันผวนเสมอ บางปีขึ้นแรง บางปีลงหนัก ถ้าคุณพยายามจับจังหวะตลาดโดยหวังซื้อถูกขายแพง คุณอาจโชคดี… หรืออาจเสียหายหนักก็ได้ ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงได้คือ ‘ระยะเวลา’

บทความนี้เราจะพาคุณไปวิเคราะห์ผลตอบแทนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) ในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมอธิบายว่าทำไมการลงทุนระยะยาวจึงช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้

ภาพข้อมูลผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือ S&P 500 Rolling Return ปี 2471 ถึง 2567 ที่แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าคุณจะลงทุนในช่วงเวลาไหน การลงทุนเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น โอกาสขาดทุนก็จะลดลง เช่นหากลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี คุณจะมีโอกาสโชคดีได้กำไรสูงถึง 52.56% หรือโชคร้ายขาดทุนหนัก ติดลบได้ถึง 43.84% แต่ถ้าคุณลงทุนเป็นระยะเวลา 20 ปี ผลตอบแทนต่ำสุดที่คุณมีโอกาสทำได้คือ บวก 2.37% ซึ่งเท่ากับว่าโอกาสขาดทุนแทบไม่มีเลย

สถิติ S&P 500 ตลอด 96 ปี ชี้! ลงทุนระยะยาวลดโอกาสขาดทุน

จากข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500 Rolling Return) ตั้งแต่ปี 2471-2567 โดยลงทุนเป็นระยะเวลาที่ต่างกัน จากนั้นหาผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีที่สุด และแย่ที่สุดที่จะสามารถเกิดขึ้นได้  

ในช่วงปี 2471-2567 

  • ลงทุน 1 ปี เรามีโอกาสกำไรสูงสุดถึง +52.56% แต่มีโอกาสขาดทุนมากถึง -43.84% 
  • ลงทุนนานขึ้นเป็น 5 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีที่สุด +28.30% ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -12.71% 
  • ลงทุนระยะยาวถึง 20 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีที่สุด +17.70% ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดอยู่ที่ +2.37% 

สรุปได้ว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยที่แย่ที่สุดจะลดลงตามระยะเวลาการลงทุนที่นานขึ้น และถ้าเราลงทุนระยะยาว 20 ปี เราแทบไม่มีโอกาสขาดทุนเลย นี่คือเหตุผลว่าทำไม “เวลา” จึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน

ผลตอบแทนระยะยาวเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยทบต้น

อีกหนึ่งข้อดีของการลงทุนระยะยาวคือ ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) ที่ช่วยให้เงินเติบโตเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ดอกเบี้ยทบต้นคือ การคำนวณดอกเบี้ยโดยใช้เงินต้นรวมกับดอกเบี้ยจากงวดก่อนหน้า และดอกเบี้ยในงวดถัดไปจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินต้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

เช่นหากคุณลงทุน 100,000 บาท ในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน 8% ต่อปี

ถ้าคุณลงทุน 10 ปี เงินของคุณก็จะโตเป็น 215,892 บาท 

แต่ถ้าคุณลงทุน 30 ปี เงินของคุณจะโตถึง 1,006,265 บาท (โตขึ้นเกือบ 10 เท่า!)

ยิ่งถือยาว ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยทบต้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น 

และการที่คุณลงทุนระยะยาว แม้จะมีปีที่ตลาดผันผวนแต่คุณจะไม่พลาดโอกาสในช่วงที่ตลาดกลับตัวหรือขาขึ้นที่จะทำผลตอบแทนได้เยอะ…อยู่ในช่วงหุ้นตกแล้วอย่าพลาดที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย  

ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวแบบไหนดีกว่ากัน

อ้างอิงจากหนังสือ The Intelligent Investor ของ Benjamin Graham การลงทุนระยะสั้น คือการลงทุนที่มีระยะเวลาตั้งแต่ไม่กี่เดือนถึง 3 ปี โดยมุ่งหวังผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงราคาภายในช่วงเวลาสั้น

ส่วนการลงทุนระยะยาว คือการลงทุนที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยมุ่งหวังผลตอบแทนจากการเติบโตอย่างมั่นคงและการสะสมผลตอบแทนจากดอกเบี้ยทบต้น

จะรู้ได้อย่างไรว่า คุณเหมาะกับการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้และเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ

ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวแบบไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการผลลัพธ์แบบไหน ระยะสั้นอาจดูหวือหวา แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น 

เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะยาวที่ค่อยเป็นค่อยไป บนความเสี่ยงที่น้อยกว่าแล้ว การลงทุนระยะยาวก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าได้ด้วย

นอกจากเรื่องของผลตอบแทนแล้ว สิ่งที่ทำให้การลงทุนระยะยาวดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า คือต้นทุนอื่นๆ ที่คุณต้องใช้ในการบริหารจัดการพอร์ต 

คุณอาจใช้เวลาในการดูแล ปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน (อาจมากหรือน้อยกว่านั้น) ในการดูแลพอร์ตการลงทุนระยะยาว 

แต่การลงทุนระยะสั้น เช่น การลงทุนแบบ Day Trade ที่ต้องซื้อขายทุกสัปดาห์ หรือทุกวัน คุณจะมีต้นทุนที่ต้องเสียเพิ่มไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมซื้อขาย แรงกายแรงใจที่ต้องคอยติดตามสถานการณ์หุ้นอยู่ตลอดด้วย 

Warren Buffett กับแนวทางการลงทุนระยะยาว

นอกจากหลักการซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาะสมแล้ว Buffett ยังเป็นหนึ่งในตัวอย่างของนักลงทุนระยะยาวที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย 

ปู่เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย และหุ้นบางตัวที่ปู่ถืออยู่ ก็เป็นการถือยาวเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นหุ้น Coca-Cola หรือ American Express ที่ตอนนี้เติบโตทำกำไรให้ปู่อย่างมหาศาล 

ปู่ Buffett ไม่เคยสนใจข่าวหุ้นรายวัน เพราะ ปู่ มองว่าการลงทุนในหุ้น คือการเป็นเจ้าของธุรกิจ ดังนั้น เขาจะเลือกลงทุนในบริษัทที่มี พื้นฐานแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโตระยะยาว มากกว่าการมองหากำไรในระยะสั้น

ปู่เคยพูดเปรียบเทียบการลงทุนระยะยาวไว้ว่า “Someone’s sitting in the shade today because someone planted a tree a long time ago.” 

“วันนี้มีคนได้นั่งใต้ร่มไม้ เพราะมีคนปลูกต้นไม้ไว้นานมาแล้ว”

หมายความว่าการลงทุนนั้นต้องใช้เวลา ไม่สามารถหวังผลลัพธ์รวดเร็วได้ นักลงทุนที่อดทนและลงทุนระยะยาวจะได้รับผลตอบแทนที่งอกเงยเหมือนต้นไม้ที่เติบโต

วิธีลงทุนระยะยาวให้ได้ผล

คือลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว ดังนั้นก่อนจะเริ่มลงทุนคุณควรทำความเข้าใจในสินทรัพย์ที่จะลงทุนให้ดี เข้าใจในมุมความเสี่ยง ว่ามีโอกาสขาดทุนได้กี่เปอร์เซ็นต์ และตั้งเป้าหมายระยะเวลาลงทุนให้ชัดเจนก่อน เพราะระยะเวลาจะช่วยลดความเสี่ยง ลดโอกาสขาดทุนได้

นอกจากนี้การบริหารจัดการพอร์ต กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เช่น การจัดพอร์ต Core & Satellite และการ DCA อย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวได้ง่ายขึ้น สบายใจขึ้น 

สรุปได้ว่า ระยะเวลา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนของคุณเติบโต และประสบความสำเร็จได้ ทั้งในแง่ของความเสี่ยงที่ลดน้อยลง และผลตอบแทนจากดอกเบี้ยทบต้น

นอกจากข้อดีในเรื่องของผลตอบแทนแล้ว การลงทุนระยะยาวช่วยให้คุณเครียดน้อยลง มีเวลาให้พอร์ตเติบโต

อย่างไรก็ตามการลงทุนระยะยาวก็ไม่ควรจับตาดูพอร์ตหรือดูตลาดบ่อยเกินไป เพราะถ้าคุณปลูกต้นไม้แล้วคอยขุดขึ้นมาดูรากทุกวัน มันอาจตายแทนที่จะได้เติบโต

การลงทุนระยะยาวก็เช่นกัน ไม่ควรดูราคาหุ้นทุกวัน เพราะตลาดมีความผันผวนในระยะสั้นเสมอ การดูบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียดและตัดสินใจผิดพลาด  

การลงทุนที่ดีคือลงทุนในสิ่งที่คุณมีความรู้ความเข้าใจ บนความเสี่ยงที่คุณรับได้ จากนั้นให้เวลามันเติบโต คุณก็จะสามารถเดินทางสู่เป้าหมาย เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้

ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่มลงทุน เริ่มวันนี้! ศึกษานโยบายลงทุนของ Jitta Wealth จากนั้นเลือกลงทุนในนโยบายที่คุณสนใจ ด้วยกลยุทธ์ที่ดี กระจายความเสี่ยงให้เหมาะสมแบบ Core & Satellite และมีวินัย DCA สม่ำเสมอ จากนั้นให้เวลากับพอร์ตของคุณ และเติบโตไปพร้อมกันได้เลย