Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

สรุป Live: Ask Me Anything EP.5 ถาม-ตอบ ทุกเรื่องลงทุน Jitta Wealth


Live

พบกับ Ask Me Anything ตอนที่ 5 จาก Jitta Wealth ครั้งแรกของปี 2568 Live สดจากคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และคุณอ้อ พรทิพย์ กองชุน CGO ของ Jitta Wealth ที่มาพูดคุยถามตอบกันแบบสดๆ จะมีคำถามอะไรบ้าง คำตอบคืออะไร เราสรุปประเด็นสำคัญมาให้คุณแล้ว 

หากคุณสนใจอยากรับชม Live ของเราแบบสดๆ ในโอกาสต่อไปติดตามเราได้ที่ Facebook หรือ Youtube ของ Jitta Wealth ได้เลย 

ดูวิดีโอย้อนหลัง

First Jobber ลงทุนอย่างไรดี?

ถ้าฟัง Live ของเราบ่อยๆ Jitta Wealth จะพูดถึงการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite ซึ่งพอร์ตหลัก (Core) เป็นพอร์ตที่ First Jobber ควรจะมีก่อน เพราะเป็นพอร์ตหลัก รากฐานของการลงทุน ไว้เป็นกระดูกสันหลังในการเติบโตระยะยาว เน้นพึ่งพิงได้ ไม่หวือหวามาก ซึ่ง Jitta Wealth ก็จะแนะนำ Global ETF

ส่วนการลงทุนในนโยบาย Jitta Ranking หรือ Thematic จะไปอยู่ในส่วนของพอร์ตเสริม (Satellite) เป็นส่วนต่อเติม เสริมจากรากฐานอีกที เพื่อบูสต์การเติบโต เน้นคว้าโอกาสทำกำไรที่สูงขึ้น มีความผันผวนมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้นเช่นกัน

First Jobber หรือคนที่เพิ่มเริ่มลงทุนสามารถเริ่มได้ที่การลงทุนในพอร์ตหลักก่อน ซึ่งก็คือ Global ETF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก จัดพอร์ตตามทฤษฎี Modern Portfolio ลงทุนใน ETF หุ้นและ ETF พันธบัตร เพื่อผลตอบแทนที่คุณต้องการ ในระดับความเสี่ยงที่พอดี คุณสามารถเริ่มลงทุนด้วยเงินเริ่มต้น 10,000 บาท และจะ DCA สะสมเงินลงทุนไปพร้อมๆ กันเลยก็ได้ 

ซึ่ง Global ETF ก็เป็นหนึ่งในนโยบายลูกรักของนักลงทุน Jitta Wealth และเป็นพอร์ตส่วนใหญ่ที่นักลงทุนนิยม DCA อย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน 

แต่ถ้าเป็นพนักงานบริษัทที่เติบโตระดับหนึ่งแล้ว มีเงินก้อนระดับหนึ่งและต้องการสร้างความมั่งคั่งในชีวิตให้ดีขึ้น และอาจจะเคยลงทุนมาบ้างแล้ว ก็แนะนำการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite ฉบับเริ่มต้น ได้เลย สัดส่วนที่แนะนำก็คือ การลงทุนใน Global ETF 80% และ Thematic Optimize 20% 

จะมี Jitta Ranking หุ้นเกาหลีไหม?

ถ้าจะมี ก็น่าจะไปอยู่ใน Jitta Ranking Alpha มากกว่า เพราะเราเริ่มเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่า Jitta Ranking Alpha ตอบโจทย์ เพราะจังหวะเวลาที่เข้าลงทุนก็มีผลกับผลตอบแทนที่จะได้รับอยู่เหมือนกัน

Jitta Ranking Alpha คือการลงทุนให้หุ้นที่ให้ Alpha AI วิเคราะห์เลือกประเทศที่มีโอกาสทำกำไรในปีนั้นๆ และรีวิวประเทศน่าลงทุนให้ทุกปี และยังคงใช้ Jitta Ranking AI มาคัดเลือก ‘หุ้นดีราคาถูก’ เพื่อจัดพอร์ตลงทุนให้อัตโตโนมัติ 

ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนค่าเงินกับ Jitta Ranking Alpha
ต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนค่าเงินทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนประเทศในการลงทุนหรือไม่ เมื่อลงทุนใน Jitta Ranking Alpha 

ขอทบทวนขั้นตอนของ Jitta Ranking Alpha อีกสักหน่อย ขั้นตอนการลงทุนของ Jitta Ranking Alpha จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ Alpha AI วิเคราะห์ตลาดหุ้นที่น่าลงทุน เลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุดให้ ใน 4 ตลาดหุ้นชั้นนำคือ สหรัฐฯ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเมื่อเลือกประเทศได้แล้ว Jitta Ranking AI ก็จะคัดเลือกจัดอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ให้อีกที แล้วทุกๆ สิ้นปีก็จะมีการรีวิวประเทศในการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นประเทศเดิมอยู่ก็จะซื้อหุ้น ปรับพอร์ตหุ้นปกติต่อไป 

แต่เมื่อมีการเปลี่ยนประเทศลงทุน เราก็จะขายหุ้นประเทศเดิมที่ถูกเลือกออกและซื้อหุ้นประเทศใหม่ 

ซึ่งจากคำถาม แน่นอนว่าเราจะมีการเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนไปตามประเทศที่ลงทุน ในอัตราแลกเปลี่ยนในตอนนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เอาเงินดอลลาร์สหรัฐไปแลกเงินหยวนของจีนตรงๆ ไม่ได้แลกเป็นไทยก่อน ไปๆ มาๆ และไม่ได้มีค่าธรรมเนียมนอกเหนือจากนั้น 

ช่วงนี้ Jitta Wealth มีโปรโมชันอะไรใหม่ๆ ไหม? 

Jitta Card แจกฟรี อั่งเปามงคล ฮก ลก ซิ่ว เสริมดวงลงทุน เอาความเฮงมาแจกรับเงินออมเสริมดวง 168 บาท ด้วยการสมัครใช้งาน Jitta Card วันนี้ และใช้จ่ายด้วย Jitta Card และเก็บ Round Up ให้ครบ 1,000 บาทขึ้นไป และส่งต่อไป DCA เติมพอร์ต Jitta Wealth ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.-25 ก.พ. 68 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ลงทุน Jitta Wealth ด้วยเงินเกษียณอย่างไรดี? 

การลงทุนกับ Jitta Wealth หลังจากเกษียณแล้วต้องมองว่า อยากได้ผลตอบแทนมาใช้เลยทันที หรือว่าสามารถลงทุนระยะยาวได้ประมาณ 3-5 ปี และค่อยๆ ถอนมาใช้จ่ายทีละนิด เพราะถ้าสามารถลงทุนระยะยาวได้อยู่ ยังไม่ได้รีบใช้เงินทันที Jitta Wealth ก็เหมาะสม 

โดยนโยบายที่เราแนะนำคงเป็น Global ETF แผนสมดุล หรือแผนเติบโต และค่อยๆ ลงทุนทีละก้อนแบบ DCA ค่อยๆ สะสมสินทรัพย์ในพอร์ต

Global ETF ของ Jitta Wealth มีปันผลไหม? 

ต้องเล่าที่ภาพใหญ่ก่อนว่า สำหรับพอร์ตลงทุน Global ETF จริงๆ สินทรัพย์ที่เราไปลงทุนหุ้นหรือพันธบัตร จะมีปันผลหรือดอกเบี้ยอยู่แล้ว แต่เวลาหุ้นหรือพันธบัตรเหล่านี้จ่ายปันผลหรือดอกเบี้ยมา มันจะไปอยู่ในกอง ETF นั้นๆ แล้วเราเอาปันผลและดอกเบี้ยเหล่านั้นไปลงทุนต่อเลย เพราะ Jitta Wealth ต้องการผลตอบแทนระยะยาวเป็นหลัก และยิ่งเงินทบต้นมากเท่าไหร่ เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี 

เกิดอะไรขึ้นกับการลงทุน Thematic ที่ผ่านมา? 

การลงทุนใน Thematic DIY และ Thematic Optimize เหมาะที่จะเป็นพอร์ตเสริม หรือพอร์ต Satellite ที่เราพูดไปบ่อยๆ เป็นพอร์ตที่มุ่งเน้นลงทุนในเมกะเทรนด์แห่งอนาคต โดย Thematic DIY จะเป็นแผนลงทุนที่นักลงทุนสามารถเลือกธีมลงทุนได้ด้วยตัวเองส่วน Thematic Optimize จะมี AI ช่วยเลือกธีมลงทุนให้

ซึ่งการลงทุนในธีมเมกะเทรนด์ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และมีความผันผวนอยู่แล้ว และพอร์ต Satellite ยิ่งเป็นพอร์ตที่คุณต้องมีวินัยในการ DCA 

ในช่วงปี 2563 ปีแรกๆ ที่ Jitta Wealth เปิดตัวนโยบาย Thematic DIY เป็นช่วงเดียวกับที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นจากนโยบายทางการเงินของ Fed และเมื่อมาเจอวิกฤติ Covid-19 ก็เป็นช่วงที่ธีมเมกะเทรนด์จำนวนมากปรับตัวขึ้นแรง 

หลังจากนั้นก็เริ่มปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ปี 2565 ด้วยมาตรการดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กระทบบริษัทเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ ซึ่งไม่ใช่แค่กับนักลงทุน Jitta Wealth แต่การลงทุนธีมเมกะเทรนด์ที่อื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเรื่องนี้เช่นเดียวกัน 

ถ้าคุณลงทุนในธีมเมกะเทรนด์ในช่วง 2563-2564 ช่วงที่ธีมเหล่านั้นพุ่งขึ้นแรง ปีต่อๆ มาธีมเมกะเทรนด์เหล่านี้ก็ปรับลดลงไปตามทิศทางของตลาด

แต่จากที่เราไปดูมา พอร์ตลงทุนของคนที่ DCA ก็จะค่อยๆ ฟื้นกลับมาได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้ DCA เลย เพราะเหมือนได้เฉลี่ยต้นทุนในตอนที่หุ้นตกลง 

อ่านคำแนะนำอื่นๆ ได้ใน 4 วิธีจัดพอร์ตลงทุนธีมเมกะเทรนด์ ETF ทำแล้วดี ทำตามได้ 

AI ที่ Jitta Wealth ใช้ มั่นใจได้แค่ไหน? 

AI ที่ Jitta Wealth ใช้ มีหลายส่วน ถ้าอันที่อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ AI ของ Global ETF คือการที่เราเอาทรัพย์สินมาจัดสัดส่วนด้วยทฤษฎีรางวัลโนเบลที่เรียกว่า Modern Portfolio ซึ่งเป็นทฤษฎีในการจัดสัดส่วนสินทรัพย์ให้ได้ผลตอบแทนดี ภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด และเราไม่ได้เลือกหุ้นรายตัว แต่ใช้การคัดเลือก ETF ซึ่ง ETF ก็มีการกระจายความเสี่ยงอยู่แล้ว โดยเราเองก็มีขั้นตอนในการคัดเลือก ETF และรีวิวอยู่ทุกๆ ปี 

ในส่วนของ AI ของ Thematic Optimize ก็จะเป็นการเลือก ETF ธีมเมกะเทรนด์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การเลือกหุ้นรายตัว ซึ่งก็มีรายละเอียดการคัดเลือกธีมในการลงทุนแตกต่างออกไป 

ส่วน AI ของ Jitta Ranking ก็จะเป็นตัวที่อธิบายได้ยากสุด เพราะว่าเป็นการคัดเลือกหุ้นรายตัวเลย 

เพราะฉะนั้นคำถามที่ว่า มีโอกาสไหมที่ AI จะเลือกผิด สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะลงทุนเก่งแค่ ถ้ามันเป็นการเลือกสินทรัพย์รายตัว คุณมีความเสี่ยงที่จะเลือกผิดได้อยู่แล้ว ซึ่ง AI ก็มาแทนที่การวิเคราะห์ด้วยหลักการลงทุนผ่านงบการเงิน มีการกระจายความเสี่ยง และตัดส่วนของอารมณ์ในด้านการลงทุนออกไป

นักลงทุนเวลาที่ลงทุนเราจะมองทุกอย่างเป็นความน่าจะเป็น ทรัพย์สินแต่ละอย่าง หรือหุ้นแต่ละตัว เราไม่สามารถตอบได้ว่าพรุ่งนี้หรือปีนี้ มันจะขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน แต่เรามองเห็นโอกาสเติบโตได้ ซึ่งอาจจะผิดพลาดก็ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักลงทุนเก่งๆ ทำ เมื่อมองเห็นถึงความน่าจะเป็นเขาก็จะไม่ซื้อหุ้นแค่ตัวเดียว เพราะมีโอกาสผิดพลาดได้สูง แต่ถ้าเราซื้อหุ้น 10-20 ตัว แล้วเราคัดเลือกหุ้นดีๆ มาแล้วโอกาสที่จะผิดพลาดอาจจะมีบ้าง แต่พอร์ตโดยรวมมันจะเติบโตได้ในระยะยาว 

AI ของ Jitta Wealth ก็เช่นกัน AI วิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็นและกระจายความเสี่ยงมาให้ 

อีกเรื่องคือการลงทุนกับ Jitta Wealth อยากให้มองระยะยาว 5 ปีขึ้นไป ในระหว่างทางก็อาจจะมีช่วงที่ผันผวน ขึ้นๆ ลงๆ บ้างด้วยปัจจัยต่างๆ แต่ในระยะยาว 5-10 ปีก็ควรได้กำไร 


ถ้าใครฟังมาทั้งหมดแล้ว สนใจอยากเริ่มลงทุน มือใหม่ที่กำลังตัดสินใจอยู่อาจจะได้คำตอบแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เลย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-460-8888 หรือ Line:  @JittaWealth ในช่วงเวลาทำการได้เลย 


อ่านรีวิวพอร์ตลงทุน Jitta Wealth ของนักลงทุนอีกมากมายได้ที่ Facebook และ เว็บไซต์ของเรา


ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย Jitta Ranking Thematic Global ETF และ Jitta Money ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน