รีวิว Jitta Wealth ลงทุนช้า แต่มีวินัย ก็ไปถึงเป้าหมายการทางการเงินได้
คุณมโนปกรณ์ บุญญาบุษย์ ครีเอทีฟงานผลิตสื่อโฆษณา ที่เริ่มลงทุนช้าแต่เน้นวินัย
จริงอยู่ว่าโลกของการลงทุนระยะยาว หากเริ่มต้นตั้งแต่อายุยิ่งน้อยยิ่งได้เปรียบ แต่ก็ใช่ว่าคนที่เริ่มต้นลงทุนช้าจะเสียโอกาสและผิดพลาดในการลงทุนแต่อย่างใด
หากใช้วินัยและความตั้งใจก็เอาชนะเป้าหมายได้อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับพอร์ตลงทุนของคุณมโนปกรณ์ บุญญาบุษย์ ครีเอทีฟงานผลิตสื่อโฆษณา ที่เพิ่งก้าวข้ามสู่ถนนสายการลงทุนเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมานี่เอง แต่ก็อาศัยความตั้งใจและมีวินัย จนวันนี้พอร์ต Thematic Optimize ของคุณมโนปกรณ์ มีผลตอบแทนสูงถึง 37.25% (ณ วันที่ 2 เมษายน 2567)
ไม่เคยมีเงินเก็บ จนกลายเป็นคน ‘ลงทุน’
คุณมโนปกรณ์ ยอมรับว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีเงินเก็บหรือเงินลงทุนเลย แต่ได้เริ่มสนใจลงทุนจริงจังในช่วงโควิด ช่วงเวลาที่รูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทยต้องเปลี่ยนแปลงไป การเดินทางลดลง ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน เป็นจุดที่ทำให้เขาต้องตั้งคำถามกับตัวเอง
เมื่อแหล่งรายได้ที่มีอยู่จากงานหลักเริ่มลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ และเริ่มกังวลว่าหากวันนึงที่งานไม่มี การผลิตสื่อไม่เป็นที่นิยม หรือไม่จำเป็นอีกต่อไป เขาจะทำอย่างไร
นั่นคือจุดตั้งต้นที่เขาเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน หลังจากช่วงชีวิตที่ผ่านมามีแค่การทำงานเพื่อหาเงินและใช้เงินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของการเก็บเงินเพื่อลงทุนสร้างผลตอบแทน หรือแม้กระทั่งการออมเงินเพราะตั้งแต่เล็ก เขายอมรับว่าครอบครัวก็ไม่ได้สอนเรื่องการเก็บออมมาก่อน
จุดเริ่มต้นการลงทุน
ระหว่างที่โลกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ เขาไม่รอช้า เริ่มต้นเส้นทางการเงิน ตั้งต้นหาข้อมูลความรู้ด้านการลงทุนใส่ตัว ใช้เวลาว่างที่ไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้ เปิดหาฟังโค้ชด้านการเงินในช่องทางออนไลน์ต่างๆ และเริ่มต้นการลงทุนครั้งแรกในชีวิตเมื่ออายุ 40 ปี
โดยเริ่มต้นจากการลงทุนในกองทุนรวม SET50 ด้วยกลยุทธ์การถัวเฉลี่ยต้นทุนหรือ DCA ขณะเดียวกันก็ทดลองการลงทุนในทองคำด้วยควบคู่กันไป เพราะต้องการที่จะมีเงินก้อนให้ได้ในเร็ววัน
จุดเริ่มต้นกับ Jitta Wealth
“เดิมทีก็ไม่ได้คิดหรือสนใจเรื่องการลงทุน เมื่อหาเงินได้ก็ใช้จ่ายไปเรื่อยๆ ไม่เคยลงทุนหรือเก็บออม ที่บ้านก็ไม่ได้สอนเรื่องการเก็บออม จนเมื่อเกิดวิกฤติโควิด ทำให้งานที่มีเริ่มลดน้อยลง จึงตระหนักว่าเราต้องมีความรู้เรื่องการบริหารจัดการเงินแล้ว เราก็หาความรู้ ฟังกูรูต่างๆ มาเรื่อยๆ จนมาเจอกูรูท่านหนึ่งที่รีวิวพอร์ตการลงทุนของตัวเองที่ได้ลงทุนกับ Jitta Wealth แล้วสนใจ”
ในฐานะคนทำครีเอทีฟ คุณมโนปกรณ์รู้สึกสะดุดกับชื่อของ Jitta และสีของแบรนด์ที่เปลี่ยนความคิดเขาว่า ในโลกของการลงทุนไม่ได้มีแค่สีเขียวหรือสีแดงเท่านั้น หลังจากนั้นจึงเริ่มไปศึกษาหลักการและแนวคิดในการลงทุนแบบ Jitta Wealth ตามมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อซึมซับหลักการได้พอสมควร พร้อมกับเป้าหมายที่ต้องการเก็บเงินระยะยาวไว้เพื่อเป็นเงินทุนในอนาคต ยามที่ต้องเข้าสู่วัยเกษียณ คุณมโนปกรณ์จึงตัดสินใจเริ่มต้นการลงทุนกับ Jitta Wealth ด้วยการเปิดพอร์ตแรกคือ Thematic Optimize เพราะรู้ว่า การเก็บออมของตัวเองเริ่มต้นค่อนข้างช้ากว่าคนอื่น จึงต้องการการลงทุนในสินทรัพย์แห่งอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะมีโอกาสเห็นผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันการที่เป็นมือใหม่ในโลกการลงทุน เขายอมรับว่า ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงินมากพอที่จะไปเลือกหุ้นหรือลงทุนด้วยเอง ดังนั้นการปล่อยให้ Jitta Wealth ที่มีองค์ความรู้มากกว่า และใช้ AI มาช่วยบริหารพอร์ตให้ ก็น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า
เปิดพอร์ต Thematic Optimize
“เรามีเป้าหมายที่จะเก็บเงินก้อนนี้ไว้สำหรับอนาคต หลังเกษียณ เมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง จึงมองหาโอกาสการลงทุนที่เป็นเรื่องของอนาคต จึงเริ่มต้นลงทุนกับ Jitta Wealth ด้วยการเปิดพอร์ต Thematic Optimize เป็นพอร์ตแรกเพราะเรารู้สึกว่าเราเริ่มช้าแล้ว เราต้องรับความเสี่ยงบ้างแล้ว และเราเชื่อว่า AI บริหารได้ดีกว่าเราแน่ เชื่อในองค์ความรู้ของ Jitta Wealth และเรายอมรับว่าเราไม่ได้มีความรู้ด้านการเงินมากพอที่จะไปเลือกหุ้นเอง”
ผ่านมาถึงวันนี้ เขาเริ่มต้นการลงทุนมากว่า 4 ปีแล้ว และยังมุ่งมั่นในเส้นทางการลงทุนนี้อยู่ ในแต่ละวันเขาจะเข้าไปเปิดดูพอร์ตลงทุนอยู่บ่อยครั้ง แม้จะเป็นจังหวะที่หุ้นปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นตกใจ จนต้องมาทำอะไรกับพอร์ตให้วุ่นวาย
“เพราะตระหนักดีว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เมื่อมีขึ้นก็มีลง เมื่อมีลงก็ต้องมีวันขึ้นได้เช่นกัน”
คุณมโนปกรณ์ยังมีวินัยในการลงทุนและยังคงเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจาก Thematic Optimize แล้ว เมื่อกลางปีที่ผ่านมา คุณมโนปกรณ์ก็ได้ตัดสินใจลงทุนใน Global ETF เพิ่มเติมอีกพอร์ต เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนให้กับตัวเองด้วย โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ต้องการเก็บเงินก้อนไว้ระยะยาว และมั่นใจว่าการ DCA ยังช่วยสร้างวินัยให้กับการลงทุนได้เป็นอย่างดี
“เรา DCA เพราะต้องการเก็บเงิน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม และเคยถามคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealthใน Live ว่าเราควรเพิ่มทุนตอนไหน ตอนหุ้นขึ้นหรือหุ้นลง ซึ่งก็ได้เรียนรู้ว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนั้นการ DCA ไปเลยน่าจะจบ”