Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

ลงทุน ‘หุ้นจีน’ กองไหนดี? สรุป-เปรียบเทียบทุกทางเลือก ‘หุ้นจีน’ ของ Jitta Wealth


Jitta Ranking Jitta Wealth Thematic

เนื้อหาสำคัญ

คุณยังลังเลอยู่หรือไม่ อยากลงทุน ‘หุ้นจีน’ กับ Jitta Wealth มีให้เลือกมากมาย แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะเลือกลงทุนแบบไหนดี

จะเป็น ‘หุ้นดีราคาถูก’ แบบ Jitta Ranking จีน หรือจะจัดพอร์ต 1-5 ธีมธุรกิจอนาคตไกลแบบ Thematic

ก่อนที่คุณจะเลือกพอร์ตลงทุน สิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน คือ ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ ซึ่งทั้ง Jitta Ranking และ Thematic มีโอกาสขาดทุนสูงสุดถึง 20% เพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง

เมื่อมีความเสี่ยงสูง ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน ประมาณ 10-20% ต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในช่วงเวลานั้นๆ

Jitta Ranking จะเป็นพอร์ตลงทุนหุ้นรายตัว 5-20 บริษัท ขณะที่ Thematic จะลงทุนใน ETF (Exchange Traded Fund) เป็นกองทุนประเภท Passive Fund ลงทุนหุ้นตามนโยบายหรือธีมการลงทุนที่กำหนดไว้ ดังนั้น ETF กองหนึ่งสามารถลงทุนหุ้นบริษัทได้ตั้งแต่หลักสิบ จนไปถึงหลักร้อยหลักพันบริษัท เป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว ใน ETF เพียงกองเดียว

หากเป็น ETF ตลาดหุ้น ก็เหมือนกับได้ลงทุนทั้งตลาดหุ้นอนาคตไกล หากเป็น ETF ธีมธุรกิจ ก็เหมือนกับได้ลงทุนหุ้นทั้งธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต

หากคุณต้องการเป็นเจ้าของกิจการที่ดี และซื้อในราคาที่เหมาะสม เน้นลงทุนระยะยาว คุณเหมาะกับกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking 

หากคุณต้องการลงทุนใน ETF ธีมธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอีก 10-20 ปี เป็นเมกะเทรนด์ที่อยู่กับคนทั้งโลก คุณเหมาะกับกองทุนส่วนบุคคล Thematic 

เมื่อคุณรู้ว่า ความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นแบบไหน มาส่อง ‘หุ้นจีน’ ที่มีให้คุณเลือกลงทุนจากทั้ง Jitta Ranking และ Thematic ว่ามี ‘ความเหมือน’ หรือ ‘ความต่าง’ กันอย่างไร คุณสามารถเปรียบเทียบกันและพิจารณาเลือกสไตล์การลงทุนที่ตรงจริตของคุณได้เลย

‘หุ้นจีน’ ใน Jitta Ranking 

จากบทความ 8 เหตุผลที่ ‘Jitta Ranking จีน’ จัดพอร์ตเติบโตได้ไกลกว่า เราได้ไฮไลต์จุดเด่นของ ‘Jitta Ranking จีน’ คือ ลงทุนแบบ VI (Value Investing) ตามสไตล์ Warren Buffett นักลงทุนระดับโลก ที่มีแนวคิด คือ ‘To buy a wonderful company at a fair price ลงทุนกิจการที่ดี ในราคาที่เหมาะสม’

แนวคิดนี้เอง จึงเป็นที่มาของแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta โดยใช้เทคโนโลยี AI มาส่องงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี และพัฒนาอัลกอริทึมมาวิเคราะห์งบการเงินจากหลายพันหลายหมื่นบริษัท ว่าจะเข้าเกณฑ์ ‘หุ้นดีราคาถูก’ หรือไม่ โดยดูจากความแข็งแกร่งของรายได้ กำไร งบกระแสเงินสดในแต่ละไตรมาส และนำมาจัดอันดับเรียงตามคุณภาพของกิจการได้เลย

ข้อดีของการพัฒนา AI และอัลกอริทึม คือ คุณไม่ต้องใช้เวลามากมายในอ่านงบการเงินเอง คุณสามารถดูการวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวได้จากแพลตฟอร์มของ Jitta 

สำหรับตลาดหุ้นจีน แพลตฟอร์ม Jitta วิเคราะห์จากกว่า 4,000 หุ้นในกลุ่ม A-share จากตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (SSE) และเซินเจิ้น (SZSE) มาจัดเป็น 100 อันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ สำหรับกองทุนส่วนบุคคล ‘Jitta Ranking จีน’ 

ความน่าสนใจของหุ้นจีน A-share คือ เป็นบริษัทจีนแผ่นดินใหญ่โดยตรง และมีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นจีน การลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติไม่ง่ายนัก

โอกาสของหุ้นจีน A-share คือ การเติบโตของบริษัทเหล่านี้ จะเป็นไปตามศักยภาพของเศรษฐกิจจีนและนโยบายของรัฐบาล 

จากบทความ ‘จีน’ มหาอำนาจรายใหม่ เตรียมชิงชัยเป็นเบอร์ 1 ของโลก เราได้พูดถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 14 (2564-2568) ของจีน ที่กำลังเน้นเรื่องยุทธศาสตร์วงจรคู่ (Dual Circulation) เพิ่มการหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเติบโตจากการส่งออกไปต่างประเทศ

การกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในจีน มีได้ 2 ทาง คือ การเพิ่มอำนาจซื้อให้กับประชาชนและหนุนการลงทุนใหม่จากเอกชน แน่นอนว่า รัฐบาลจีนพร้อมสนับสนุนทั้ง 2 ทาง

เมื่อประชาชนมีรายได้มากขึ้น กลุ่มคนยากจนมีสัดส่วนลดลง กลุ่มชนชั้นกลางขยายตัว การบริโภคและการจับจ่ายก็จะเติบโตตามๆ กัน

เมื่อประชาชนมีกำลังซื้อสูงขึ้น บริษัทต่างๆ ก็จะทำสินค้าออกมาขายมากขึ้น เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เกิดการลงทุนใหม่ ส่งผลให้รายได้บริษัทจีนมีช่องว่างอีกมาก สำหรับการเติบโตในอนาคต

คุณลองจินตนาการว่า ประชากรจีนกว่า 1,400 ล้านคน มีบริษัทจีนนับพันนับหมื่นแห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมจะขยายตัวไปกับยุทธศาสตร์ Dual Circulation ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพียงแค่ขยายธุรกิจไปอีก 1 มณฑล ก็เหมือนกับเปิดตลาดใหม่ ได้ผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านคน 

เชื่อได้ว่า รัฐบาลจีนจะผลักดันยุทธศาสตร์นี้ต่อในแผนฉบับต่อๆ ไป เมื่อเห็นผลสัมฤทธิ์ที่ดี และตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโตตามเป้า 5% ต่อปีที่วางไว้

รู้อย่างนี้ คุณมั่นใจหรือยังว่า หุ้นกลุ่ม A-share กำลังทะยานไปพร้อมกับการบริโภคในจีน

‘หุ้นจีน’ ใน Jitta Ranking มีอะไรบ้าง

จากบทความ ‘Jitta Ranking จีน’ เลือกหุ้น VI ให้คุณอย่างไร พอร์ตจึงไปได้ไกลกว่า หุ้น 50 อันดับแรกที่แพลตฟอร์ม Jitta กรองมาให้นั้น 75.5% เกาะอยู่ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ Industrials (อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยนต์ เครื่องจักร และคมนาคม) Materials (เคมี วัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ เหมือง และป่าไม้) Healthcare (โรงพยาบาล ยา วัคซีน และเครื่องมือทางการแพทย์) และ Consumer Discretionary (สินค้าฟุ่มเฟือย รถยนต์ แบรนด์เนม)

จะเห็นได้ว่า เป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ ขณะเดียวกันหลายๆ บริษัทก็มีตลาดต่างประเทศรองรับด้วย เช่น Blue Sail Medical Sany Heavy Industry และ Sailun Group

อีกจุดเด่น คือ หุ้น 50 อันดับแรกของ Jitta Ranking จีน ไม่ใช่หุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ หรือหุ้นพิมพ์นิยมที่ใครๆ ก็รู้จัก เพราะแพลตฟอร์ม Jitta วิเคราะห์จากความแข็งแกร่งของงบการเงิน เฟ้นหาหุ้น VI ที่มูลค่าเหมาะสม (Undervalued และ Fair-valued)

ดังนั้นหากคุณเลือกลงทุน Jitta Ranking จีน ก็ไม่ต้องกังวลเลยว่า หุ้นในพอร์ต 5-20 ตัวจะไปซ้ำกับ ETF อื่นๆ หรือไม่…เพราะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยเหมือนใคร 

หากมั่นใจแล้วว่า Jitta Ranking จีน คือ แนวทางที่ใช่สำหรับคุณ ลองเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://jittawealth.com/jitta-ranking/china 

Jitta Wealth

‘หุ้นจีน’ ใน Thematic 

Jitta Wealth ได้รับคำถามจากนักลงทุนว่า จัดพอร์ตธีมที่เกี่ยวข้องกับ ‘หุ้นจีน’ มีความซ้ำซ้อนกันหรือไม่…ตอบได้เลยว่า มีหุ้นหลายตัวซ้ำกัน เนื่องจากเป็นหุ้นบริษัทระดับโลก มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ ซึ่ง ETF จะเลือกลงทุนหุ้นพิมพ์นิยมที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนมาก่อน

ลองมาทำความเข้าใจกับคอนเซ็ปต์ของ 3 ธีม ‘หุ้นจีน’ ที่มีให้คุณจัดพอร์ต Thematic ในปัจจุบัน ว่ามีนโยบายการลงทุนอย่างไร

  • ธีมตลาดหุ้นจีน (China) ลงทุน iShares MSCI China ETF (MCHI) เลือกหุ้นจีนจากกลุ่ม A-share B-share H-share Red-chip P-chip และ US-ADR มีทั้งหุ้นขนาดใหญ่และกลาง
Jitta Wealth
  • ธีมเทคโนโลยีจีน (China Tech) ลงทุน Invesco China Technology ETF (CQQQ) เลือกหุ้นเทคโนโลยีสัญชาติจีนจากกลุ่ม US-ADR A-share B-share และ H-share
Jitta Wealth
  • ธีมพลังงานสะอาดจีน (China Clean Energy) ลงทุน KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF (KGRN) เลือกหุ้นพลังงานสะอาดจีนจากกลุ่ม A-share H-share และ US-ADR รวมทั้งบริษัทในตลาดหุ้นฮ่องกง
Jitta Wealth

จะเห็นได้ว่า ในกลุ่มหุ้น 10 อันดับแรกของแต่ละธีม ธีมตลาดหุ้นจีนและเทคโนโลยีจีนมีการลงทุนหุ้นที่เหมือนกัน เช่น Tencent Meituan และ Baidu ทั้ง 2 ธีมมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) 0.924 สะท้อนว่า ราคา ETF และผลตอบแทนมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกันมาก เพราะ ‘หุ้นจีน’ หลายตัวที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ Information Technology และ Communication Services รวมกันมีสัดส่วน 88% ของธีมเทคโนโลยีจีน ธีมตลาดหุ้นจีนก็ลงทุนด้วยเหมือนกัน

หากเทียบระหว่างธีมตลาดหุ้นจีนและพลังงานสะอาดจีน หุ้นในกลุ่ม 10 อันดับแรกที่เหมือนกันคือ Nio ทั้ง 2 ธีมมีค่า Correlation อยู่ที่ 0.673 สะท้อนว่า ราคา ETF และผลตอบแทนมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกันปานกลาง

เหตุผลที่ทั้ง 3 ธีมมีหุ้นเหมือนกัน คือ ลงทุนหุ้นในกลุ่ม A-share (บริษัทจีน ใช้สกุลเงินหยวน) H-share (บริษัทจีน ซื้อขายและใช้สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง) และ US-ADR (บริษัทจีน ซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ) ดังนั้นโอกาสที่ ETF จะลงทุนหุ้นเหมือนกันมีสูงมาก

หากคุณลองพิจารณาจำนวน 600 หุ้นในธีมตลาดหุ้นจีนจะพบว่า นอกเหนือจาก 10 อันดับแรก ยังมีหุ้นตัวอื่นๆ ที่เหมือนกับธีมเทคโนโลยีจีนและพลังงานสะอาดจีน เพราะธีมตลาดหุ้นจีนมีนโยบายการลงทุนที่กว้างกว่า 

โอกาสลงทุนใน ‘หุ้นจีน’ ใน Thematic มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นธีมตลาดหุ้นจีน เทคโนโลยีจีน และพลังงานสะอาดจีน ล้วนแล้วแต่ได้ปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น ยิ่งแผนฉบับที่ 14 ล้วนหนุนให้แต่ละธุรกิจลงทุนและพัฒนาสินค้าและบริการของตน เพื่อตอบสนองต่อการบริโภคในประเทศที่จะขยายตัวอีกมากในอนาคต

แน่นอนว่า ประเด็นที่นักลงทุนยังกังวล คือ ทางการจีนยังพุ่งเป้าตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยีจีน โดยมี 2 ประเด็น คือ อำนาจเหนือตลาดและครอบครองข้อมูลผู้บริโภค นับตั้งแต่การเบรก IPO (Initial Public Offering) ของ Ant Group เมื่อปลายปี 2563 ซึ่งบริษัทลูกฟินเทคของ Alibaba ขณะที่ Alibaba เองเคยถูกปรับ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา [1]

ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยลบและแรงกดดัน สำหรับหุ้นเทคโนโลยีจีน ที่กำลังโดนเพ่งเล็งจากทางการจีน ส่งผลให้ราคาและผลตอบแทน ETF ธีมตลาดหุ้นจีนและเทคโนโลยีจีน ยังไม่สดใสในช่วงครึ่งปีแรก 

แต่ในขณะเดียวกัน สำนักงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) กำลังผ่านร่างกฎหมายใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายความปลอดภัยข้อมูล และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2564 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ทางการจีนไม่นิ่งนอนใจ และพยายามใช้ตัวบทกฎหมาย มาเพื่อคุ้มครองประชาชนในฐานะผู้บริโภคเป็นสำคัญ [2]

ถ้าบริษัทเทคโนโลยีจีนเหล่านี้ปรับโครงสร้างองค์กรและการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ๆ พวกเขาก็ยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต เพราะสุดท้ายแล้ว ทางการจีนไม่ได้จ้องจะทำลายธุรกิจที่เป็นอู่ข้าวอู้น้ำของตน ที่จะทำให้จีนมีอำนาจต่อกรกับประเทศมหาอำนาจได้ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง 

นอกจากนี้ ทางการจีนอยากจะหนุนให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหม่ เข้าเทรดใน SSE หรือ SZSE แทนการไปจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ Dual Circulation และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทัดเทียมประเทศมหาอำนาจในอนาคต

สำหรับธีมพลังงานสะอาดจีน จากบทความ ‘พลังงานสะอาด’ ดัน ‘จีน’ เป็นผู้นำโลก รัฐบาลจีนมีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า จีนจะต้องมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ก่อนปี 2603 รวมทั้งเริ่มลดการปล่อยมลพิษภายในปี 2573

ประกอบกับจีนเผชิญกับปัญหามลพิษในประเทศมาอย่างยาวนาน ทำให้โรดแมปสนับสนุนพลังงานสะอาดชัดเจนมากขึ้น ทำให้จีนเป็นประเทศที่มีสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสูงที่สุดในโลก มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) และลม (Wind) คิดเป็นสัดส่วน 49.22% จากกำลังผลิตรวม 173.3 กิกะวัตต์ทั่วโลก ปี 2563

ยิ่งไปกว่านั้น จีนยังเป็นตลาดผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสัดส่วน 47.8% จาก ยอดขายสะสม EV ทั่วโลก 11.3 ล้านคัน 

เรียกได้ว่า จีนเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างสมบูรณ์ ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลที่ให้ทั้งสิทธิประโยชน์ลงทุนและเงินช่วยเหลือประชาชน 

หากในอนาคต รัฐบาลไม่ได้ต่ออายุมาตรการสนับสนุน ธุรกิจพลังงานสะอาดเหล่านี้ก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ เพราะบริษัทและผู้บริโภคจีนรู้แล้วว่า ประโยชน์ของพลังงานสะอาดดีอย่างไร มีประสบการณ์การใช้สินค้าแล้ว จึงมีโอกาสที่จะใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่อง จากตลาดที่เติบโตแล้วและสินค้าด้านพลังงานสะอาดมีต้นทุนถูกลง

นี่คือ โอกาสลงทุนใน ‘หุ้นจีน’ ใน Thematic ที่ Jitta Wealth สรุปและเปรียบเทียบมาให้ หากคุณพิจารณาแล้วว่า พอร์ตลงทุน Thematic มีความน่าสนใจ ลองเข้ามาศึกษาวิธีการจัดพอร์ตผสมกับธีมอื่นๆ ได้ที่ https://jittawealth.com/thematic 

หากคุณต้องการกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนในพอร์ต ควรลงทุนตั้งแต่ 2-5 ธีม อาจจะเลือก ‘หุ้นจีน’ เป็นธีมเทคโนโลยีจีนกับพลังงานสะอาดจีน ที่มีค่า Correlation อยู่ที่ 0.674 แล้วผสมกับธีมอื่นๆ ที่มีราคาและผลตอบแทนสัมพันธ์กันไม่มาก อย่างธีมกัญชา (Cannabis) ธีมจีโนมิกส์ (Genomics) หรือธีมเทคโนโลยีท่องเที่ยว (Travel Tech) ได้ 

คุณสามารถดูค่า Correlation ของ Thematic เพื่อนำมาจัดพอร์ตลงทุนได้ที่นี่

Jitta Wealth

หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนที่ Line @JittaWealth


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


อ้างอิง

  1. ส่องอนาคต ‘หุ้นเทคฯ จีน’ ในวันที่ทางการตรวจสอบเข้มข้น กดดันราคาร่วงหนัก แต่อาจเป็นโอกาสของผู้ลงทุนระยะยาว https://thestandard.co/chinese-technology-stocks/ 
  2. ปักกิ่งคุมเข้มบ.จีนจดทะเบียนหุ้นในต่างแดน https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948249