กำไรจริง เหมือนโคลนนิง Ben Graham!
คุณเคยใฝ่ฝันที่จะเดินทางตามเส้นทางการลงทุนของนักลงทุนระดับโลกหรือไม่?
แนวทางการลงทุนที่มาจากประสบการณ์ และความรู้ความเข้าใจความเสี่ยง รวมไปถึงระยะเวลา และวินัยในการลงทุนจนก้าวสู่การเป็นนักลงทุนระดับโลก
หากคุณเอาแผนการลงทุนของพวกเขามากางแล้วลองเดินตามดู คงได้ผลลัพธ์ที่ดีกับพอร์ตการลงทุนของคุณไม่น้อย
บทความนี้ Jitta Wealth จะพาคุณไปทำความเข้าใจหนึ่งในแนวทางการลงทุนของนักลงทุนระดับโลกอย่าง Benjamin Graham และทฤษฎีการลงทุนที่การันตีโดยรางวัลโนเบล พร้อมแนะนำวิธีการเดินตามแผนนั้นแบบที่คุณสามารถทำตามได้
แนวทางการลงทุนของ Benjamin Graham
Benjamin Graham เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘บิดาแห่งการลงทุนเน้นคุณค่า’ ซึ่งเขาได้ให้บทเรียนสำคัญแก่นักลงทุนไว้ในหนังสือ The Intelligent Investor ที่กลายมาเป็นสุดยอดแหล่งเรียนรู้ในปัจจุบัน
หนึ่งบทเรียนที่สำคัญ น่าสนใจ และเดินตามได้ไม่ยากเลย คือ กลยุทธ์การลงทุนว่าคุณจะเป็น นักลงทุนเชิงรับ หรือ นักลงทุนเชิงรุก ซึ่งนักลงทุนแต่ละแบบจะมีกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกันออกไป
โดยนักลงทุนเชิงรุก จะต้องใช้ความพยายามและความทุ่มเทสูง ส่วนนักลงทุนเชิงรับคือใช้เวลาน้อยและความทุ่มเทต่ำแต่ต้องมีวินัยมาก อย่างไรก็ตาม เขาเน้นย้ำว่า กลยุทธ์ของนักลงทุนเชิงรับ เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้
Benjamin Graham แนะนำว่าการลงทุนแบบนักลงทุนเชิงรับ ควรมีสัดส่วนการลงทุนดังนี้
- หุ้นสามัญ 50% + ตราสารหนี้ 50%
- แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มความเสี่ยง ก็ปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เช่น ในหนังสือยกตัวอย่างไว้ที่ หุ้นสามัญ 75% + ตราสารหนี้ 25%
ซึ่งสัดส่วนเหล่านี้ก็ใกล้เคียงกับนโยบายการลงทุน Global ETF ของ Jitta Wealth โดยเปรียบเทียบได้ดังนี้
- อัตราส่วนที่เหมาะสมในการลงทุนคือ ลงทุนในหุ้นสามัญ 50% ตราสารหนี้ 50% ซึ่งตรงกับ Global ETF แผนสมดุล
- หากใครรับความเสี่ยงได้มากกว่านั้น Graham ก็แนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็นลงทุนในหุ้นสามัญ 75% ตราสารหนี้ 25% ใกล้เคียงกับ Global ETF แผนเติบโตที่ลงทุนในหุ้น 80% ตราสารหนี้ 20%
- อย่างไรก็ตาม Jitta Wealth ก็ได้เพิ่มแผนลงทุนสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำอีกด้วย นั่นคือ Global ETF แผนพอเพียง ที่ลงทุนในหุ้น 20% ตราสารหนี้ 80%
ซึ่งตรงกับความเห็นของ Graham ที่ว่า การจัดสัดส่วนการลงทุนสำหรับนักลงทุนเชิงรับขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
วินัยในการลงทุนก็เป็นสิ่งสำคัญ
Benjamin Graham มีคำแนะนำสำหรับใครที่จะนำกลยุทธ์นักลงทุนเชิงรับไปใช้ โดยเน้นย้ำว่า
เมื่อใดก็ตามที่สัดส่วนของสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งทำผลตอบแทนได้สูงจนทำให้สัดส่วนของการลงทุนเปลี่ยนไป นักลงทุนต้องมีวินัยในการปรับพอร์ตลงทุน ซึ่งอาจจะเป็นการขายสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนสูงกว่าแผนลงทุนเดิมออกไป และนำเงินที่ได้มาลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนต่ำกว่าแผนลงทุนเดิม เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนของคุณนั้นเหมือนที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ซึ่ง Jitta Wealth ได้นำวินัยมาใส่ไว้ใน Global ETF ที่จะปรับพอร์ตให้คุณอัตโนมัติหากสัดส่วนการลงทุนระหว่างหุ้นและตราสารหนี้เปลี่ยนไปเกิน 5% หรือ ปรับให้อัตโนมัติ ทุก 1 ปี หากสัดส่วนเปลี่ยนไปไม่ถึง 5% ให้พอร์ตของคุณกลับมามีสัดส่วนตามแผนที่วางไว้
Modern Portfolio Theory ทฤษฎีช่วยสร้าง Global ETF
นอกจากแนวทางการลงทุนของ Benjamin Graham แล้ว Global ETF ยังใช้หลักการจากทฤษฎี Modern Portfolio Theory ที่พัฒนาโดย Harry Markowitz และได้รับรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งทฤษฎีนี้นี่เองที่เป็นหัวใจขอนโยบาย Global ETF
Modern Portfolio Theory ใช้แนวคิดว่า เราสามารถลดความเสี่ยงของพอร์ตด้วยการกระจายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท มีทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาที่แตกต่างกัน เพราะถ้ามูลค่าของสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งในพอร์ตของคุณลดลง สินทรัพย์อื่นๆ อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้น สามารถชดเชยความสูญเสีย และช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทนของคุณได้ และหากคุณต้องการรักษาระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ ทฤษฎีนี้ก็ได้แนะนำให้คุณปรับสมดุลพอร์ตอยู่เสมอ เพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่คุณต้องการ
โดย Global ETF ได้นำทฤษฎี Modern Portfolio Theory มาใช้กับพอร์ตของนักลงทุนด้วยการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลาย ผ่าน ETF ชั้นนำ ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีทั่วโลก
สูตรลงทุนที่พร้อมให้คุณทำตามได้ง่ายๆ ด้วย Global ETF
กลยุทธ์การจัดสัดส่วนและมีวินัยการลงทุน จาก Benjamin Graham และการกระจายความเสี่ยงด้วยทฤษฎี Modern Portfolio Theory ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนในกับนักลงทุนได้จริง
ซึ่ง Jitta Wealth ได้นำมาไว้ในนโยบาย Global ETF แล้ว ทั้งแผนการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ ยังปรับพอร์ตให้คุณอัตโนมัติ สร้างวินัยการลงทุนโดยไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้องอีกด้วย
หากคุณสนใจลงทุนตามสูตรนักลงทุนระดับโลกแบบนี้ สามารถเริ่มลงทุน Global ETF หรือศึกษาเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ประสบการณ์จริงจากนักลงทุน
คุณพัฒน์ ชีวพัฒน์ Software Engineer จาก Jitta Wealth ที่ลงทุนตั้งแต่นโยบาย Global ETF ออกมาช่วงแรกๆ และในระยะเวลากว่า 3 ปี คุณพัฒน์ได้รับผลตอบแทนจากนโยบายนี้ถึง +44.05% แล้วเรียบร้อย
“เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อาจจะต้องมีวินัยในการลงทุน และไม่ลงทุนในรูปแบบเดียว การกระจายความเสี่ยงสำคัญมาก”
อ่านเรื่องราวของคุณพัฒน์กับ Global ETF ผลตอบแทน +44% ได้ที่นี่
หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมและการบริหารจัดการพอร์ต Jitta Wealth สามารถติดต่อสอบถามในกลุ่ม Jitta Wealth Official หรือทาง Line ID: @JittaWealth ได้ในวันและเวลาทำการ
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน