Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

วิธีเริ่มต้นลงทุนต่างประเทศ แบบง่าย! ชนะได้ทุกวิกฤติ


Global ETF

การลงทุนไม่จำกัดแค่ภายในประเทศอีกต่อไป คนจำนวนมากเริ่มมองหาช่องทางในการสร้างผลตอบแทนจากตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน หรือกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ 

การลงทุนต่างประเทศสามารถช่วยกระจายความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้เข้าถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกที่อาจไม่มีอยู่ในตลาดหุ้นไทยอีกด้วย

แต่ก่อนจะลงทุน สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่า ตอนนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ และคุณจะคว้าโอกาสลงทุนต่างประเทศได้อย่างไร มีวิธีไหนบ้างที่จะเหมาะสมกับความเสี่ยงของแต่ละคน

สถานการณ์ตอนนี้ น่าลงทุนต่างประเทศหรือไม่?

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความตึงเครียดทางการค้า ประเด็น Trump Tariffs ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมถึงนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม บนความผันผวนย่อมหมายถึงโอกาสในการเติบโตเช่นเดียวกัน

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า โอกาสสำหรับนักลงทุนไทย

นับตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาท ซึ่งเกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

ผลลัพธ์คือเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้มากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง

อีกทั้งราคาหุ้นของหลายประเทศยังอยู่ในช่วงปรับฐาน นักลงทุนจึงสามารถเข้าซื้อหุ้นคุณภาพในราคาถูก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังน่าสนใจอยู่

แม้จะเผชิญความผันผวน แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแสดงสัญญาณพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่อย่าง AI รวมถึงพลังงานสะอาด ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

อยากลงทุนต่างประเทศ สามารถเข้าไปฟังคำแนะนำของ คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth ได้ที่นี่ หรืออ่านสรุปด้านล่างได้เลย

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุนต่างประเทศ

ก่อนจะกระโดดเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ นักลงทุนควรพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้

1. ศึกษาภาพรวมประเทศที่ต้องการลงทุน

เข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจ กฎระเบียบของตลาดหุ้น ระบบภาษี และความมั่นคงทางการเมือง

2. วิเคราะห์ตลาดและลักษณะหุ้น

ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของหุ้นในตลาดนั้น เช่น ค่า P/E ความน่าเชื่อถือของงบการเงิน และแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่สนใจ

3. ช่องทางการลงทุนและกฎเกณฑ์

ทำความเข้าใจเรื่องการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย การถือครอง และการส่งมอบหุ้นในประเทศนั้นๆ ที่จะเข้าไปลงทุน

ไม่ว่าคุณจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน นี่ก็เป็นข้อมูลพื้นฐานที่คุณควรทำความเข้าใจก่อน เมื่อได้ประเทศที่ต้องการลงทุนแล้วจากนั้นจึงค่อยลงลึกไปถึงการคัดสรร เลือกหุ้นมาลงทุน 

ซึ่งจะต้องใช้เวลา ใช้ความเอาใจใส่ศึกษาและวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงในบางกรณีประสบการณ์ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการคัดเลือกหุ้น

แต่ปัจจุบันก็มีตัวช่วยดีๆ อย่างการลงทุนต่างประเทศผ่าน ETF ซึ่งจะกระจายความเสี่ยงและคัดเลือกหุ้นมาให้อยู่แล้ว

วิธีลงทุนต่างประเทศแบบง่ายผ่าน ETF

ETF คืออะไร?

ETF (Exchange Traded Fund) เป็นกองทุนรวมที่ซื้อขายเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดย ETF แต่ละตัวจะลงทุนตามดัชนีที่อ้างอิง เช่น S&P 500, MSCI China หรือ Nasdaq เช่น

  • IVV (iShares Core S&P 500 ETF) ที่ลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ที่จัดตั้งในสหรัฐฯ กว่า 500 บริษัท
  • MCHI (iShares MSCI China ETF) ที่ลงทุนครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางในตลาดหุ้นจีน รวมทั้งสิ้น 700 กว่าหุ้น

หรือจะเป็น ETF ที่ลงในรายธุรกิจอย่าง เช่น 

  • EBIZ (Global X E-commerce ETF) ที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำเกี่ยวกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกว่า 40 หุ้น

นอกจากนี้ยังมี ETF กระจายลงทุนในยังกลุ่มประเทศต่างๆ หรือสินทรัพย์อื่นๆ เช่น

  • VEA (Vanguard FTSE Developed Markets ETF) ที่ลงทุนหุ้นทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ประเทศพัฒนาแล้วนอกเหนือจากสหรัฐฯ 
  • VCIT (Vanguard Intermediate-Term Corporate Bond ETF) ที่ลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีของสหรัฐฯ กว่า 2,000 หลักทรัพย์ 

การลงทุนใน ETF ช่วยให้สามารถกระจายความเสี่ยง และลงทุนในธีมหรือประเทศที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลมากมายเพื่อเลือกหุ้นรายตัว

แต่ทั้งนี้ก็มี ETF ที่อ้างอิงแต่ละดัชนี เป็นพันๆ ตัว จะเลือกแบบไหน และในสถานการณ์ที่มีความผันผวนสูงควรลงทุนอย่างไรให้ง่าย และชนะได้ทุกวิกฤติ Jitta Wealth มีคำตอบ

ลงทุน ETF ชนะทุกวิกฤติ กับ Jitta Wealth

การลงทุนที่เหมาะจะใช้คว้าโอกาสในทุกสถานการณ์คือ นโยบาย Global ETF 

ที่จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงให้คุณตามหลักการระดับรางวัลโนเบล อย่าง Modern Portfolio Theory 

ลงทุนใน ETF หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นตลาดชั้นนำทั่วโลก ร่วมกับลงทุนใน ETF ตราสารหนี้คุณภาพดีอีกมากมาย

มีให้เลือก 3 แผน ตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนคาดหวังที่คุณพอใจ 

ซึ่งเราจะคอยช่วยปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนให้อัตโนมัติ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิน 5% ระหว่างฝั่งหุ้น และตราสารหนี้ เพื่อรองรับการผันผวนในเบื้องต้น ให้คุณไม่พลาดโอกาสในช่วงราคาหุ้นต่ำลงมา เพราะเราจะขายพันธบัตรมาช้อนซื้อให้ หรือถ้าหุ้นราคาขึ้นสูงเกินไป เราก็จะขายทำกำไร และไปถือพันธบัตรไว้ก่อน 

ด้วยหลักการนี้ ทำให้ Global ETF สามารถฝ่าฟันมาได้ทุกวิกฤติ ตั้งแต่เปิดให้ลงทุน สามารถอ่านประวัติการเอาชนะวิกฤติของ Global ETF เพิ่มเติมได้ที่ บทความ: ลงทุนชนะทุกสงครามด้วย Global ETF 

จน Global ETF กลายเป็นพอร์ตลงทุนที่นักลงทุน Jitta Wealth ยกให้เป็นพอร์ตลูกรักเลยทีเดียว สามารถอ่านรีวิวต่างๆ ได้ที่นี่

เป็นนโยบายที่เราแนะนำให้มีไว้เป็น พอร์ตหลักในการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite 

การมี Global ETF เป็นพอร์ตหลัก (Core Port) ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง จะช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น สามารถคว้าโอกาสทำกำไรในแบบที่เสี่ยงมากขึ้นได้ในพอร์ตรอง (Satellite Port) เพราะมีพอร์ตหลักรองรับแล้ว

ซึ่งสัดส่วนที่เราแนะนำคือลงทุน พอร์ตหลัก 80% และพอร์ตรอง 20% เพื่อไม่ให้พอร์ตของคุณผันผวนมากจนเกินไป

จากสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์อ่อนและราคาหุ้นต่างประเทศที่อยู่ในจังหวะปรับฐาน ทำให้ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนผ่าน ETF ที่ช่วยให้เริ่มต้นง่าย กระจายความเสี่ยงได้ดี และเข้าถึงบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก

อย่าลืมว่าการลงทุนที่ดีคือการลงทุนในสิ่งที่คุณมีความรู้ความเข้าใจ 

เข้าใจความเสี่ยงที่รับได้จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เข้าใจกลไกขึ้นลงของตลาดหุ้น มีวินัยและมายเซ็ตการลงทุนที่ดี คุณก็จะสามารถประสบความสำเร็จบนเส้นทางการลงทุนระยะยาวได้ไม่ยาก

ฟรี! ปรึกษาการลงทุน ติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำได้ที่ Line: @JittaWealth