Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

การ ‘รอ’ ของคุณ…มีราคาเท่าไร?


Jitta Wealth Journal

เนื้อหาสำคัญ

ไฮไลต์

  • จากข้อมูลสถิติผลตอบแทนรายปีย้อนหลัง 95 ปี ของดัชนี S&P 500 พบว่าดัชนีเป็นขาขึ้น 69 ปี เป็นขาลง 26 ปี หมายความว่าในทุก 10 ปี ตลาดหุ้นจะเป็นขาขึ้น 7 ปี เป็นขาลง 3 ปี
  • ดัชนี ‘S&P 500’ ‘CSI 300’ และ ‘SET’ ล้วนทำผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกได้จากสถิติย้อนหลังหลายทศวรรษ เพิ่มน้ำหนักให้กับเหตุผลว่า ในระยะยาวตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น และคุณสามารถลงทุนอิงดัชนีเพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้
  • การลงทุนในกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) เป็นกลยุทธ์ลงทุนง่ายๆ ที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้คุณได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องอาศัยการจับจังหวะ หรือรอให้ตลาดหุ้นเป็นขาลงหนักๆ ก่อนค่อยลงทุน เพราะแม้แต่การจับจังหวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับผลตอบแทนอย่างมหาศาลเสมอ อ่านเพิ่มเติม

คุณเคยเล็งว่าจะลงทุนซื้อหุ้นตัวนึงเมื่อนานมาแล้ว…แต่สุดท้ายก็รอจังหวะราคาตกลงมาจนไม่ได้ซื้อสักที แต่พอมาดูอีกที ราคาหุ้นตัวนั้นขึ้นไปเยอะแล้วไหม 

หรือคุณอาจมีประสบการณ์การ ‘ต่อราคา’ และนำมาใช้ในการซื้อหุ้นหรือกองทุนรวม จนเกิดความคิดว่า ‘ขอถูกกว่านี้อีกนิด ขอรอดูจังหวะอีกหน่อย’ จนสุดท้ายพลาดโอกาสลงทุนไปจนได้ และพอย้อนกลับมาดูหุ้นตัวนั้นอีกที ราคาได้ขยับขึ้นไปหลายเท่าตัวแล้ว โดยที่คุณก็ไม่ได้ลงทุนในท้ายที่สุด

เรื่องราวนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องเจอ หากเริ่มเข้ามาสู่แวดวงการลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนด้วยตัวเองหรือลงทุนผ่านกองทุนรวม แต่วันนี้ทีมงาน Jitta Wealth มีข้อมูลเกี่ยวกับตลาดหุ้นดีๆ มาเล่าให้คุณได้ฟัง 

บทความนี้อาจทำให้คุณ ‘ตาสว่าง’ ว่าการลงทุนนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยการจับจังหวะเข้ามาช่วย ก็สามารถทำผลตอบแทนที่ดีได้ส่วนวิธีการนั้นจะเป็นแบบไหนนั้น เราจะพาคุณไปดูพร้อมๆ กัน

ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เป็น ‘ขาขึ้น’ มากกว่าลง

ก่อนอื่น เราขอนำสถิติที่คุณอาจไม่เคยได้ยินที่ไหนมาเล่าให้คุณฟัง ว่าจริงๆ ถ้ามองภาพในระยะยาวแล้ว จำนวนปีที่ตลาดหุ้นเป็น ‘ขาขึ้น’ สูงกว่าปีที่ตลาดหุ้นเป็น ‘ขาลง’ ซะอีก

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ที่เก็บสถิติผลตอบแทนรายปีของดัชนี S&P 500 (รวมปันผล) ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2471 – 2565 พบว่าตลอด 95 ปี ที่เก็บข้อมูล มีปีที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นถึง 69 ปี ในขณะที่มีปีที่ตลาดหุ้นเป็นขาลงอยู่ 26 ปีเท่านั้น

โดยเฉลี่ยแล้วสามารถสรุปอย่างเข้าใจง่ายว่า…ทุก 10 ปี จะมีปีที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น 7 ปี และเป็นขาลงอีก 3 ปี

ถึงจุดนี้คุณอาจจะสงสัยต่อไปว่า เป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นจะขึ้นทีละนิดในแต่ละปี แต่พอถึงจังหวะที่ตลาดเป็นขาลงกลับร่วงหนัก โดยเฉพาะตอนที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สุดท้ายก็ไม่มีใครได้กำไร แล้วแบบนี้ถ้าลงทุนอิงตามดัชนี S&P 500 ในระยะยาวแล้ว ผลตอบแทนโดยรวมจะออกมาเป็นบวกหรือลบกันแน่…เราก็หาคำตอบมาให้คุณไว้แล้วเช่นกัน

เจาะลึก 3 ตลาด ขึ้นมากกว่าลงจริงหรือไม่

เพื่อตอบคำถามนี้ เราได้ค้นคว้าข้อมูลดัชนีตลาดหุ้นย้อนหลัง 3 ดัชนีที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณได้เห็นภาพและมั่นใจมากขึ้นว่า ในระยะยาวแล้ว ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น 

รวมไปถึงการนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นด้วยกลยุทธ์ที่เรียบง่ายที่สุดอย่างกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) ตามที่ Warren Buffett แนะนำ ก็ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้คุณได้เช่นกัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ดัชนี S&P 500 Total Return Index

หากลองสมมติขึ้นมาเล่นๆ ว่า พ่อ แม่ หรือบรรพบุรุษของคุณลงทุนอิงกับดัชนี S&P 500 ไว้ 100 ดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ต้นปี 2479 หรือ 86 ปีที่แล้ว และหากได้เงินปันผลมาก็จะนำกลับไปลงทุนต่อ ซึ่งก็คือนิยามของดัชนี S&P 500 Total Return Index หรือ S&P 500 TRI ในปัจจุบันเงินลงทุนก้อนนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 557,253 ดอลลาร์สหรัฐ

ถ้าคิดเป็นผลตอบแทนรวมก็จะอยู่ที่ประมาณ 557,153% หรือกำไรประมาณ 5,571 เท่า หากคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้น (CAGR) ก็จะอยู่ที่ 10.55% ต่อปี

ที่สำคัญคือตลอด 86 ปีนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ผ่านเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงลบมากมาย ตั้งแต่ สงครามโลก สงครามเย็น การลอบสังหารประธานาธิบดี วิกฤติ Dot Com วิกฤติซับไพรม์ รวมถึงเหตุการณ์ปลีกย่อยต่างๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน

ตลาดหุ้น

จากภาพคุณจะเห็นว่า ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น ตลาดหุ้นก็ยังยืนยันว่า เป็นขาขึ้นมากกว่าขาลง ดังนั้น การลงทุนทันทีเมื่อพร้อม โดยไม่ต้องพยายามจับจังหวะตลาดหรือรอวันที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้คุณอย่างงามได้เช่นกัน

ยิ่งคุณรอและไม่ได้เริ่มลงทุน คุณก็ยิ่งเสียโอกาสทำเงินให้งอกเงยไปโดยเปล่าประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น เห็นไหมว่าการ ‘รอ’ ของคุณนั้นมี ‘ราคา’ ที่ต้องจ่าย

ตลาดหุ้นจีน: ดัชนี CSI 300 TR

ถัดจากดัชนี S&P 500 TRI ของสหรัฐฯ ข้ามฝากมาที่ดูฝั่งตลาดหุ้นจีนกับดัชนี CSI 300 TR ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด 300 อันดับในจีนกันบ้าง โดยดัชนี CSI 300 TR ทำผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นได้ที่ 6.98% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่มีการจัดทำดัชนีมาตั้งแต่ในปี 2545 โดยผลตอบแทนรวมตลอด 21 ปีจะอยู่ที่ 286%

ดัชนี CSI 300 TR ได้ผ่านมรสุมทางเศรษฐกิจมามากมายมาเช่นเดียวกัน ทั้งวิกฤติซับไพรม์ สงครามการค้า การควบคุมหุ้นเทคโนโลยีจีน ปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการ Zero-COVID แต่ตลาดหุ้นจีนก็ยังทำผลตอบแทนเป็นบวกให้แก่นักลงทุนได้อยู่ดี

ตลาดหุ้น

เป็นอีกข้อพิสูจน์ว่าในระยะยาว แม้จะต้องเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีมากมาย แต่ดัชนี CSI 300 TR ที่เป็นศูนย์รวมหุ้นจีนยักษ์ใหญ่ก็ยังทำผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวก และเป็นขาขึ้นในระยะยาวอยู่ดี

ตลาดหุ้นไทย: ดัชนี SET Index

ตลาดหุ้นแห่งสุดท้ายที่เราจะพาคุณไปดู ก็คือดัชนี SET Index ของตลาดหุ้นไทยบ้านเรา โดยตลอดอายุ 47 ปีของดัชนี SET Index สามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นได้ที่ 6.08% ต่อปี ต่ำกว่าดัชนี S&P 500 และ CSI 300 อยู่พอสมควร

แต่ถ้านับตั้งแต่ปี 2543 หลังจบวิกฤติต้มยำกุ้งเป็นต้นมา ดัชนี SET Index กลับทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงถึง 13.06% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับการเติบโตของดัชนีตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่เศรษฐกิจไม่ได้เติบโตโดดเด่นดังเช่นยุครุ่งเรืองในอดีต

ทำให้ใครก็ตามที่ได้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่หลังจบวิกฤติต้มยำกุ้งเป็นต้นมา ได้เป็นเศรษฐีใหม่กันไปหลายคน

ตลาดหุ้น

ข้อมูลจากตลาดหุ้นไทย คงจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าอย่างน้อยที่สุด การลงทุนอิงกับดัชนี SET Index หรือดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในระยะยาว สามารถทำให้เงินลงทุนของคุณเติบโตได้ แม้จะต้องเจอกับเหตุการณ์ด้านลบของเศรษฐกิจอยู่เป็นประจำ

จากข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังของของตลาดหุ้นทั้ง 3 แห่ง คุณคงพอจะเห็นแล้วว่าการลงทุนในตลาดหุ้นช่วยสร้างความมั่งคั่งให้คุณได้ ด้วยกลยุทธ์ง่ายๆ อย่างการลงทุนอิงดัชนีตลาดแบบ Passive Investment ตามที่ Warren Buffett แนะนำให้คนส่วนใหญ่ลงทุน

หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้ เราหวังว่าคุณคงจะตัดสินใจ ‘เลิกรอ’ แล้วมาเริ่มลงทุนเพื่อต่อยอดให้เงินงอกเงยต่อไปได้ง่ายขึ้น เพราะเราได้พิสูจน์ให้คุณได้เห็นแล้วว่าตลาดหุ้นนั้นเป็น ‘ขาขึ้น’ ในระยะยาว

ผ่านการรังสรรค์ภาพดัชนีตลาดหุ้นทั้ง 3 แห่งพร้อมเหตุการณ์เด่นในหน้าประวัติศาสตร์ สำหรับใช้เป็นภาพ Wallpaper บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ส่วนตัวสำหรับนักลงทุนตัวจริงอย่างคุณ โดยสามารถ เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่นี่

หากคุณสนใจลงทุนหุ้นรายตัว โดยมี AI ช่วยวิเคราะห์และคัดเลือก ‘หุ้นพื้นฐานดี ราคาเหมาะสม’ ตามหลักการของ Warren Buffett ให้ พร้อมเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการพอร์ตอัตโนมัติ ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ได้ที่นี่

ถ้าคุณสนใจลงทุนแผน Jitta Ranking หุ้นจีน หรือ Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน ต้อนรับวันตรุษจีนปี 2566 พร้อมฤกษ์ดีที่จีนเปิดประเทศ Jitta Wealth ขอมอบอั่งเปาเครดิตค่าธรรมเนียม พร้อมของขวัญ Limited Edition สุดน่ารัก เพียงลงทุนหรือเพิ่มทุนในทั้ง 2 แผนภายในวันที่ 16 – 31 มกราคม 2566 นี้เท่านั้น ดูรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่นี่


กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน


ข้อมูลอ้างอิง


อ่านเพิ่มเติม

‘จับจังหวะตลาด’ ดีจริงไหม…คุ้มค่าแค่ไหน?

เจาะลึก! ‘ลงทุน Global ETF’ ตามสูตร Ben Graham 

Jitta Wealth แจก Wallpaper สไตล์ VI สายมู พร้อมดาวน์โหลดแล้ววันนี้