Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
blog

วิธีเปิดพอร์ตกองทุนรวมสำหรับมือใหม่ 2025: 5 ขั้นตอนง่ายๆ เริ่มลงทุนได้อย่างมั่นใจ 


All Category Jitta Wealth

ไฮไลต์

  • กองทุนรวม คือจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ เพราะมีผู้จัดการกองทุนดูแล และกระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ
  • การเลือกกองทุนที่ใช่ ต้องดู เป้าหมาย (สั้น/กลาง/ยาว) ค่าธรรมเนียม และ การกระจายความเสี่ยงไปยังต่างประเทศ
  • มือใหม่ควรเริ่มจาก กองทุนตลาดเงิน หรือ กองทุนผสม เพื่อทำความคุ้นเคยกับความผันผวน
  • หากไม่อยากเลือกกองทุนเอง Omni Fund คือพอร์ตเดียวที่กระจายทั่วโลกอัตโนมัติ ใช้เงินเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นลงทุน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มตรงไหนก่อนดี กองทุนรวม คือหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด กระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า และเป็นมิตรกับมือใหม่มากที่สุด เพราะคุณไม่ต้องเลือกหุ้นทีละตัว ไม่ต้องเฝ้าตลาดตลอดวัน แค่เปิดพอร์ตให้ถูกต้อง ก็สามารถเริ่มต้นให้เงินทำงานแทนได้ทันที

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจตั้งแต่ เริ่มต้น ไปจนถึงการ เปิดพอร์ตกองทุนรวมจริง พร้อมเคล็ดลับเลือกกองทุนรวมที่เหมาะกับสไตล์การลงทุน และท้ายสุดแนะนำวิธีลงทุนที่ง่ายกว่านั้นไปอีกด้วย Omni Fund ตัวช่วยจัดพอร์ตอัตโนมัติสำหรับคนที่อยากเริ่มแบบมั่นใจที่สุด

1. รู้จัก ‘กองทุนรวม’ คืออะไร? จุดเริ่มต้นที่ง่ายและดีกว่าสำหรับมือใหม่ 

กองทุนรวม คือ การนำเงินของผู้ลงทุนหลายๆ คนมารวมกัน แล้วให้ผู้จัดการกองทุนรวมมืออาชีพนำไปลงทุนแทนคุณในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาฯ หรือแม้แต่กอง ETF ต่างประเทศ

ข้อดีที่ทำให้กองทุนรวมเหมาะกับมือใหม่:

  • ไม่ต้องมีประสบการณ์ ก็เริ่มได้ทันที
  • มี ผู้เชี่ยวชาญ คอยบริหารจัดการแทน
  • กระจายความเสี่ยงในตัว (ดีกว่าการซื้อหุ้นรายตัว)
  • ใช้เงินเริ่มต้นน้อยมาก เช่น 100-1,000 บาท ก็เริ่มได้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่กองทุนรวมกลายเป็น ก้าวแรกของนักลงทุนมือใหม่ทั่วโลก

2. ก่อนเปิดพอร์ตต้องรู้อะไรบ้าง? 3 พื้นฐานสำคัญ 

ก่อนจะกดเปิดพอร์ตใดๆ มีพื้นฐานไม่กี่เรื่องที่มือใหม่ควรรู้ เพื่อให้ลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

2.1 รู้จักประเภทของกองทุนรวม 

กองทุนมีหลายแบบ แต่หลักๆ สามารถแบ่งตามระดับความเสี่ยงได้ดังนี้:

ประเภทกองทุนความเสี่ยงโดยประมาณเหมาะกับเป้าหมาย
กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund)ต่ำที่สุด พักเงิน, เป้าหมายสั้นมาก (< 6 เดือน)
กองทุนตราสารหนี้ (Bond Fund)ต่ำ มือใหม่, ต้องการความสม่ำเสมอ, เป้าหมายสั้น (1 ปี)
กองทุนผสม (Mixed Fund)ปานกลาง คนที่ยังหาสไตล์ตัวเอง, เป้าหมายกลาง (3-5 ปี)
กองทุนหุ้น (Equity Fund)สูง เป้าหมายระยะยาว (5-10 ปี+), เน้นโอกาสผลตอบแทนสูง

2.2 เข้าใจคำว่า ‘ความเสี่ยงที่รับได้’ 

ทุกคนมีระดับความเสี่ยงที่รับได้ต่างกัน การทำ Suitability Test ในขั้นตอนเปิดพอร์ตจะช่วยประเมินระดับของคุณ ลองถามตัวเองว่า:

  • ถ้าพอร์ตติดลบ 10-20% คุณยังนอนหลับได้อยู่ไหม?
  • คุณลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว (ยิ่งระยะยาวมาก ความผันผวนยิ่งน่ากลัวน้อยลง)?
  • คุณพร้อมที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอไหม?

2.3 ดูค่าธรรมเนียม (สำคัญมาก!)

กองทุนสองกองอาจให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกัน แต่กองที่ ค่าธรรมเนียมถูกกว่า จะให้ผลตอบแทนสุทธิที่ดีกว่าเสมอ โดยเฉพาะเมื่อลงทุนต่อเนื่องในระยะ 10-20 ปี ดังนั้น ควรเปรียบเทียบ Total Expense Ratio (TER) ก่อนตัดสินใจลงทุน

3. ขั้นตอนเปิดพอร์ตกองทุนรวม: ทำผ่านมือถือได้ใน 10 นาที 

ขั้นตอนการเปิดพอร์ตกองทุนรวมง่ายมากกว่าที่คิด และสามารถทำผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา:

  1. เลือกผู้ให้บริการ: เช่น บลจ. ธนาคาร แอปลงทุน หรือผู้แนะนำการลงทุนที่น่าเชื่อถือ
  2. ทำแบบประเมินความเสี่ยง (Suitability Test): เพื่อให้รู้ว่าคุณเหมาะกับกองทุนความเสี่ยงระดับใด
  3. ยืนยันตัวตน (e-KYC): ใช้เพียงบัตรประชาชนและใบหน้าของคุณ
  4. เลือกช่องทางหักบัญชี/ตัดเงิน: ผูกบัญชีธนาคารที่คุณต้องการใช้ลงทุน
  5. เริ่มเลือกกองทุนและลงทุนได้ทันที!

4. เคล็ดลับเลือกกองทุนรวมให้เหมาะกับมือใหม่

หลังจากเปิดพอร์ตแล้ว การเลือกกองทุนที่ใช่ก็เป็นขั้นตอนสำคัญ:

  • กำหนดเป้าหมาย: ใช้ระยะเวลาของเป้าหมายเป็นตัวนำ (สั้น = ตราสารหนี้, ยาว = หุ้น)
  • เริ่มจากกองทุนความเสี่ยงต่ำ: สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มจาก กองทุนตลาดเงิน หรือ กองทุนผสม ก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับการซื้อขาย
  • อย่ามองข้ามการกระจายความเสี่ยงไปต่างประเทศ: การลงทุนในไทยอย่างเดียวไม่พอแล้ว การถือกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดโลก เช่น หุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือจีน ช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะประเทศและเพิ่มโอกาสในการเติบโต

5. Omni Fund: พอร์ตเดียว… กระจายลงทุนทั่วโลกอัตโนมัติ 

แม้กองทุนรวมจะง่าย แต่การ เลือกกองที่ใช่และจัดการพอร์ต ก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับมือใหม่: จะเลือกประเทศไหนดี? จะต้องปรับพอร์ตเมื่อไร?

ซึ่งทั้งหมดคือเหตุผลที่ Jitta Wealth ออกแบบ Omni Fund ขึ้นมา เพื่อเป็น ‘ทางลัดของคนที่อยากเริ่มลงทุนกองทุนรวมแบบง่ายที่สุด’

ทำไม Omni Fund เหมาะกับมือใหม่? 

  • พอร์ตเดียว กระจายลงทุนทั่วโลกอัตโนมัติ: ครอบคลุมทั้ง หุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยุโรป และตราสารหนี้ เพื่อลดความเสี่ยง
  • ระบบ AI ช่วยจัดสัดส่วนให้สมดุล: ระบบจะคอยปรับพอร์ตให้อัตโนมัติเมื่อสัดส่วนเปลี่ยนไปมากเกิน 5% ช่วยให้พอร์ตฌติบโตในระยัยาวแบบไม่ต้องเดาจังหวะตลาด
  • เริ่มต้นแค่ 1,000 บาท: ก็เข้าถึงพอร์ตระดับมืออาชีพได้ง่ายๆ
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการภาษีลงทุนต่างประเทศ: ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย ที่ไม่ต้องนำรายได้มาคำนวณภาษีตามเกณฑ์ปัจจุบัน

Omni Fund จึงเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ที่อยาก มีพอร์ตระดับมืออาชีพ แต่ไม่อยากวุ่นวายกับการเลือกเองทีละกอง เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท และทำผ่านมือถือได้ในไม่กี่นาที

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือพูดคุยกับผู้แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ LINE: @JittaWealth

สำหรับนักลงทุนที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกองทุนรวมเพิ่มเติม สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ คู่มือกองทุนรวมสำหรับมือใหม่ 2025 สรุปครบ เริ่มลงทุนได้เลย