ทุกเรื่องที่ต้องรู้…ก่อนจะ ‘ลงทุนต่างประเทศ’ กับ Jitta Wealth
การลงทุนใน ‘หุ้น’ และ ‘ETF’ (Exchange Traded Fund) ที่ Jitta Wealth เลือกโดยส่วนใหญ่ จะเป็นการ ‘ลงทุนต่างประเทศ’ ทั้งนั้น
Jitta Ranking ลงทุนใน หุ้นสหรัฐฯ หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หุ้นสุขภาพสหรัฐฯ หุ้นจีน หุ้นเวียดนาม และ หุ้นญี่ปุ่น
Global ETF และ Thematic ลงทุนใน ETF บนกระดานตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ยกเว้นเพียง Jitta Ranking หุ้นไทยที่ลงทุนใน SET และ mai ที่อยู่ในประเทศ
ดังนั้น เงื่อนไขการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศย่อมแตกต่างจากสินทรัพย์ในประเทศอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน การโอนเงินข้ามประเทศ ค่าธรรมเนียม ระยะเวลาการซื้อขายสินทรัพย์ การหักภาษีเงินได้ และการสำแดงภาษีเงินได้
บทความนี้ จะให้คำตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณสามารถ ‘ลงทุนต่างประเทศ’ ได้อย่างสบายใจ
อัตราแลกเปลี่ยนและการประกันความเสี่ยง
ปัจจุบันมี 4 สกุลเงินต่างประเทศที่ Jitta Wealth ใช้จัดพอร์ตกองทุนส่วนบุคคล คือ ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับลงทุนหุ้นและ ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดองเวียดนาม สำหรับลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนาม หยวนจีน สำหรับลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นจีน เยนญี่ปุ่น สำหรับลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
หากในอนาคต Jitta Ranking เปิดกองทุนส่วนบุคคลลงทุนในหุ้นประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม ก็จะใช้สกุลเงินของประเทศนั้นๆ เพื่อซื้อหุ้นในตลาดหุ้นของประเทศนั้นๆ
ขั้นตอนและระยะเวลาหลังจากโอนเงินลงทุนเข้ามาที่ Jitta Wealth
- แลกเงินและโอนเงินไปต่างประเทศ (1-2 วันทำการ)
Jitta Wealth จะดำเนินการตรวจสอบยอดเงินที่โอนเข้ามา โดยจะแลกเงินสกุลบาทไทย สกุลเงินหลักตามการซื้อขายของตลาดหุ้นประเทศนั้นๆ ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของวันที่ดำเนินการ หลังจากนั้นจึงโอนเงินผ่านธนาคารไปยังบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินต่างประเทศ
- ระยะเวลาการเข้าซื้อสินทรัพย์ในตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’ (3-5 วันทำการ)
เมื่อได้รับการยืนยันว่า โอนเงินเรียบร้อยแล้ว Jitta Wealth จะเริ่มซื้อสินทรัพย์ตามนโยบายของคุณ โดยซื้อในราคาเฉลี่ยของวันที่ส่งรายการ ทั้งนี้การซื้อสินทรัพย์ในตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’ ในบางช่วงเวลา การยืนยันการซื้อขายที่อาจจะล่าช้ากว่าเดิม ด้วยเงื่อนไขของโซนเวลาที่ต่างกัน
หากผ่านกระบวนการซื้อหุ้น หรือ ETF ในตลาดหุ้นเรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นสัดส่วนการลงทุนในแผนการลงทุนที่คุณเลือก โดยรวมแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วันทำการ
- ระยะเวลาการเข้าซื้อสินทรัพย์ในตลาดหุ้นเวียดนาม (5-7 วันทำการ)
กระบวนการตรวจสอบการโอนเงินไปต่างประเทศ เพื่อลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม จะเหมือนกับกระบวนการของตลาดหุ้นจีนและสหรัฐฯ แต่ที่ต้องใช้เวลานานมากขึ้น เนื่องจากสภาพคล่องของสินทรัพย์ และเกณฑ์การถือครองของต่างชาติ (Foreign Ownership Limit – FOL)
หากผ่านกระบวนการซื้อหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนามเรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นสัดส่วนการลงทุนในแผนการลงทุนที่คุณเลือก โดยรวมแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วันทำการ
หมายเหตุ
- กำหนดวันอาจจะเร็วหรือช้ากว่าได้ หากเกิดการขัดข้องจากข้อมูล เอกสาร และระบบซื้อขาย แต่จะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันทำการ (สำหรับตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’) และ 30 วันทำการ (สำหรับตลาดหุ้นเวียดนาม)
- Jitta Wealth เป็นกองทุนส่วนบุคคล ที่มีกระบวนการซื้อขายสินทรัพย์ การจัดสรรสินทรัพย์ และการกระทบยอด (พิสูจน์ยอด) กับผู้รับฝากทรัพย์สิน (Custodian) โดยจะมีระบบทำงานแบบอัตโนมัติในแต่ละขั้นตอน
การทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Hedging)
Jitta Wealth จะไม่ได้ทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ ด้วยเหตุผลดังนี้
- พอร์ตลงทุนระยะยาว
ทุกนโยบายลงทุนของ Jitta Wealth ออกแบบมาให้เป็นพอร์ตลงทุนระยะยาว ระยะเวลาการลงทุนประมาณ 3-5 ปีขึ้นไป หรือนานกว่านั้น การทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมีเงื่อนไขว่า ต้องซื้อประกันทุกปี จึงเหมาะกับการลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศระยะสั้นน้อยกว่า 1 ปี
- ผลตอบแทนระยะยาว
Jitta Wealth มีหลักการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนระยะยาว หากมีการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นต้นทุนอีก 1 รายการ ที่คุณต้องจ่ายรายปี นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมที่จำเป็นอื่นๆ และไม่สามารถการันตีได้ว่า จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์ (หากบาทไทยอ่อนค่า) หรือเสียประโยชน์ (หากบาทไทยแข็งค่า) ในวันที่คุณต้องการถอนเงินลงทุน
ยกตัวอย่างเช่น คุณลงทุน Global ETF แผนสมดุลมาได้ 5 ปี มูลค่าพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้น 33.82% (คิดจากผลตอบแทนทบต้น 6% ต่อปี) หากคุณต้องการถอนเงินลงทุน แต่อยู่ในจังหวะที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 3% ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตลงทุนก็ยังสามารถชดเชยในส่วนนี้ได้
ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับ ‘ลงทุนต่างประเทศ’
Jitta Wealth มีแนวคิดว่า ค่าธรรมเนียมต่างๆ ควรเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้ต้นทุนการลงทุนที่เกิดขึ้น ไม่กระทบต่อผลตอบแทนที่คุณควรจะได้รับมากเกินไป เราจึงพยายามคิดค่าธรรมเนียมให้ต่ำที่สุด
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจาก Jitta Wealth
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.5% ต่อปี โดยจะคำนวณตามมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) เป็นรายวัน เหมือนกับการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝาก และจะเรียกเก็บรวมเป็นรายไตรมาส
- Global ETF และ Thematic เงินลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท มีค่าธรรมเนียมการจัดการโดยประมาณ 250 บาทต่อปี
- Jitta Ranking หุ้นต่างประเทศ เงินลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท มีค่าธรรมเนียมการจัดการโดยประมาณ 5,000 บาทต่อปี
- ค่าธรรมเนียมตามกำไร (Performance Fee) 10% ต่อปี เฉพาะกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking เท่านั้น จะคำนวณต่อเมื่อพอร์ตลงทุนมีกำไร ปีใดขาดทุน ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามจริงจากหน่วยงานอื่นๆ
- ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ (Trading Commission) เกิดขึ้นจากการซื้อขายสินทรัพย์
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 0.2% (รวม Global ETF และ Thematic)
- ตลาดหุ้นจีน 0.2%
- ตลาดหุ้นเวียดนาม 0.3%
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น 0.2%
- ค่าธรรมเนียมรับฝากทรัพย์สิน (Custodian Fee) 0.1% ต่อปี หรือขั้นต่ำ 80 บาทต่อเดือน หากต้องการจะลงทุนให้คุ้มกับค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ ควรเริ่มต้นที่ 960,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมโอนเงินไปต่างประเทศ
- 500 บาท เรียกเก็บครั้งเดียว สำหรับ Global ETF และ Thematic
- 1,000 บาทต่อครั้ง สำหรับ Jitta Ranking หุ้นต่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมโอนเงินกลับไทย กรณีถอนเงินจะมีค่าใช้จ่าย 1,000 บาทต่อครั้งต่อพอร์ต ทั้งนโยบาย Global ETF นโยบาย Thematic และนโยบาย Jitta Ranking
ระยะเวลาการซื้อขายสินทรัพย์
โดยรวมๆ แล้วระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่คุณโอนเงินลงทุนมาให้ Jitta Wealth จนมาถึงการซื้อสินทรัพย์ตามนโยบายที่คุณได้เลือกไว้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วันทำการ สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’ และ ใช้เวลา 5-7 วันทำการ สำหรับลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
กรณีถอนเงินจากพอร์ตลงทุน คุณสามารถถอนบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Global ETF และ Thematic ยอดถอนบางส่วนขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยต้องคงเหลือเงินในพอร์ตขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือถอนทั้งหมด ใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 วันทำการนับจากวันที่คุณยืนยันการถอน
- Jitta Ranking หุ้นต่างประเทศ ยอดถอนบางส่วนขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยต้องคงเหลือเงินในพอร์ตขั้นต่ำ 1 ล้านบาท หรือถอนทั้งหมด ใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 วันทำการนับจากวันที่คุณยืนยันการถอน (ตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’) และ ประมาณ 13-15 วันทำการนับจากวันที่คุณยืนยันการถอน (ตลาดหุ้นเวียดนาม)
หมายเหตุ
- กำหนดวันดังกล่าวอาจจะเร็วหรือช้ากว่าได้ หากเกิดการขัดข้องจากข้อมูล เอกสาร หรือระบบซื้อขาย แต่จะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันทำการ (สำหรับตลาดหุ้น ‘จีน’ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สหรัฐฯ’) และ 30 วันทำการ (สำหรับตลาดหุ้นเวียดนาม)
- Jitta Wealth เป็นกองทุนส่วนบุคคล ที่มีกระบวนการซื้อขายสินทรัพย์ การจัดสรรสินทรัพย์ และการกระทบยอด (พิสูจน์ยอด) กับผู้รับฝากทรัพย์สิน (Custodian) โดยจะมีระบบทำงานแบบอัตโนมัติในแต่ละขั้นตอน
การหักภาษีเงินได้และการสำแดงภาษีเงินได้จาก ‘ลงทุนต่างประเทศ’
การลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศในรูปแบบของกองทุนส่วนบุคคลที่ Jitta Wealth ให้บริการอยู่นั้น จะต้องจ่ายภาษีประเภทต่างๆ เหมือนกับการไปลงทุนต่างประเทศด้วยตนเอง ส่วนของภาษีที่ต้องจ่ายจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเทศที่ไปลงทุน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
การลงทุนที่สหรัฐฯ ในฐานะบุคคลที่ไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศ คุณจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลของหุ้นและ ETF ในอัตรา 30% แต่กำไรส่วนทุนจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gain) จะไม่ถูกคำนวณภาษีของสหรัฐฯ
เงื่อนไขภาษีของสหรัฐฯ จะครอบคลุมทั้ง Jitta Ranking ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หุ้นสุขภาพสหรัฐฯ Global ETF และ Thematic
ตลาดหุ้นจีน
การลงทุนที่จีน ในฐานะบุคคลที่ไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศ คุณจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลของหุ้นในอัตรา 10% แต่กำไรส่วนทุนจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gain) จะไม่ถูกคำนวณภาษีของจีน
ตลาดหุ้นเวียดนาม
การลงทุนที่เวียดนาม ในฐานะบุคคลที่ไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศ คุณไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลของหุ้น และกำไรส่วนทุนจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gain) จะไม่ถูกคำนวณภาษีของเวียดนาม
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
การลงทุนที่ญี่ปุ่น ในฐานะบุคคลที่ไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศ คุณจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายของ เงินปันผลที่ 15.315%ตามกฎหมายของญี่ปุ่น แต่กำไรส่วนทุนจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gain) จะไม่ถูกคำนวณภาษีของญี่ปุ่น
ส่วนภาษีเงินได้ตามกฎหมายของไทย ไม่ว่าจะมาจากการลงทุนในสหรัฐฯ จีน เวียดนาม และ ญี่ปุ่น ระบุว่า หากคุณมีเงินได้จากต่างประเทศและนำเงินกลับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น กำไรส่วนทุนจากการขายสินทรัพย์ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ และเงินปันผล ต้องสำแดงรายการและเงินส่วนนั้นมาคำนวณภาษีเงินได้ แต่จะคำนวณเฉพาะกำไรที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่นับเงินต้นที่ลงทุน
สำหรับภาษีเงินได้จากต่างประเทศ หากนำเงินกลับเข้ามาในปีภาษีถัดไป จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมเพื่อคำนวณภาษีเงินได้
เราขอยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น หากคุณลงทุนใน Thematic มูลค่าเงินต้น 500,000 บาท แล้วได้กำไรจากการลงทุนเพิ่มอีก 305,255 บาท (คิดจากการลงทุน 5 ปี ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 10% ต่อปี) รวมเป็นมูลค่าพอร์ตลงทุน 805,255 บาท
- กรณีถอนบางส่วน หากคุณถอนเงินลงทุน 100,000 บาทและนำเงินกลับเข้าประเทศภายในปีภาษีเดียวกัน ไม่ต้องเสียภาษี เพราะเป็นส่วนของเงินต้น
- ต่อมาหากคุณถอนเงินลงทุนเพิ่มอีก 400,000 บาทและนำเงินกลับเข้าประเทศภายในปีภาษีเดียวกันไม่ต้องเสียภาษี เพราะยังอยู่ในส่วนของเงินต้น (รวมเป็นถอนเงินต้น 500,000 บาท)
- ต่อมาหากคุณถอนเงินลงทุนเพิ่มอีก 100,000 บาทและนำเงินกลับเข้าประเทศภายในปีภาษีเดียวกันต้องสำแดงภาษียอดนี้ เพราะเป็นส่วน Capital Gain ที่ได้จากการลงทุน (รวมเป็นถอนเงินต้น 500,000 บาท กำไร 100,000 บาท)
- กรณีคุณถอนเงินลงทุนทั้งพอร์ต 805,255 บาทและนำเงินกลับเข้าประเทศภายในปีภาษีเดียวกันต้องสำแดงภาษียอด 305,255 บาท เพราะเป็นส่วน Capital Gain ที่ได้จากการลงทุน (รวมเป็นถอนเงินต้น 500,000 บาท กำไร 305,255 บาท)
ตัวอย่างข้างต้น เป็นแนวทางการสำแดงภาษีเงินได้เบื้องต้น กรณีนำเงินลงทุนจากต่างประเทศกลับเข้ามาในไทย ทั้งนี้เราแนะนำให้คุณติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
นี่คือข้อมูลทั้งหมดของการลงทุนต่างประเทศที่เรารวบรวมมาให้คุณ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนจะลงทุนกับ Jitta Wealth หากคุณยังมีคำถามในเรื่องอื่นๆ สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Facebook: Jitta Wealth และ Line ID: @JittaWealth
หากคุณมั่นใจแล้วว่า กองทุนส่วนบุคคลคือคำตอบของการ ‘ลงทุนต่างประเทศ’ ระยะยาว ลองเข้ามาดูข้อมูลได้ที่
- Global ETF https://jittawealth.com/global-etf
- Thematic https://jittawealth.com/thematic
- Jitta Ranking https://jittawealth.com/jitta-ranking
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน