TOC

‘หุ้นเวียดนาม’ ที่สุดแห่งโอกาสการลงทุน

Jitta Ranking 16 กันยายน 2565

ไฮไลต์

IMF เพิ่มประมาณการ GDP เวียดนามปี 2565 จาก 6% เป็น 7% สวนทางกับตลาดหุ้นเวียดนามที่ตกตั้งแต่ต้นปี โอกาสทองในการลงทุนระยะยาวของนักลงทุนสาย VI
เวียดนามคือ ‘ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจแห่งเอเชีย’ ยุคปัจจุบัน จากการลงทุนจำนวนมหาศาลของบริษัทต่างชาติที่ดันให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตสูงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในไทยก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง
เวลาของคุณมาถึงแล้ว! เพราะ Jitta Wealth ให้คุณเป็นเจ้าของพอร์ตหุ้นต่างประเทศสไตล์ VI ได้ง่ายขึ้นด้วยเงินเพียง 500,000 บาท พร้อมลดเงินเพิ่มทุนขั้นต่ำเหลือเพียง 50,000 บาท ออกไปไขว่คว้าหาโอกาสลงทุนระยะยาวที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง

ตลาดหุ้นเวียดนามยังดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาสนใจราวกับเป็นแม่เหล็กยักษ์แห่งเอเชีย เพราะแม้แต่สุดยอดนักลงทุนสาย VI ของไทยอย่าง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ยังแนะนำคุณให้ลงทุน ‘หุ้นเวียดนาม’ ทั้งหมดนี้มันมีเหตุผลยังไง เวียดนามตอนนี้น่าลงทุนแค่ไหน ไปติดตามกันเลย

ตลาดหุ้นตก แต่เศรษฐกิจโตต่อเนื่อง

ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2565 ของดัชนี Vietnam Stock Index (VNI) ปรับตัวลงถึงกว่า -16% ซึ่งไม่ใช่การปรับตัวลงตามปกติ แต่เกิดจากการที่รัฐบาลเวียดนามปราบปรามการละเมิดกฎเกณฑ์ในตลาดหุ้นอย่างจริงจังในเดือนเมษายนปี 2565

แต่เศรษฐกิจเวียดนามกลับดีวันดีคืน จน IMF ประกาศเพิ่มประมาณการ GDP เวียดนามปี 2565 จาก 6% เป็น 7% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ดึงความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติจนเข้าซื้อหุ้นเวียดนามกันแบบโหมกระหน่ำ

หากคุณสังเกตให้ดีจะพบว่า สาเหตุการปรับตัวลงของตลาดหุ้นเวียดนามนั้นไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานของเวียดนาม แต่กลับสร้างโอกาสที่แสนงดงามสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าหรือ Value Investor ที่ต้องการลงทุนระยะยาว

Dragon Capital บริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) สูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชี้ว่าหุ้นเวียดนามขณะนี้ยังมีราคาถูกมาก เป็นโอกาสที่คุณจะได้ซื้อหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว

‘หุ้นเวียดนาม’ โอกาสที่เคยเกิดขึ้นในไทย

คุณคงเคยได้ยินการวิเคราะห์เชิงลึกและได้ยินประโยคที่จำจนขึ้นใจว่า ‘เวียดนามตอนนี้ก็เหมือนกับไทยก่อนเกิดต้มยำกุ้ง’ แต่ว่าในช่วงนั้นเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไร จะเนื้อหอมเหมือนกับเวียดนามตอนนี้เลยเหรอ

ต้องบอกว่าก่อนปี 2540 ไทยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติได้เป็นกอบเป็นกำ เศรษฐกิจไทยมีเงินไหลเข้ามาปริมาณมหาศาลและมูลค่าสินทรัพย์สะสมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

อัตราการเติบโตของ GDP ไทยในช่วงเวลานั้นก็สูงมาก โดยอยู่ที่ 8-12% ของ GDP จนธนาคารโลกบอกว่าเป็น ‘ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจเอเชีย’ เลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นหลายประเทศในเอเชียก็เจอกับวิกฤตต้มยำกุ้งที่ทำให้การเติบโตหยุดชะงักไปช่วงนึง

แน่นอนว่าเวียดนามก็เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้และมีบทเรียนที่จะพาประเทศให้เติบโตอย่างในปัจจุบัน

GDP ของเวียดนามเติบโตถึง 7.7% ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และในขณะที่หลายประเทศกำลังเจอปัญหาเงินเฟ้อสูง แต่อัตราเงินเฟ้อในเวียดนามกลับอยู่ที่ประมาณ 3% เท่านั้น ทำให้ยังสามารถควบคุมความสมดุลของเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยได้อย่างยืดหยุ่น

หากนำ GDP ของเวียดนามมาเทียบกับไทยตอนนี้จะพบว่า เวียดนามกำลังเร่งเครื่องการเติบโตของเศรษฐกิจเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ GDP เวียดนามอยู่ที่ 362,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ไทยอยู่ที่ 505,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ตามข้อมูลของธนาคารโลก

และด้วยอัตราการเติบโตในปัจจุบัน GDP ของเวียดนามอาจแซง GDP ของไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ และประเทศต่างๆ ก็มองเวียดนามในฐานะตัวแทนของจีนในการตั้งฐานการผลิต ทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศเนื้อหอมที่หลายประเทศจับจองเข้าไปลงทุน ยิ่งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเวียดนามสดใสต่อไปในอนาคต

ในขณะที่ ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงจากผลกระทบระยะสั้น ตลาดหุ้นเวียดนามตอนนี้จึงเป็นเหมือนที่รวบรวม ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ ดังเช่นขนมหวานจานโปรดของนักลงทุนเน้นคุณค่าไว้เยอะมาก

และยิ่งหุ้นเหล่านี้ปรับตัวลดลง ยิ่งทำให้คุณมีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ในการลงทุนมากขึ้นเท่านั้น และนั่นคือเหตุผลที่ทำไม Jitta Ranking เวียดนาม ถึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจสำหรับคุณ

ลงทุนหุ้นมี Margin of Safety ด้วย Jitta Ranking

นโยบาย Jitta Ranking จะใช้ AI ส่องงบการเงินของทุกบริษัทในตลาดหุ้นทุกตัวอย่างละเอียดพร้อมประเมินมูลค่าหุ้นทุกตัว จากนั้นจะคิดคะแนนออกมาเป็น Jitta Score ที่บอกถึงคุณภาพหุ้น และ Jitta Line ที่บอกถึงมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น

ทฤษฎี Margin of Safety ถูกคิดค้นโดยปรมาจารย์ด้านการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่าง Benjamin Graham ผู้เป็นอาจารย์ของ Warren Buffett โดยอธิบายง่ายๆ คือ ยิ่งคุณลงทุนในหุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้การลงทุนของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

หลักการทำงานของ Jitta Ranking ก็จะคล้ายคลึงกับหลักการ Margin of Safety ที่ให้น้ำหนักกับหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า Jitta Line โดยระบบ AI จะประเมินโดยละเอียด หากหุ้นตัวไหนที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมและมีงบการเงินแข็งแกร่ง ก็ยิ่งมีโอกาสที่หุ้นเหล่านั้นจะติดอันดับต้นๆ ใน Jitta Ranking

ยิ่งช่วงนี้ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังผันผวนจากผลกระทบระยะสั้นจนทำให้ราคาหุ้นคุณภาพดีหลายตัวตกลง ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่น่าลงทุนในเวียดนาม เพราะคุณจะได้ลงทุนใน ‘หุ้นดี ราคาถูก’ แบบที่นักลงทุนสายวีไอเฟ้นหามาเป็นเวลานาน

Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม ‘ที่สุดแห่งโอกาส’

Jitta Wealth มีนโยบาย Jitta Ranking ที่ใช้ AI สแกนหุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นอย่างละเอียด และเลือกลงทุนใน ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ แบบ VI ตามสไตล์ Warren Buffett แถมปรับพอร์ตให้คุณโดยอัตโนมัติทุก 3 เดือนอีกด้วย

และข่าวดีที่คุณอาจยังไม่รู้ คือ ตอนนี้คุณสามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศแบบ VI ด้วย AI ได้แล้วด้วยเงินเพียง 500,000 บาทเท่านั้น จากเดิมที่คุณต้องเก็บเงินให้ครบ 1 ล้านบาทถึงจะเป็นเจ้าของพอร์ตหุ้นที่คัดเลือกโดยเทคโนโลยีได้

และเราก็ได้ลดเงินเพิ่มทุนให้เหลือ 50,000 บาทอีก หากคุณมีพอร์ตลงทุน Jitta Ranking เวียดนามอยู่แล้ว ช่วงที่ตลาดหุ้นเวียดนามผันผวนแบบนี้เหมาะกับช้อนซื้อหุ้นเพิ่ม เพราะคุณจะได้หุ้นในจำนวนที่มากขึ้นด้วยเงินเท่าเดิม

หากคุณสนใจลงทุน Jitta Ranking เวียดนาม มองว่าเป็นโอกาสทองในการลงทุนระยะยาว คุณสามารถเข้าไป เปิดบัญชีที่นี่ หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนลงทุน Jitta Ranking เวียดนามได้ ที่นี่

เวียดนามกำลังเป็น ‘ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจเอเชีย’ ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ โอกาสทองนี้กำลังรอให้คุณไขว่คว้าอยู่ตรงหน้า หากไม่ลงทุนตอนนี้ ก็อาจไม่มีโอกาสอีกครั้งแล้ว

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน