Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
blog

AI เลือกประเทศลงทุนแบบ Jitta Ranking Alpha ดีอย่างไร?


All Category Jitta Ranking

ไฮไลต์

  • ตลาดหุ้นแต่ละปีมีทั้งประเทศที่ดัชนีปรับตัวขึ้นโดดเด่นและประเทศที่ดัชนีชะลอตัวลง
  • แต่ Jitta Ranking Alpha ใช้ Alpha AI เลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุดให้
  • วิเคราะห์จาก 2 มิติหลัก ได้แก่ สัดส่วนหุ้นดีราคาถูกในตลาด และแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดตามวัฏจักรเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว
  • เมื่อได้ตลาดหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดแล้ว ระบบจะเลือกหุ้นดีราคาถูกมาจัดพอร์ตให้ พร้อมรีวิวทุก 3 เดือน
  • นักลงทุนไม่ต้องกังวลว่าปีหน้าตลาดไหนจะขึ้น เพราะระบบจะปรับประเทศลงทุนให้อัตโนมัติทุกปี

หากลองสังเกตตลาดหุ้นในภาพรวม แต่ละปีจะมีตลาดหุ้นบางประเทศที่ให้ผลตอบแทนดีมาก และมีบางประเทศที่หยุดชะงัก

ถ้าเราเลือกลงทุนแค่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องเจอทั้งปีที่ดีและปีที่ไม่ดีแน่นอน…

แม้ในระยะยาว ผลตอบแทนจากการลงทุนมักจะเป็นบวก แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเรารู้ว่าปีนี้ประเทศไหนจะมา ปีหน้าประเทศไหนจะโดดเด่น ลงทุนระยะยาวแบบโดนเป้าทุกครั้งที่มีโอกาสเติบโต 

ตอนนี้ Alpha AI ของ Jitta Wealth ทำแบบนั้นได้แล้ว อย่างตอนนี้ที่เลือกลงทุนในตลาดหุ้นจีน ปัจจุบันพอร์ต Jitta Ranking Alpha ทำผลตอบแทนเฉลี่ย +19.14% (ผลตอบแทน YTD ณ วันที่ 21 ก.ย. 68)

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูว่า ให้ AI เลือกประเทศลงทุนแบบ Jitta Ranking Alpha ดีอย่างไร

อยากลงทุนหุ้นนอก แต่ไม่รู้จะลงประเทศไหนดี ให้ Jitta Ranking Alpha เลือกประเทศน่าลงทุนให้ไม่ถึงปี พาพอร์ต +19%

เลือก ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’

หลักการคัดเลือก ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’ ของ Jitta Ranking Alpha ก็คือการวิเคราะห์หาประเทศที่มี ‘หุ้นดีราคาถูก’ จำนวนมาก และตลาดมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้น

เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคล้ายๆ กับหลักการตามหาหุ้น ‘พื้นฐานดี ราคาเหมาะสม แนวโน้มเติบโต’ ของ Jitta Ranking เพียงแต่สเกลใหญ่และซับซ้อนขึ้น โดยแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 มิติ ได้แก่

  1. จำนวน ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในตลาดหุ้น

สัดส่วนของ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในตลาดหุ้น เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกได้ว่า ตลาดนั้นๆ มีคุณภาพแค่ไหน และมีโอกาสสร้างกำไรให้เรามากน้อยเพียงใด ถือเป็นหัวใจของการลงทุนระยะยาวตามหลักการเน้นคุณค่า

หุ้นที่ดี หมายถึง หุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ถ้าตลาดไหนมีหุ้นดีมากกว่าหุ้นไม่ดี ก็แปลว่าตลาดนั้นมีรากฐานการเติบโตมั่นคง และน่าลงทุนกว่า

แต่การดูพื้นฐานอย่างเดียวไม่พอ อย่างที่ Warren Buffett เคยบอกไว้ว่า การลงทุนที่ดี คือการซื้อ ‘ของดี’ ใน ‘ราคาเหมาะสม’ เพราะในระยะยาว พื้นฐานที่ดีจะผลักดันมูลค่าให้เติบโตขึ้นอีกหลายเท่า

ดังนั้น นักลงทุนต้องมองเพิ่มว่า หุ้นพื้นฐานดีที่อยู่ในตลาดนั้นๆ ถูกหรือแพง ถ้าเป็นหุ้นดี แต่แพงมากเกินไป ก็อาจสะท้อนว่า ตลาดร้อนแรงเกินจริง ราคาสูงเกินพื้นฐาน และเสี่ยงจะเกิดฟองสบู่ หากเราลงทุนตอนนั้น ก็มีโอกาสสูงที่จะขาดทุน แม้จะซื้อของดีไว้ก็ตาม

นี่จึงเป็นที่มาของการวิเคราะห์ สัดส่วนหุ้นดีราคาถูก เพื่อประเมินศักยภาพการลงทุนของตลาดหุ้นแต่ละประเทศ (Market Prediction) เพื่อดูว่าในตลาดนั้น หุ้นดีราคาถูกมีสัดส่วนมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีเยอะ ก็แสดงว่าตลาดยังน่าลงทุนและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว

  1. แนวโน้มปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น

ถ้านักลงทุนลดระยะเวลาที่ต้องถือพอร์ต ฝ่าตลาดหุ้นขาลงได้ (Drawdown Period) ก็มีโอกาสทำผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะยาว

จากการวิเคราะห์สถิติย้อนหลัง เราพบว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร ถ้าตลาดหุ้นไหนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้ว โอกาสที่ปีถัดไปจะย่อตัวก็สูง ในทางกลับกัน ถ้าตลาดหุ้นไหนซบเซาหรือเพิ่งผ่านวิกฤติมา โอกาสฟื้นตัวในปีถัดไปก็สูงเช่นกัน

ดังนั้น การดูผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละประเทศ จะช่วยให้เราคาดการณ์ทิศทางในปีถัดไปได้ดีขึ้น และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ก็จะเห็นว่าประเทศไหนมีโอกาสฟื้นตัวแรงที่สุด ซึ่งนั่นคือ ‘จังหวะที่น่าลงทุนที่สุด’

เมื่อรวมปัจจัยทั้งคุณภาพของตลาดหุ้น (พื้นฐานดี ราคาสมเหตุสมผล) เข้ากับการวิเคราะห์จังหวะเวลา นักลงทุนก็จะได้ภาพที่ชัดเจน ว่าควรลงทุนในตลาดไหน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ

เลือกหุ้นดีราคาถูกตามแบบฉบับ Jitta Ranking

เมื่อเลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุดได้แล้ว Jitta Ranking Alpha ก็จะเลือก ‘หุ้นดีราคาถูก’ น่าลงทุน ตามหลักการ Warren Buffett ให้ ตามแบบฉบับของ Jitta Ranking เครื่องมือจัดอันดับหุ้นดีราคาถูกของ Jitta Wealth

โดย Jitta Ranking AI จะจัดอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในตลาดหุ้นที่ถูกคัดเลือก โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คุณภาพของธุรกิจ มูลค่าที่เหมาะสม และโอกาสเติบโตสร้างกำไรของธุรกิจ

จากนั้นระบบจะเลือกหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดตามการจัดอันดับของ Jitta Ranking AI ในวันที่คุณเริ่มลงทุน และต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่อง สามารถซื้อขายได้ มาจัดพอร์ตให้คุณจำนวน 20 หุ้น โดยระบบจะซื้อหุ้นแต่ละตัวในสัดส่วนใกล้เคียงกัน เพื่อกระจายความเสี่ยง 

จากนั้นจะรีวิวหุ้น ปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน นับจากวันที่เริ่มลงทุน โดยซื้อขายหุ้นตาม Jitta Ranking ณ วันที่ปรับพอร์ต หุ้นที่ถืออยู่ หากมีตัวไหนหลุดอันดับต้นๆ ของ Jitta Ranking ไปแล้ว ก็จะขายออกไป ในขณะเดียวกัน ก็จะซื้อหุ้นที่ติดอันดับตัวใหม่เข้ามาแทน 

ส่วนหุ้นที่ยังคงติด Jitta Ranking อยู่ ก็จะซื้อเพิ่มหรือขายออกด้วย เพื่อปรับสัดส่วนหุ้นทุกตัวในพอร์ตให้กลับมาใกล้เคียงกันที่สุดอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ ทุกๆ 3 เดือน

ไม่ต้องกังวลปีต่อไป เพราะ Jitta Ranking Alpha ดูแลให้ครบจบ

หากคุณต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกประเทศอะไรดี หรือกังวลว่า ลงทุนไปแล้ว ปีหน้าสถานการณ์เปลี่ยนแล้วจะเป็นอย่างไร 

Jitta Ranking Alpha ดูแลให้ครบจบ ตั้งแต่เลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุด จาก 4 ตลาดหุ้นหลักของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง จากนั้นจะเลือก ‘หุ้นดีราคาถูก’ ระดับท็อปของตลาดที่น่าลงทุนที่สุด มาจัดพอร์ตให้คุณอีกที 

พร้อมกับคอยปรับพอร์ตหุ้นทุกๆ 3 เดือน และรีวิวปรับประเทศให้คุณทุกปี เพื่อให้คุณได้ลงทุน ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในตลาดหุ้นที่มีโอกาสเติบโตดีที่สุดในแต่ละปี 

พิเศษวันนี้ คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนใน Jitta Ranking Alpha ได้ด้วยเงินเพียง 1 ล้านบาท (จากปกติ 2 ล้านบาท) สิทธิพิเศษนี้เปิดให้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่านั้น

หากสนใจลงทุน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือโทร 02 460 8888

และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย Jitta Ranking Alpha ได้ที่นี่ หรือนัดหมายเวลาที่คุณสะดวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับก็ได้เหมือนกันครับ กด ‘นัดหมายเวลากับเราที่นี่’ ได้เลย