Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
Blog

ลงทุนหุ้นนอก ประเทศไหนน่าสนใจที่สุด?


All Category Jitta Ranking

ไฮไลต์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังทำ New High ต่อเนื่อง แต่ Valuation เริ่มแพง
  • ตลาดหุ้นจีน ราคาหุ้นยังถูกกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี มีสัญญาณฟื้นตัวและแรงหนุนจากภาครัฐ
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ฟื้นตัวจากเงินฝืด ปฏิรูปบรรษัทภิบาล ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แต่ต้องจับตาค่าเงินเยน
  • ตลาดหุ้นฮ่องกง ราคาหุ้นถูกและได้แรงหนุนจากเงินทุนจีน แต่ยังผันผวนสูงและต้องพึ่งพามาตรการจากแผ่นดินใหญ่

การลงทุนหุ้นนอกกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนไทย จากแนวโน้มตลาดโลกในภาพรวมที่ดูจะเติบโตได้ดีช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เกิดเป็นคำถามว่า ‘ประเทศไหนน่าลงทุนที่สุด’

Jitta Wealth จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ของตลาดหุ้นหลักทั้ง 4 ตลาด คือ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง เพื่อเปรียบเทียบความน่าสนใจ พร้อมกับข้อสรุปจาก Alpha AI ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น 

แนวโน้มตลาดหุ้นล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ภาพรวมยังคงเป็นบวก โดยดัชนีทำ New High ได้ต่อเนื่อง แรงหนุนสำคัญมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ในไม่ช้าหลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับมูลค่า (Valuation) ที่ค่อนข้างแพง โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมองหาหุ้นคุณค่า (Value Stocks) หรือหุ้นที่มีงบดุลแข็งแกร่งเพื่อลดความเสี่ยง 

ผลตอบแทน Year to Date ของดัชนี S&P 500 (1 ม.ค. – 22 ส.ค. 68) +10.20% 

ตลาดหุ้นจีน

ราคาหุ้นยังถูกมากเมื่อเทียบกับในอดีต เศรษฐกิจกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว ภาพรวมตลาดเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของกระแสเงินทุนและพฤติกรรมนักลงทุน ประกอบกับสัญญาณสนับสนุนจากภาครัฐ กำลังเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่สร้างแนวโน้มที่ดีให้กับตลาดหุ้นจีน 

แม้จะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันและมีความผันผวน จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล 

ผลตอบแทน Year to Date ของดัชนี CSI 300 (1 ม.ค. – 22 ส.ค. 68) +14.60%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

แนวโน้มดูดีอย่างต่อเนื่อง จากการปฏิรูปบรรษัทภิบาล เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ และการที่เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดได้สำเร็จ นอกจากนี้ การประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนมากของบริษัทจดทะเบียนยังเป็นแรงส่งสำคัญให้ตลาด 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูทิศทางค่าเงินเยน หากค่าเงินเยนกลับทิศทางแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรของบริษัทในกลุ่มส่งออก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด

ผลตอบแทน Year to Date ของดัชนี TOPIX (1 ม.ค. – 22 ส.ค. 68) +12.50%

ตลาดหุ้นฮ่องกง

ทิศทางของตลาดหุ้นฮ่องกงเคลื่อนไหวตามปัจจัยจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก แม้จะมีนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าตลาดมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากเงินทุนของนักลงทุนจีนที่ไหลเข้า และมูลค่าที่ถูกมาก 

แต่ดัชนีมีความผันผวนสูงมากและยังไม่สามารถสร้างแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนและยั่งยืนได้ และยังคงต้องพึ่งพิงมาตรการต่างๆ จากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก

ผลตอบแทน Year to Date ของดัชนี HSI(1 ม.ค. – 22 ส.ค. 68) +29.13% 

4 ตลาดหุ้นหลักของโลก ตลาดไหนน่าเข้า ตลาดไหนควรระวัง ซึ่งจากข้อสรุปต่างๆ AL วิเคราะห์แล้ว จีน น่าลงทุนที่สุดในตอนนี้ เพราะมีสักส่วนหุ้นถูกสูงที่สุด และมีโอกาสฟื้นแรงในปีนี้

ดูสัดส่วน ‘หุ้นถูกแพง’ ด้วย Market Prediction

Market Prediction เป็นการหาสัดส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงจากหุ้นระดับท็อปของตลาดนั้นๆ ซึ่งหากตลาดไหนมีสัดส่วนหุ้นถูกเยอะกว่าก็จะมีโอกาสที่จะเข้าลงทุนแล้วทำผลตอบแทนได้ดีกว่า

ซึ่งปัจจุบันทั้ง 4 ตลาด มีสัดส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงดังนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีหุ้นถูกมากกว่าหุ้นแพง 0.72 เท่า 
  • ตลาดหุ้นจีน มีหุ้นถูกมากกว่าหุ้นแพง 7.33 เท่า
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น มีหุ้นถูกมากกว่าหุ้นแพง 1.27 เท่า
  • ตลาดหุ้นฮ่องกง มีหุ้นถูกมากกว่าหุ้นแพง 1.94 เท่า 

แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นจีน เป็นตลาดที่มีหุ้นคุณภาพดีแต่ราคายังถูกอยู่เยอะ มีโอกาสทำผลตอบแทนที่ดีมากกว่าตลาดอื่นๆ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ส.ค. 68)

Alpha AI เลือกตลาดหุ้นจีน น่าลงทุนที่สุดตอนนี้

จากการวิเคราะห์สัดส่วน ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในแต่ละตลาดเปรียบเทียบร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังของแต่ละตลาดหุ้น ดูวัฏจักรการปรับตัวขึ้นลงของตลาดหุ้นประเทศนั้นๆ ได้คำตอบว่า ตลาดหุ้นจีน มีแนวโน้มและโอกาสลงทุนที่ดี และน่าลงทุนที่สุดตอนนี้

ลงทุนหุ้นนอก แบบอัตโนมัติ กับ Jitta Wealth

หมดปัญหาลงทุนประเทศไหนดี ปีนี้ลงทุนจีน ปีหน้าสถานการณ์เปลี่ยนจะทำอย่างไร เพราะ Jitta Ranking Alpha จัดการให้ครบจบ 

เริ่มจากมี Alpha AI คอยเลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุดจาก 4 ตลาดหุ้นหลักของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง จากนั้น Jitta Ranking AI จะเลือก ‘หุ้นดีราคาถูก’ ระดับท็อปของตลาดมาจัดพอร์ตให้คุณอีกที 

พร้อมกับคอยปรับพอร์ตหุ้นทุกๆ 3 เดือน และรีวิวปรับประเทศให้คุณทุกปี เพื่อให้คุณได้ลงทุน ‘หุ้นดีราคาถูก’ ในตลาดหุ้นที่มีโอกาสเติบโตดีที่สุดในแต่ละปี (อ่านนโยบายการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่)

หรือหากคุณอยากเลือกตลาดหุ้นเอง แล้วค่อยให้ Jitta Ranking เลือกหุ้นดีราคาถูก พร้อมปรับพอร์ตหุ้นอัตโนมัติให้ ก็สามารถเลือกลงทุนได้ในนโยบาย Jitta Ranking ที่มีให้คุณเลือกถึง 6 ตลาด 9 แผนการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้นสหรัฐฯ หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หุ้นสุขภาพสหรัฐฯ หุ้นจีน หุ้นเทคโนโลยีจีน หุ้นเวียดนาม หุ้นญี่ปุ่น หุ้นฮ่องกง และหุ้นไทย

สนใจการลงทุนสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย