ความเสี่ยงที่นักลงทุนหุ้นจีนมักมองข้าม และวิธีรับมืออย่างมืออาชีพ
ไฮไลต์
- แม้ หุ้นจีน จะเต็มไปด้วยโอกาสการเติบโตจากเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก แต่ก็มี ‘ความเสี่ยงเฉพาะตัว’ ที่นักลงทุนมักมองข้าม
- ความเสี่ยงหลักของตลาดหุ้นจีน ได้แก่ นโยบายภาครัฐที่เปลี่ยนเร็ว ค่าเงินหยวนผันผวน และ ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- กลุ่มเทคโนโลยีจีน เช่น Alibaba Tencent และ Baidu แม้น่าสนใจ แต่มีความผันผวนสูงและต้องเข้าใจธรรมาภิบาลของบริษัทก่อนลงทุน
- นักลงทุนไทยสามารถรับมือความเสี่ยงหุ้นจีนได้ด้วยการ กระจายพอร์ตผ่าน ETF หุ้นจีน, ลงทุนแบบ DCA ระยะยาว, และ ติดตามข่าวเศรษฐกิจจีนสม่ำเสมอ
- การเข้าใจความเสี่ยงและวางแผนบริหารอย่างเป็นระบบ คือก้าวแรกของการลงทุนหุ้นจีนอย่างมั่นคงในระยะยาว
เมื่อพูดถึง ‘หุ้นจีน’ สิ่งแรกที่หลายคนมองเห็นคือ ‘โอกาส’ เศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก บริษัทระดับโลกอย่าง Alibaba หรือ Tencent และการเติบโตในกลุ่มพลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ AI
แต่สิ่งที่นักลงทุนจำนวนไม่น้อย มองข้ามไป คือ ‘ความเสี่ยงเฉพาะตัว’ ของตลาดจีน ซึ่งแตกต่างจากตลาดสหรัฐฯ หรือยุโรปโดยสิ้นเชิง
การเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้คือ ‘หัวใจสำคัญ’ ของการลงทุนหุ้นจีนอย่างยั่งยืน
นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นโอกาสของหุ้นจีน แต่กลับมองข้ามความเสี่ยง
ตลาดหุ้นจีนมีจุดแข็งมากมาย แต่ก็มีปัจจัยเฉพาะตัวที่อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนกว่าที่คิด เช่น การแทรกแซงของภาครัฐ ความผันผวนค่าเงิน หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นักลงทุนมืออาชีพมักพูดว่า “ในตลาดจีน โอกาสมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ”
การรู้ก่อน เตรียมก่อน และรับมือให้ถูกจังหวะ จะช่วยให้คุณ ‘อยู่ในตลาดได้ยาวกว่า’
ความเสี่ยงหลักของตลาดหุ้นจีนที่ควรรู้
1. ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาครัฐ
รัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในทิศทางของธุรกิจและตลาดทุน ในบางช่วง รัฐอาจออกนโยบายจำกัดหรือควบคุมบริษัทเอกชน เช่น กลุ่มเทคโนโลยีหรือการศึกษา
ตัวอย่างเช่น ปี 2021 รัฐบาลจีนจำกัดธุรกิจสอนพิเศษ ทำให้มูลค่าหุ้นหลายบริษัทหายไปกว่า 70%
วิธีรับมือ: กระจายพอร์ตลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และไม่ถือหุ้นจีนรายตัวในสัดส่วนสูงเกินไป
2. ความผันผวนของค่าเงินหยวน (CNY)
นักลงทุนไทยที่ลงทุนในหุ้นจีน จะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเมื่อค่าเงินหยวนอ่อนลง ผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทจะลดลง
วิธีรับมือ: ใช้กองทุนหรือ ETF ที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging) เช่น ‘Hedged Class’ ของกองทุนหุ้นจีน
3. ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไต้หวัน หรือยุโรป มักส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดจีนโดยตรง สงครามการค้า การคว่ำบาตร หรือการจำกัดเทคโนโลยี อาจกระทบต่อบริษัทจีนระดับโลก
วิธีรับมือ: จำกัดสัดส่วนการลงทุนในจีน และกระจายการลงทุนไปยัง ETF ของประเทศอื่น หรือ ETF ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets ETF) ที่ ไม่รวมจีน (Ex-China) หรือ ETF ทั่วโลก (Global ETF) เพื่อให้เงินส่วนใหญ่ของคุณไปอยู่ในประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงของจีนโดยตรง
4. ความโปร่งใสของข้อมูลและธรรมาภิบาล
บางบริษัทจีนยังมีปัญหาความโปร่งใสของข้อมูลทางบัญชี หรือมีข้อจำกัดในการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นต่างชาติ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศต้องใช้ข้อมูลรองจากแหล่งที่สาม
วิธีรับมือ: ลงทุนในกองทุนหรือ ETF ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ เช่น BlackRock Vanguard หรือกองทุนไทยที่อิง ETF ต่างประเทศ
5. ความผันผวนสูงของกลุ่มเทคโนโลยีจีน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีน เช่น Alibaba Tencent หรือ Baidu เป็นต้น มักมีความผันผวนสูง เพราะได้รับผลกระทบจากทั้งนโยบายรัฐ และความคาดหวังของนักลงทุนทั่วโลก
วิธีรับมือ: ลงทุนแบบ DCA (ถัวเฉลี่ยต้นทุน) เพื่อรับมือความผันผวน และลดความเสี่ยงจากการเข้าผิดจังหวะ

วิธีรับมือความเสี่ยงของหุ้นจีนอย่างมีระบบ
กระจายการลงทุนด้วย ETF หุ้นจีน
ETF หุ้นจีนช่วยให้คุณลงทุนในหลายบริษัทในพอร์ตเดียว ลดความเสี่ยงจากหุ้นรายตัว และช่วยกระจายอุตสาหกรรมได้ดี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากถือหุ้นจีนระยะยาว
ลงทุนระยะยาวแบบ DCA ลดผลกระทบจากจังหวะตลาด
ตลาดหุ้นจีนอาจเหวี่ยงแรงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังมีแนวโน้มเติบโตตามเศรษฐกิจ การ DCA เดือนละเท่ากันจะช่วยเฉลี่ยต้นทุนและลดความเครียดจากความผันผวน
ติดตามข่าวสารและปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ
ตลาดจีนมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว การติดตามข่าวเศรษฐกิจจีนจากสื่อเชื่อถือได้ ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ทันเวลา และควรรีวิวพอร์ตทุก 3-6 เดือน เพื่อปรับสัดส่วนให้เหมาะกับเป้าหมาย
บทสรุป: เข้าใจความเสี่ยง คือหัวใจของการลงทุนอย่างมั่นคง
การลงทุนในหุ้นจีน มีทั้ง ‘โอกาสมหาศาล’ และ ‘ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ’ แต่ถ้าคุณรู้เท่าทัน ปรับพอร์ตอย่างมีระบบ และไม่หวั่นต่อความผันผวน ตลาดหุ้นจีนก็สามารถเป็น ‘หนึ่งในเสาหลักของพอร์ตการลงทุนระยะยาว’ ได้อย่างมั่นคง
Jitta Wealth อีกทางเลือกลงทุนหุ้นจีนแบบสะดวกที่สุด
ด้วยนโยบาย Jitta Ranking หุ้นจีน คุณไม่ต้องรู้ภาษาจีน ไม่ต้องเสียเวลาอ่านงบการเงินและวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง เพียงเปิดบัญชีกับ Jitta Wealth ที่เหลือเทคโนโลยีของเราจัดการให้หมด ทั้ง ‘หาหุ้นดีราคาถูก’ จัดการเอกสารลงทุนต่างประเทศ แลกเปลี่ยนเงินตรา ซื้อขายหุ้นตามหลักการ
ให้คุณได้ลงทุนในหุ้น A-shares ในตลาดเซี่ยงไฮ้ (SSE) และเซินเจิ้น (SZSE) ของจีน ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลายมากที่สุดได้อย่างง่ายที่สุด
หรือหากจะลงทุน ETF ก็สามารถเลือก ETF หุ้นจีน ที่มีทั้งธีมตลาดหุ้นจีน รวมถึง ETF ธีมจีนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีจีน พลังงานสะอาดจีน หรือบริการสุขภาพจีน ได้ในนโยบาย Thematic DIY
สนใจลงทุนติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย