ซื้อหุ้นจีนผ่าน DR หรือ ETF อันไหนดีกว่าสำหรับคนไทย
ไฮไลต์
- ซื้อหุ้นจีนได้ทั้งผ่าน DR หุ้นจีน และ ETF หุ้นจีน
- DR เหมาะกับมือใหม่ เริ่มง่ายในตลาดไทย
- ETF หุ้นจีน เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายพอร์ตและเติบโตระยะยาว
- ทั้งสองทางเลือกช่วยให้คนไทยเข้าถึง ตลาดหุ้นจีน ได้สะดวก ปลอดภัย และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี
อยากลงทุน ‘หุ้นจีน’ แต่ไม่แน่ใจจะเริ่มจากตรงไหนดี? คำถามที่นักลงทุนมือใหม่ชาวไทยมักเจอบ่อยคือ “ซื้อหุ้นจีนผ่าน DR กับ ETF แบบไหนดีกว่ากัน?”
ทั้งสองแบบต่างก็เป็นประตูให้คนไทยเข้าถึงตลาดหุ้นจีนได้ง่ายขึ้น แต่ละแบบมี ข้อดี-ข้อจำกัด และ เหมาะกับคนละสไตล์การลงทุน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจนว่า แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
รู้จักหุ้นจีนก่อนเลือกวิธีลงทุน
ตลาด หุ้นจีน เป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยบริษัทหลากหลายตั้งแต่เทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Alibaba Tencent และ Baidu ไปจนถึงบริษัทด้านพลังงานสะอาดและบริโภคภายในประเทศ เช่น BYD และ Kweichow Moutai ซึ่งเป็นชื่อที่นักลงทุนไทยคุ้นเคย
(รู้จักตลาดหุ้นจีนมากขึ้นในบทความ: หุ้นจีนวันนี้น่าลงทุนไหม? เจาะลึกตลาดหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของโลก)
แต่สำหรับนักลงทุนไทย การจะลงทุนโดยตรงในตลาดจีน (A-Shares หรือ H-Shares) อาจซับซ้อนและมีข้อจำกัดเรื่องบัญชีซื้อขายต่างประเทศ จึงเกิดเครื่องมือทางเลือกอย่าง DR และ ETF หุ้นจีน ขึ้นมา
DR คืออะไร? ซื้อหุ้นจีนผ่าน DR ดีไหม
DR (Depositary Receipt) คือ ตราสารแสดงสิทธิ์ในหุ้นต่างประเทศ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พูดง่าย ๆ คือ ซื้อตราสารในไทย แต่ได้สิทธิ์เหมือนถือหุ้นต่างประเทศจริง
ตัวอย่าง DR หุ้นจีน ที่ซื้อขายในไทย เช่น
- CSPRC01: คือ DR ที่อ้างอิงหุ้น China Petroleum & Chemical Corporation (Sinopec) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง (HKEX)
- XIAOMI01: คือ DR ที่อ้างอิงหุ้น Xiaomi Corporation ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง (HKEX)
- BABA80: คือ DR ที่อ้างอิงหุ้น Alibaba Group Holding ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง (HKEX)
ข้อดีของ DR หุ้นจีน:
- ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ผ่านโบรกเกอร์
- ไม่ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ
- ใช้เงินบาทซื้อขายได้โดยตรง
ข้อจำกัดของ DR:
- มีหุ้นให้เลือกน้อย (เฉพาะบริษัทใหญ่ที่ออก DR ในไทย)
- ขึ้นอยู่กับผู้ออก DR ในการแปลงสิทธิ์และคำนวณราคา
- สภาพคล่อง (Volume ซื้อขาย) ยังน้อยกว่าตลาดหลัก
ETF หุ้นจีนคืออะไร ทำไมถึงเป็นทางเลือกยอดนิยม
ETF (Exchange-Traded Fund) คือกองทุนรวมที่ซื้อขายในตลาดหุ้น ซึ่งรวม ‘หุ้นหลายตัว’ ไว้ในพอร์ตเดียว คล้ายซื้อทั้งตลาดในครั้งเดียว
ตัวอย่าง ETF หุ้นจีนยอดนิยม:
- MCHI (iShares MSCI China ETF): รวมหุ้นจีนชั้นนำกว่า 600 บริษัท
- KWEB (KraneShares CSI China Internet ETF): เน้นกลุ่มเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตจีน
- ASHR (Xtrackers Harvest CSI 300 ETF): ลงทุนในหุ้น A-Shares (จีนแผ่นดินใหญ่)
ข้อดีของ ETF หุ้นจีน:
- กระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า (มีหลายบริษัทในพอร์ตเดียว)
- ลงทุนในหุ้นจีนได้หลากหลายอุตสาหกรรม
- มีทั้งแบบลงทุนผ่านกองทุนไทย หรือเทรดตรงในต่างประเทศ
- เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการเติบโตตามเศรษฐกิจจีน
ข้อจำกัดของ ETF:
- ต้องเปิดบัญชีลงทุนต่างประเทศ หรือซื้อผ่านกองทุนไทยที่อิง ETF
- มีความผันผวนตามตลาดโลก
เปรียบเทียบ DR vs ETF หุ้นจีน แบบเข้าใจง่าย
| รายการเปรียบเทียบ | DR หุ้นจีน | ETF หุ้นจีน |
| ลักษณะการลงทุน | ลงทุนในหุ้นจีนรายตัว (ผ่านตราสาร DR) | ลงทุนในหุ้นจีนหลายตัวในพอร์ตเดียว |
| ตลาดที่ซื้อขาย | ตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) | ตลาดหุ้นต่างประเทศ หรือผ่านกองทุนในไทย |
| เงินลงทุนขั้นต่ำ | เริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยบาท | เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักพันบาท |
| ความเสี่ยง | ขึ้นอยู่กับหุ้นรายตัว | กระจายความเสี่ยงในหลายบริษัท |
| ความสะดวก | ใช้บัญชีเทรดหุ้นไทยได้เลย | ต้องผ่านกองทุนไทยหรือบัญชีต่างประเทศ |
| เหมาะกับใคร | นักลงทุนมือใหม่ที่อยากลองถือหุ้นจีน | นักลงทุนระยะยาวที่เน้นเติบโตและกระจายพอร์ต |
แล้วคนไทยเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน?
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นลงทุนในหุ้นจีน DR หุ้นจีน อาจเป็นทางเลือกที่ดีเพราะเข้าถึงง่าย ไม่ต้องโอนเงินข้ามประเทศ
แต่ถ้าคุณต้องการ การกระจายความเสี่ยง และการเติบโตในระยะยาว ETF หุ้นจีน จะตอบโจทย์กว่า เพราะถือหุ้นจีนหลายบริษัทในพอร์ตเดียว
หลายคนเริ่มจาก DR เพื่อเรียนรู้ตลาด แล้วค่อยต่อยอดไป ETF หุ้นจีน เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น หรือถ้าอยากต้องการเริ่มลงทุนหุ้นจีนแต่มีงบจำกัด อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ: เริ่มลงทุนหุ้นจีนเงินน้อย ทำอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
สรุป: ลงทุนหุ้นจีนแบบไหนให้คุ้มค่าและเหมาะกับตัวเอง
ถ้าคุณอยากเริ่มง่าย ใช้เงินบาทเทรดได้เลยให้เริ่มจาก DR หุ้นจีน แต่ถ้าคุณอยากเติบโตตามเศรษฐกิจจีนสามารถลงทุนผ่าน ETF หุ้นจีน
แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน สิ่งสำคัญคือ ‘เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน’ และ ‘ลงทุนอย่างสม่ำเสมอระยะยาว’ ก็จะช่วยให้คุณคว้าโอกาสได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
Jitta Wealth อีกทางเลือกลงทุนหุ้นจีนแบบสะดวกที่สุด
ด้วยนโยบาย Jitta Ranking หุ้นจีน คุณไม่ต้องรู้ภาษาจีน ไม่ต้องเสียเวลาอ่านงบการเงินและวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง เพียงเปิดบัญชีกับ Jitta Wealth ที่เหลือเทคโนโลยีของเราจัดการให้หมด ทั้ง ‘หาหุ้นดีราคาถูก’ จัดการเอกสารลงทุนต่างประเทศ แลกเปลี่ยนเงินตรา ซื้อขายหุ้นตามหลักการ
ให้คุณได้ลงทุนในหุ้น A-shares ในตลาดเซี่ยงไฮ้ (SSE) และเซินเจิ้น (SZSE) ของจีน ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลายมากที่สุดได้อย่างง่ายที่สุด
หรือหากจะลงทุน ETF ก็สามารถเลือก ETF หุ้นจีน ที่มีทั้งธีมตลาดหุ้นจีน รวมถึง ETF ธีมจีนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีจีน พลังงานสะอาดจีน หรือบริการสุขภาพจีน ได้ในนโยบาย Thematic DIY
สนใจลงทุนติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย