ลงทุนอัตโนมัติดียังไง? 5 เหตุผลที่นักลงทุนไม่ควรพลาด

ไฮไลต์
- ตลาดการเงินผันผวนและชีวิตยุคใหม่ที่เร่งรีบ ทำให้หลายคนไม่มีเวลาหรือความมั่นใจในการลงทุนเอง
- การลงทุนอัตโนมัติช่วยจัดการพอร์ตแทนคุณ ด้วยระบบที่โปร่งใสและเป็นไปตามหลักการลงทุนระยะยาว
- นักลงทุนยุคใหม่เลือกเพราะได้ทั้งการกระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ การลงทุนสม่ำเสมอ และประหยัดเวลา
- ปัจจุบัน ‘การลงทุนอัตโนมัติ’ กลายเป็นเทรนด์ที่ไม่ควรมองข้าม
ในยุคที่ตลาดการเงินเต็มไปด้วยความผันผวน ชีวิตคนทำงานก็เร่งรีบเกินกว่าจะมานั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน ‘การลงทุนอัตโนมัติ’ กลายเป็นคำตอบใหม่ที่ช่วยให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ สามารถบริหารเงินได้อย่างมีระบบ มีวินัย และมั่นใจในระยะยาว
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 เหตุผลที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามการลงทุนอัตโนมัติ และทำไมมันถึงกลายเป็นเทรนด์สำคัญของนักลงทุนยุคใหม่
1 ตัดอารมณ์ออกจากการลงทุน
นักลงทุนส่วนใหญ่พลาดเพราะ ‘ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล’ ไม่ว่าจะเป็นความโลภที่อยากได้กำไรเร็ว หรือความกลัวจนรีบขายทิ้งเวลาตลาดผันผวน
ต่างจากการลงทุนอัตโนมัติที่ใช้ อัลกอริทึมและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน แทนการตัดสินใจด้วยอารมณ์ ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง ระบบก็จะปรับพอร์ตตามแผนที่วางไว้ เช่น การ Rebalance หรือการจัดน้ำหนักสินทรัพย์ตามเป้าหมาย
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วง Covid-19 ตลาดหุ้นทั่วโลกตกฮวบ นักลงทุนจำนวนมากขายทิ้ง แต่คนที่ใช้ระบบอัตโนมัติกลับได้ซื้อในราคาถูกและฟื้นตัวเร็วกว่ามาก
2 กระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ
‘อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าเดียว’ คือหลักการที่ทุกคนรู้ แต่ทำจริงกลับยาก เพราะการเลือกหุ้นหรือกองทุนที่หลากหลายต้องใช้เวลาและความรู้มหาศาล
ระบบลงทุนอัตโนมัติแก้ปัญหานี้โดยการจัดพอร์ตให้กระจายไปยัง หลายสินทรัพย์ หลายภูมิภาค เช่น หุ้นสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ทองคำ และตราสารหนี้ ผ่านเครื่องมืออย่าง ETF ที่ต้นทุนต่ำ โดยลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมซึ่งเป็นเรื่องยาก หากจะต้องมานั่งคำนวณซื้อขายให้ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ
ผลลัพธ์คือ พอร์ตของคุณจะไม่ขึ้นอยู่กับตลาดใดตลาดหนึ่งเกินไป ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสการเติบโตระยะยาว
3 ประหยัดเวลา
ชีวิตประจำวันของนักลงทุนยุคใหม่เต็มไปด้วยงาน ประชุม และกิจกรรมส่วนตัว แทบไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอติดตามราคาหุ้นทุกนาที
การลงทุนอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาได้มาก เพราะระบบจะทำทุกอย่างแทนคุณ ตั้งแต่การซื้อ-ขาย ปรับพอร์ต ไปจนถึงรายงานผลการลงทุน ทำให้นักลงทุนสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่า ทั้งงาน ครอบครัว และการพัฒนาตัวเอง
คุณไม่จำเป็นต้องเป็น ‘นักเทรดเต็มเวลา’ ก็สามารถเป็น ‘นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ’ ได้
4 ลงทุนสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งจุดแข็งของการลงทุนอัตโนมัติคือระบบเพิ่มทุนอัตโนมัติ ตัวช่วย DCA (Dollar-cost Averaging) ที่ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนเป็นประจำทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ
เพียงแค่ผูกบัญชีไว้ ระบบก็จะตัดเงินไปลงทุนให้อัตโนมัติตรงตามเวลาที่คุณตั้งค่าไว้
ข้อดีคือ คุณไม่ต้องกังวลว่าจะซื้อแพงหรือถูก เพราะการลงทุนต่อเนื่องจะช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนไปเรื่อยๆ และทำให้เงินทำงานตลอดเวลา แม้ในช่วงตลาดตกการ DCA ก็จะช่วยให้พอร์ตฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเมื่อตลาดกลับตัว
นอกจากนี้ การลงทุนสม่ำเสมอยังช่วยสร้างความมั่นใจว่า ต่อให้ตลาดผันผวน คุณก็ยังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้ตามแผน
5 สร้างวินัยการเงินระยะยาว
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่แยก ‘นักลงทุนที่สำเร็จ’ ออกจากคนที่ล้มเหลวไม่ใช่แค่ผลตอบแทน แต่คือ วินัย ในการลงทุน
ระบบอัตโนมัติทำให้คุณ รักษาวินัยและลงทุนระยะยาวได้โดยไม่ต้องพยายาม เพราะทุกอย่างถูกตั้งค่าไว้ล่วงหน้า ทั้งการลงทุนเป็นประจำ การปรับพอร์ต และการกระจายความเสี่ยง สิ่งเหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ การศึกษาลูก หรือการเกษียณก่อนวัย

Jitta Wealth ตัวช่วยลงทุนอัตโนมัติ
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้การลงทุนอัตโนมัติกลายเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนยุคใหม่ให้ความสนใจ และถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่ครบเครื่องทั้งเรื่องระบบที่แม่นยำ ความโปร่งใส และความสะดวกสบาย Jitta Wealth คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยคุณสมบัติ:
- ลงทุนตามระบบ: ใช้ AI และอัลกอริทึมจัดการพอร์ต ลดอารมณ์ออกจากการลงทุน
- กระจายความเสี่ยง: แต่ละนโยบาย ระบบจะจัดการซื้อสินทรัพย์ ลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ
- สะดวกและประหยัดเวลา: เพียงสมัคร และเลือกนโยบายที่ต้องการลงทุน ที่เหลือระบบจะจัดการให้อัตโนมัติ
- ลงทุนสม่ำเสมอ: Jitta Wealth มีระบบ เพิ่มทุนอัตโนมัติ (DCA) ที่จะช่วยคุณรักษาวินัยให้สามารถ DCA ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- สร้างวินัยระยะยาว: ด้วยระบบปรับพอร์ตอัตโนมัติ คุณสามารถลงทุนระยะยาวได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยมาคอยติดตามตลาดด้วยตัวเอง
หากสนใจลงทุนสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย