Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
blog

สรุปรวมนโยบายลงทุน Jitta Wealth เลือกแบบไหนที่ตรงใจ ปี 2568


All Category Jitta Wealth

คุณกำลังหาโอกาสลงทุนต่างประเทศอยู่หรือเปล่า และพอเจอทางเลือกการลงทุนแล้ว คุณยังมีความรู้สึกไม่แน่ใจว่า จะเลือกพอร์ตลงทุนแบบไหนที่ตรงใจหรือตรงจริตคุณ

กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth เป็นทางเลือกในการลงทุน มีพอร์ตลงทุนให้คุณเลือกหลายรูปแบบ ทั้งหุ้นรายตัว ETF และ กองทุนรวม แต่ข้อมูลที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจก็มีมากมาย อยากให้สรุปแบบรวบตึง…เพื่อตัดสินใจเริ่มลงทุนได้ง่าย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักพอร์ตลงทุนทุกรูปแบบ ไฮไลต์หลักการลงทุน ลักษณะสินทรัพย์ และระดับความเสี่ยง รวมไปถึงสรุปให้ว่า คุณเหมาะกับพอร์ตลงทุนรูปแบบไหน

Jitta Wealth บริหารกองทุนส่วนบุคคลผ่านสินทรัพย์อะไร

สินทรัพย์ทางการเงินที่ Jitta Wealth เลือกจัดพอร์ตกองทุนส่วนบุคคล แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กองทุนรวม ETF และหุ้น

  1. กองทุนรวม คือการระดมเงินทุนจากนักลงทุนจำนวนมากมารวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ แล้วมอบหมายให้ ‘ผู้จัดการกองทุน’ ที่เป็นมืออาชีพนำเงินไปบริหารจัดการลงทุนตามนโยบายที่กำหนดไว้ โดยนักลงทุนจะซื้อหรือขายหน่วยลงทุนผ่าน บลจ. หรือตัวแทนจำหน่าย มีระดับความเสี่ยงตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูง ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่กองทุนบริหาร
  2. ETF หรือ Exchange Traded Fund อยู่ในรูปแบบของกองทุน ซื้อขายในตลาดหุ้น เสมือนหุ้นบริษัท ราคาเคลื่อนไหวแบบ Real-time โดย ETF จะกระจายความเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลาย ตามนโยบายของบริษัทจัดการลงทุนที่ออก ETF มีระดับความเสี่ยงตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูง เช่น ETF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลจะมีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่ ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้น หรือหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม หรือธีมธุรกิจจะมีความเสี่ยงสูง
  3. หุ้น หรือหุ้นสามัญ หมายถึง บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น การลงทุนใน 1 บริษัท คุณได้ความเป็นเจ้าของบริษัทตามสัดส่วนหุ้นที่ถือครอง แต่เป็นการลงทุนในบริษัทเดียว ไม่มีการกระจายความเสี่ยง หากไม่ได้ลงทุนหุ้นบริษัทอื่นๆ ด้วย จึงมีความเสี่ยงที่สูง

ทั้งหมดเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีการกำกับดูแลผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของไทย หรือต่างประเทศ ดังนั้นสินทรัพย์เหล่านี้จึงมีความน่าเชื่อถือและสามารถลงทุนได้

เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยง

เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่า Jitta Wealth บริหารกองทุนส่วนบุคคลผ่านสินทรัพย์ทางการเงินอะไรบ้าง ก่อนจะเริ่มต้นลงทุน คุณควรรู้จักตัวเองก่อน ว่าคุณสนใจลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้หรือไม่ หรือคุณต้องการพอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเงินฝากหรือไม่ 

ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน สำหรับการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล คือ คุณควรมีเงินก้อนที่ไม่ต้องการรีบใช้หรือเป็นเงินเย็น เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงและมีโอกาสขาดทุนได้ตลอดเวลา หากเป็นเงินเก็บก้อนเดียวที่มี แล้วอยู่ในช่วงที่มีความผันผวน คุณอาจจะรู้สึกไม่สบายใจได้

ระดับความเสี่ยงหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ต่ำ กลาง และสูง 

ความเสี่ยงต่ำ (Conservative): เหมาะกับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย มุ่งหวังให้เงินลงทุนปลอดภัย

ความเสี่ยงปานกลาง (Moderate): เหมาะกับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลาง มุ่งหวังให้เงินลงทุนบางส่วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ความเสี่ยงสูง (Aggressive): เหมาะกับคนที่ยอมรับความผันผวนได้สูง มุ่งหวังผลตอบแทนสูงมาก และโอกาสที่เงินลงทุนเติบโตสูงในอนาคต

ที่มา: ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน และ Vanguard

พอร์ตที่ลงทุนในกองทุนรวม 

นโยบาย Omni Fund 

พอร์ตลงทุนอัตโนมัติทั่วโลก ผ่านกองทุนรวมคุณภาพ กระจายความเสี่ยงลงทุนทั่วโลกทั้งหุ้น และตราสารหนี้ จัดพอร์ตตามทฤษฎีรางวัลโนเบลอย่าง Modern Portfolio Theory พร้อมดูแลปรับพอร์ตให้อัตโนมัติตลอดเส้นทางการลงทุน มีให้เลือกทั้งหมด 3 แผนลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้

ระดับความเสี่ยง: ต่ำ-สูง (ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนที่เลือก)

เหมาะสำหรับ: นักลงทุนมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุนแบบมืออาชีพ ด้วยทุนเพียง 1,000 บาท หรือนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงทั่วโลก DCA สร้างพอร์ตเติบโตระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีลงทุนต่างประเทศ 

Omni Fund มีให้เลือก 3 แผนการลงทุนดังนี้

แผนลงทุน พอเพียงสมดุลเติบโต
สัดส่วนหุ้น : ตราสารหนี้ 20:8050:5080:20
ระดับความเสี่ยงต่ำปานกลางสูง
ผลตอบแทนคาดหวัง (ต่อปี) 3%5%7%
ผลตอบแทนย้อนหลัง Back Test 10 ปี 
(ปี 2558-2567)
32.45%66.32%112.89%
โอกาสขาดทุนสูงสุด-5.45%-13.38%-21.10%
เงินลงทุนเริ่มต้น1,000 บาท
เพิ่มทุนขั้นต่ำ1,000 บาท

พอร์ตที่ลงทุนใน ETF 

นโยบาย Jitta Money 

พอร์ตลงทุนอัตโนมัติใน Money Market โดยกระจายความเสี่ยงลงทุนใน ETF ตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น 2 กอง ในสัดส่วนที่เท่ากัน พร้อมปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนอัตโนมัติ

ระดับความเสี่ยง: ต่ำ

เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ต้องการบริหารสภาพคล่องของเงินลงทุน ได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธรรมดา หรือต้องการพักเงิน สะสมเงินลงทุนสำหรับลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากขึ้นในอนาคต

  • ผลตอบแทนล่าสุด +3.45% ต่อปี (ผลตอบแทนของ Jitta Money คำนวณจาก 30-Day SEC Yield หลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆ ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2568)  
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 10,000 บาท เพิ่มทุนครั้งละ 1,000 บาท

นโยบาย Global ETF

พอร์ตลงทุนอัตโนมัติทั่วโลก ผ่าน ETF ชั้นนำ กระจายความเสี่ยงลงทุนทั่วโลกทั้งหุ้น และตราสารหนี้ จัดพอร์ตตามทฤษฎีรางวัลโนเบลอย่าง Modern Portfolio Theory พร้อมดูแลปรับพอร์ตให้อัตโนมัติตลอดเส้นทางการลงทุน มีให้เลือกทั้งหมด 3 แผนลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้

ระดับความเสี่ยง: ต่ำ-สูง (ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนที่เลือก)

เหมาะสำหรับ: นักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างมีหลักการ หรือนักลงทุนที่ต้องการพอร์ตกระจายความเสี่ยงครอบคลุมตลาดหุ้นชั้นนำทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว หรือตลาดเกิดใหม่ พร้อมกับตราสารหนี้สหรัฐฯ ในสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับการ DCA สร้างพอร์ตเติบโตระยะยาว

Global ETF มีให้เลือก 3 แผนการลงทุนดังนี้

แผนลงทุน พอเพียงสมดุลเติบโต
สัดส่วนหุ้น : ตราสารหนี้ 20:8050:5080:20
ระดับความเสี่ยงต่ำปานกลางสูง
ผลตอบแทนคาดหวัง (ต่อปี)4%6%8%
ผลตอบแทนย้อนหลัง Back Test 10 ปี 
(ปี 2558-2567)
32.65%78.66%119.05%
โอกาสขาดทุนสูงสุด-19.36%-23.65%-29.24%
เงินลงทุนเริ่มต้น10,000 บาท
เพิ่มทุนขั้นต่ำ1,000 บาท

นโยบาย Thematic 

พอร์ตลงทุนในหุ้นธีมเมกะเทรนด์ทั่วโลกที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว ผ่าน ETF ชั้นนำที่คัดสรรมาให้เลือกจัดพอร์ตกว่า 27 ธีมการลงทุน

ระดับความเสี่ยง: สูง

เหมาะสำหรับ: เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ต้องการลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์อนาคตไกล คาดหวังการเติบโตระยะยาว 

Thematic มีให้เลือก 2 แผนการลงทุนดังนี้

Thematic OptimizeThematic DIY
จุดเด่น AI ช่วยคัดเลือก 4 ธีมมาจัดพอร์ต พร้อมปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนอัตโนมัติ และรีวิวปรับเปลี่ยนธีมทุก 3 เดือน เลือกธีมและปรับเปลี่ยนที่ชื่นชอบด้วยตัวเอง  สูงสุด 5 ธีม พร้อมระบบปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนอัตโนมัติ 
ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย Back Test (ปี 2561-2567)23.20% ต่อปีขึ้นอยู่กับธีมที่เลือก
โอกาสขาดทุนสูงสุด-32.73%ขึ้นอยู่กับธีมที่เลือก
เงินลงทุนเริ่มต้น10,000 บาท
เพิ่มทุนขั้นต่ำ1,000 บาท

พอร์ตที่ลงทุนในหุ้นรายตัว

นโยบาย Jitta Ranking

พอร์ตลงทุนหุ้นรายตัวตามหลักการของ Warren Buffett คือ ‘ลงทุนในบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม’ โดยมี Jitta Ranking AI คัดเลือกหุ้นดีราคาเหมาะสมมาจัดพอร์ตให้ 5-20 หุ้น พร้อมคอยปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน 

สามารถเลือกลงทุนตลาดหุ้นแต่ละประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ฮ่องกง และไทย

หรือเลือกลงทุนในตลาดหุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ เทคโนโลยีสหรัฐฯ เทคโนโลยีจีน สุขภาพสหรัฐฯ

ระดับความเสี่ยง: สูงมาก

เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ต้องการลงทุนในหุ้นรายตัวตามประเทศที่ตัวเองสนใจ คาดหวังผลตอบแทนสูงในระยะยาว

  • ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย Back Test (ปี 2558-2567) เฉลี่ย  +7.85 ถึง +24.89% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือกลงทุน)
  • โอกาสขาดทุนสูงสุดประมาณ -34 ถึง -54% (แล้วแต่แผนที่เลือกลงทุน)
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท เพิ่มทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท

นโยบาย Jitta Ranking Alpha

พอร์ตลงทุนในหุ้นรายตัว โดยมี Alpha AI คอยเลือกตลาดหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดให้จาก 4 ตลาดหลักของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง จากนั้นจะมี Jitta Ranking AI คัดเลือกหุ้นดีราคาเหมาะสม ตามหลักการของ Warren Buffett มาจัดพอร์ตให้ 20 หุ้น พร้อมกับปรับพอร์ตหุ้นทุก 3 เดือน และรีวิวปรับเปลี่ยนประเทศที่น่าลงทุนที่สุดให้ทุกๆ ปี

ระดับความเสี่ยง: สูงมาก

เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนประเทศไหนดี ไม่อยากคอยปรับเปลี่ยนประเทศด้วยตัวเอง คาดหวังผลตอบแทนสูงในระยะยาว 

  • ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย Back Test (ปี 2558-2567) เฉลี่ย +21% ต่อปี 
  • โอกาสขาดทุนสูงสุด -42.37%
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 2,000,000 บาท เพิ่มขั้นต่ำ 50,000 บาท

นี่คือ ไฮไลต์ความน่าสนใจของ ‘พอร์ตลงทุน Jitta Wealth’ ที่เราสรุปและย่อยมาให้คุณเข้าใจง่ายๆ รวมถึงตัวเลขผลตอบแทนต่างๆ ที่มีความสำคัญ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

คุณอาจจะสงสัยว่า ทำไมมีตัวเลขโอกาสขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) ถึงติดลบมากกว่าผลตอบแทนต่อปีที่ได้ เพราะเป็นตัวเลขย้อนหลังที่วัดจากช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่เกิดวิกฤติ ตลาดมีความผันผวนขาลง ตัวเลขนี้คือ โอกาสขาดทุนสูงสุดที่คุณจะเผชิญในระหว่างที่ลงทุน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี แต่เป็นตัวเลขที่สะท้อนว่า ตัวคุณยินดีรับความเสี่ยงนี้หรือไม่ (Willingness to take risk) นอกเหนือจากความเสี่ยงที่สามารถรับได้ (Ability to take risk)

นอกจากนี้สินทรัพย์ที่ Jitta Wealth คัดเลือกลงทุน ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหุ้นต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงด้านอัตราการแลกเปลี่ยน เพราะเป็นพอร์ตลงทุนระยะยาว หากคุณลงทุนนานกว่า 5 ปี ผลตอบแทนที่ได้รับจะสูงพอที่จะชดเชยการขาดทุนค่าเงินได้ แต่จังหวะนี้ไม่ได้มีทุกครั้ง เพราะโอกาสที่คุณจะได้กำไรจากค่าเงินก็มีเช่นเดียวกัน

เลือกลงทุนให้อุ่นใจ แบบ Core & Satellite

เมื่อคุณรู้ระดับความเสี่ยงของตัวเองแล้ว สามารถเลือกลงทุนในนโยบายที่ตรงกับความเสี่ยงที่คุณรับไหวได้แล้ว แต่ในบางช่วงเวลาก็อาจเกิดอาการ ‘อยู่ไม่สุข’ 

หุ้นที่ถืออยู่นี่โอเคหรือยัง? หุ้นตกควรขายไหม? เจอกระแสหุ้นใหม่มาแรงก็อดใจไม่ไหว อยากตามบ้าง

เพราะพอร์ตที่มี ไม่ตอบโจทย์ตัวตนจริงๆ

พอร์ตที่คุณถือนิ่งเกินไป ก็อาจทำให้รู้สึกเบื่อ อยากหาความตื่นเต้นหรือผลตอบแทนสูงๆ

หรืออาจลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงเกินไป เจอความผันผวนบ่อยจนใจไม่ดี กินไม่ได้นอนไม่หลับ

ทั้งหมดนี้สามารถกระจายความเสี่ยงให้สมดุลได้ ซึ่งวิธีที่เราแนะนำก็คือ ‘จัดพอร์ตแบบ Core & Satellite’

ที่จะช่วยให้พอร์ตมั่นคงจากแกนหลัก (Core) และยังเปิดโอกาสลุ้นกำไรจากสินทรัพย์เสริม (Satellite) อย่างมีหลักการ

Core Port จะเป็นรากฐานของการลงทุน กระดูกสันหลังของการเติบโตในระยะยาว เน้นพึ่งพิงได้ ไม่หวือหวา

ได้แก่นโยบาย Global ETF และ Omni Fund

เพราะเป็นนโยบายที่กระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุมหุ้นทั่วโลก และตราสารหนี้ ผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับนโยบายอื่นๆ ของ Jitta Wealth เหมาะจะใช้เป็น Core Port ที่ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

Satellite Port จะเป็นโครงสร้างต่อเติมเสริมจากรากฐาน เพื่อบูสต์การเติบโต เน้นคว้าโอกาสทำกำไรสูงขึ้นจากการลงทุนที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งความเสี่ยงก็มากขึ้นด้วย 

ได้แก่นโยบาย 

Thematic: ลงทุนในธีมเมกะเทรนด์อนาคตไกลที่เราคัดสรรมาให้กว่า 27 ธีมการลงทุน โดยคุณสามารถเลือกธีมด้วยตัวเองใน Thematic DIY หรือให้ AI คอยคัดธีมให้ใน Thematic Optimize

Jitta Ranking: ลงทุนในหุ้นรายตัวโดยคุณสามารถเลือกประเทศ หรืออุตสาหกรรมได้ ซึ่งจะมี AI คอยคัดหุ้นดี ราคาเหมาะสม มาจัดพอร์ตให้อีกที

Jitta Ranking Alpha: มี AI เลือกประเทศที่น่าลงทุนที่สุด จาก 4 ตลาดหลักของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง ให้ทุกๆ ปี จากนั้นจะมี AI คัดหุ้นดี ราคาเหมาะสม มาจัดพอร์ตให้อีกที 

Satellite Port จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูง แต่หากผันผวนรุนแรง พอร์ตโดยรวมของคุณก็จะไม่กระทบมากนัก เพราะมี Core Port ประคองอยู่

โดยสัดส่วนที่แนะนำสำหรับ Core Port คือ 80% ของเงินลงทุนทั้งหมด ส่วน Satellite Port คือ 20% ในสัดส่วนนี้พอร์ตของคุณจะค่อยๆ เติบโตได้อย่างมั่นคง 

แต่หากคุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ก็สามารถปรับสัดส่วนของ Core port และ Satellite Port ได้ 

และในการเริ่มต้นลงทุน คุณอาจเริ่มจากสร้าง Core Port ก่อนจากนั้นจึงขยับขยายเพิ่ม Satellite Port การลงทุนของคุณก็จะสามารถเติบโตในระยะยาวได้อย่างอุ่นใจ

นี่คือ สรุปรวมพอร์ตลงทุน Jitta Wealth ที่คุณสามารถอ่านได้จบในบทความเดียว เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจหลักการลงทุน รูปแบบสินทรัพย์ และระดับความเสี่ยงของกองทุนส่วนบุคคล เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมที่สุด

หรือหากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน Jitta Wealth สามารถปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนของเราได้เลย ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย