Jitta Wealth Journal – ถ้าดัชนี S&P500 เป็นขาลง จะเพิ่มทุนหรือไม่
โลกเตรียมจัดระเบียบครั้งใหม่ นับจากสงครามเย็น
Jitta Wealth Journal ปีที่ 2 ฉบับที่ 68 ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2565 ทีมงานได้รวบรวมข่าวสารและสรุปสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ดังนี้
- Goldman Sachs หั่นเป้าดัชนี S&P 500 เหลือ 4,700 จุด
- โลกเตรียมการจัดระเบียบครั้งใหม่ นับจากสงครามเย็น
- ธนาคารกลางจีนส่งเงินเข้าคลัง 1 ล้านล้านหยวน
- ต่างชาติถือพันธบัตรจีนเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านหยวน
- Nio เทรดวันแรก มาร์เก็ตแคปแตะ 280,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
- เยอรมนีเตรียมใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในปี 2578
- Apple ให้ Oculus แสดงผลผ่าน Apple Health
ไปติดตามกันได้เลย
7 ‘ธีมเมกะเทรนด์’ ใหม่ พร้อมให้คุณจัดพอร์ตแล้ววันนี้
Jitta Wealth ยังคงเสาะแสวงหา Thematic ETF ที่มีโอกาสเติบโตจากทั่วโลก เพื่อเป็นทางเลือกปั้นพอร์ต พร้อมลงทุนระยะยาวไปกับ ‘ธีมเมกะเทรนด์’ อนาคตไกล กองทุนส่วนบุคคล Thematic มีทั้งหมด 23 ธีม ณ มีนาคม 2565
เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
Goldman Sachs หั่นเป้าดัชนี S&P500 เหลือ 4,700 จุด
กลุ่มนักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs ปรับลดเป้าหมายดัชนี S&P500 เป็นครั้งที่ 2 ของปี 2565 จากเดิม 4,900 จุด เหลือ 4,700 จุด เนื่องจากวิกฤตราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ
เมื่อต้นปี 2565 Goldman Sachs มองดัชนี S&P500 ปี 2565 ไว้ที่ 5,100 จุด ซึ่งตอนนั้นดัชนีปิดสิ้นปี 2564 ที่ 4,766.18 จุด เปรียบเทียบกับมุมมองใหม่ หมายความว่า ดัชนี S&P500 อาจจะให้ผลตอบแทนติดลบในปีนี้
มุมมองของ Goldman Sachs บอกว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อผลกำไรของดัชนี S&P500 โดยกำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้น +5% ในปี 2565 ปรับลดจากมุมมองเดิมที่ +8% จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคอ่อนแอลง รวมไปถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม Goldman Sachs มองว่า ยังคงเห็นจุดกลับตัวของดัชนี +10% จากระดับปัจจุบัน ประมาณ 4,200 จุด นั้นหมายความว่า โอกาสที่ดัชนี S&P500 จะเป็นขาขึ้นยังคงมีอยู่
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan มองว่า มีความเป็นไปได้ 35% ที่จะเกิดภาวะถดถอยในปี 2566 รวมไปถึง Goldman Sachs ที่เพิ่มความน่าจะเป็นของภาวะถดถอยในปีหน้าเป็น 30% ด้วยกัน
Jitta Wealth มองว่า สถานการณ์ตอนนี้มีความไม่แน่นอนสูง เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในช่วงขาลงเป็นเดือนที่ 3 แต่เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนจะมีทางออกที่ดี
อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่า วิกฤตในครั้งนี้จะไม่รุนแรง และตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะผ่านพ้นไปได้อย่างแข็งแกร่งเช่นเคย หากคุณมีหลักการลงทุนระยะยาว มองว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสเพิ่มทุนได้ เพราะพื้นฐานสินทรัพย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
รวมกลยุทธ์รับมือความผันผวนสูงในตลาดหุ้น
สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงต้นปี 2565 ดัชนีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากช่วงเปลี่ยนผ่านนโยบายการเงินของประเทศมหาอำนาจ เมื่อเกิดความผันผวนในตลาดหุ้น คุณควรทำอย่างไรและโอกาสการลงทุนอยู่ตรงไหน
สงครามรัสเซียและยูเครน
โลกเตรียมการจัดระเบียบครั้งใหม่ นับจากสงครามเย็น
การประกาศคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร จากการโจมตียูเครน ทำให้โลกกำลังอยู่ในสงครามเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นับตั้งแต่สงครามเย็น และนำไปสู่การจัดระเบียบใหม่ของโลก
จากมาตรการที่ประกาศออกมา นำมาสู่การถอนตัวทางธุรกิจออกจากรัสเซีย การตัดออกจากระบบการเงินโลก รวมไปถึงมาตรการยึดทรัพย์ของบรรดาเศรษฐีรัสเซียในหลายๆ ประเทศ
นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า ผลกระทบในระยะต่อไปจะลามไปทั่วโลกและนำไปสู่การจัดระเบียบครั้งใหม่ เพราะมาตรการคว่ำบาตรและยึดทรัพย์ เกิดขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็วมากกว่าปกติ
ผู้นำทางการเมืองของประเทศตะวันตกบางคนบอกว่า นี่คือสงครามเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ซึ่งผู้นำทางการเมืองของรัสเซียก็ออกมาเตือนว่า สงครามจริงๆ มักเกิดตามมาจากสงครามเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจรัสเซียจะเป็นขาลงในไม่ช้า จะสร้างแรงกดดันสำคัญในประเทศ และจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่ นั่นคือ การจัดระเบียบใหม่ของโลกกำลังก่อตัว และโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
Buffett ทำอะไรในเวลาสงคราม
คุณคงติดตามข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด หากคุณลงทุนอยู่ คงมีอาการกังวลไม่น้อย แต่สำหรับ Warren Buffett ซื้อหุ้นแรกในชีวิตตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในช่วงสงครามด้วย
สรุป Live: ตำราพิชัยลงทุนให้ชนะ ‘สงคราม’
‘สงคราม’ เป็นปัจจัยลบใหม่ที่กำลังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกให้เป็นขาลงต่อไปอีก เมื่อมูลค่าพอร์ตลงทุนติดลบหนักๆ คุณจะใช้ตำราเล่มไหน เพื่อจัดการและเอาชนะทุกความผันผวนเหล่านี้ได้
เศรษฐกิจจีน
ธนาคารกลางจีนส่งเงินเข้าคลัง 1 ล้านล้านหยวน
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งเงิน 1 ล้านล้านหยวนให้กับกระทรวงการคลัง เพื่อใช้ในการคืนภาษี เพิ่มงบประมาณให้รัฐบาลท้องถิ่น ช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาแรงงาน
รัฐบาลจีนได้ประกาศงบประมาณรายจ่ายปี 2565 เพิ่มขึ้น 2 ล้านล้านหยวน โดยงบประมาณรายจ่ายส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของสถาบันการเงินของรัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมกว่า 1.65 ล้านล้านหยวน ซึ่ง PBOC ถูกจัดเป็นรัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกัน
นักวิเคราะห์ บอกว่า การส่งรายได้เข้าคลังกว่า 1 ล้านล้านหยวน เท่ากับว่า PBOC ลดเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 19.5% ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น สร้างสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจจีน
ปี 2565 รัฐบาลจีนตั้งเป้าขาดดุลงบประมาณ 2.8% เท่ากับปี 2564 และกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐ ลดภาษีให้ภาคเอกชนและประชาชน ส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้งบประมาณรายจ่ายปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านล้านหยวน
จีนพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ผ่านนโยบายการเงินและการคลัง ถึงแม้ว่าจีนจะตั้งเป้าหมายการเติบโตเพียง +5.5% ในปี 2565 แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากโลกยังคงเผชิญปัจจัยความไม่แน่นอนหลายๆ อย่าง คุณอาจจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ต่างชาติถือพันธบัตรจีนเพิ่มขึ้น 15,500 ล้านหยวน
China Foreign Exchange Trade Center รายงานยอดซื้อพันธบัตรสุทธิเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 15,500 ล้านหยวน จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน โดยมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย มีความเสี่ยงต่ำ
การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รวมไปถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่มีความไม่แน่นอนมากที่สุดในรอบหลายๆ ปี และส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกมากขึ้น
ทองคำ พันธบัตร และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้น รวมไปถึงพันธบัตรจีน สะท้อนว่า ในสายตานักลงทุนต่างชาติ พันธบัตรสกุลเงินหยวนกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของโลกเช่นเดียวกัน
นักวิเคราะห์ มองว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้สกุลเงินหยวนได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นจีนมีราคาที่เหมาะสม พันธบัตรสกุลเงินหยวนให้ผลตอบแทนสูง และสินทรัพย์สกุลเงินหยวนมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) กับสินทรัพย์ต่างชาติต่ำ จึงทำให้สินทรัพย์สกุลเงินหยวนมีความน่าสนใจมากขึ้น
เมื่อนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจในสินทรัพย์จีนมากขึ้น จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีนและมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคง Bloomberg บอกว่า ปัจจุบันสกุลเงินหยวนมีมูลค่าการใช้จ่ายในธุรกรรมระหว่างประเทศเป็นอันดับที่ 4 ของโลก แซงหน้าสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นไปแล้ว
ส่อง 8 หุ้นบิ๊กแคปจีน ราคาดี พาพอร์ตทะยาน
มาดู 8 หุ้นจีนขนาดใหญ่อนาคตไกล บริษัทไหนทำธุรกิจอะไรบ้าง ราคาตอนนี้ต่ำกว่าพื้นฐานน่าลงทุนหรือยัง พร้อมคำแนะนำสำหรับคนงบน้อย แต่อยากลงทุนในประเทศมหาอำนาจ เพื่อสะสมความมั่งคั่งกับพอร์ตลงทุนหุ้นจีน โอกาสอยู่ที่ไหน
รู้จัก Thematic ETF ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ กับ KURE
Jitta Wealth เปิด 7 ธีมเมกะเทรนด์ใหม่ ให้คุณได้ปั้นพอร์ตลงทุน Thematic ได้แล้ววันนี้ 1 ใน 7 ธีมที่น่าสนใจ คือ ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ ที่ลงทุนใน KURE ETF มาทำความรู้จักพร้อมส่อง 5 บริษัทไส้ในได้เลย
รถยนต์ไฟฟ้า
Nio เทรดวันแรก มาร์เก็ตแคปแตะ 280,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
หลายๆ บริษัทจีนที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทยอยเข้าในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังมีความเสี่ยงถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งรวมไปถึง Nio บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีน เป็นรายล่าสุดที่เข้าตลาดหุ้นฮ่องกง
ราคาหุ้น Nio เปิดตลาดเข้าเทรดวันแรก (10 มี.ค.) พุ่งขึ้นไปถึง 160 ดอลลาร์ฮ่องกง ทำให้มาร์เก็ตแคปขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 280,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
บริษัทผลิต EV ของจีนรายอื่นๆ อย่าง Xpeng และ Li Auto ก็เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงด้วยเช่นเดียวกัน
จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้รถเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ในการใช้ยานพาหนะ EV ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมาก ส่งผลดีต่อรายได้และการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจีนอย่างมีนัยสำคัญ
พลังงานสะอาด
เยอรมนีเตรียมใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในปี 2578
เยอรมนีเร่งแผนพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เตรียมใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2578 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายลดโลกร้อน
กระทรวงเศรษฐกิจเตรียมยื่นร่างกฎหมายเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนการตั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมมากขึ้น
ในปี 2565 เยอรมนีตั้งเป้าเพิ่มการติดตั้งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ 7 GW (กิกะวัตต์) พลังงานลมบก 3 GW และพลังงานลมทะเล 0.5 GW โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีตามแผนที่ได้วางเอาไว้
อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดเริ่มเห็นโอกาสเติบโตได้อย่างชัดเจน และจะได้รับความสนใจจากทั่วโลก ซึ่งพิสูจน์ถึงความเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต และเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ Thematic ETF
เมตาเวิร์ส
Apple ให้ Oculus แสดงผลผ่าน Apple Health
ธุรกิจ VR (Virtual Reality) ของ Meta Platforms (Facebook) เตรียมจับมือกับ Apple แสดงผลออกกำลังกายจาก Oculus แว่นตา VR ผ่านแอปพลิเคชัน Apple Health ซึ่งเป็นการร่วมมืออีกขั้นของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก
โดยผู้ใช้งาน Oculus ที่เชื่อมต่อผ่าน iPhone จะสามารถเช็คผลการออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชัน Oculus และ Apple Health ได้เหมือนๆ กัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน
ภาพเหล่านี้ สะท้อนถึงระดับความร่วมมือของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เพราะเทรนด์อนาคต การจับมือกันพัฒนาสินค้าและบริการ ย่อมดีกว่าลงทุนทำเองคนเดียว ซึ่งไม่ได้การันตีว่า การลงทุนแต่ละครั้งจะสำเร็จหรือไม่
นอกจากนี้ความร่วมมือทางธุรกิจจะส่งผลดีให้กับกิจการในด้านการขยายฐานผู้ใช้งานด้านเทคโนโลยี ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น มีทางเลือกมากขึ้น สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ จากการพัฒนาร่วมกันนั่นเอง
คุณจะเห็นว่า เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กเทคหรือบริษัทใหญ่ๆ ระดับโลก ไม่สามารถยืนหยัดเองไปได้ตลอด สุดท้ายก็ต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจผ่านความร่วมมือในการพัฒนาด้านต่างๆ หรือเป็นการเข้าไปซื้อหุ้นกิจการ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น ตัวชี้วัดความสำเร็จ คือ ผู้ใช้งานเทคโนโลยีได้ประโยชน์มากแค่ไหน
ชี้ช่องกรองหุ้น 6 ประเภทสไตล์ Peter Lynch
Peter Lynch บอกว่า จะขายหุ้นทำกำไรเมื่อพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนเท่านั้น และนี่คือ หุ้น 6 ประเภท ที่เขาเลือกกระจายความเสี่ยง สร้างสมดุลในพอร์ต แต่ยังให้ผลตอบแทนดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นี่คือ 7 ข่าวที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก Jitta Wealth Journal ที่สะท้อนว่า นอกจาก Covid-19 ไม่ได้หายไป คุณก็เผชิญกับสงครามที่กำลังส่งผลต่อภาวะการลงทุนทั่วโลก
จาก Live ล่าสุด ผมได้ฉายภาพถึงผลตอบแทนระหว่างการลงทุนในหลายๆ ช่วงของการเกิดสงคราม ไปจนถึงวันที่สงครามสิ้นสุดลง และผลตอบแทนในแต่ละช่วงมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงเวลาแบบนี้ คุณอาจจะรู้สึกกังวลและเลือกที่จะขายหุ้นออกมา เพื่อถือเงินสด แต่มันควรเป็นสิ่งสุดท้าย ที่คุณจะเลือกทำ เพราะภาวะเงินเฟ้อในช่วงสงคราม จะกัดกินมูลค่าเงินสด
Jitta Wealth ไม่ปฏิเสธว่า ทุกสงครามจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น แต่เมื่อสงครามถึงจุดจบ ตลาดหุ้นจะกลับมาเติบโตอีกครั้งได้เสมอ
แล้วพบกันสัปดาห์หน้า
อ่าน Jitta Wealth Journal ย้อนหลัง
Jitta Wealth Journal – 5 ฉากจบสงครามรัสเซีย-ยูเครน
Jitta Wealth Journal – ถ้าสงครามยืด เงินเฟ้อพุ่ง เข้าลงทุนดีไหม
