ลงทุนใน AI ก่อนมันแย่งงานคุณ
ถ้ามีคนมาให้คุณลองจินตนาการถึงโลกในอนาคตดูว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
คุณนึกถึงอะไรบ้าง..
รถยนต์ที่จะขับเคลื่อนด้วยตัวของมันเอง คุณอาจจะไม่ต้องพิมพ์งานด้วยตัวเองอีกต่อไป แค่คิดว่าจะเขียนอะไร AI ก็จะเขียนให้คุณออกมาได้ทุกอย่าง หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน ที่ตามจับและกำจัดสิ่งสกปรกได้ แบบที่คุณไม่ต้องมาคอยเปิดเครื่องหรือกดสั่งการ
และถ้าคุณลองมองดีๆ เรื่องราวในจินตนาการที่ว่า มันเริ่มปรากฏขึ้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และทั้งหมดเกิดขึ้นได้ด้วย AI
1-2 ปีที่ผ่านมาหลังจาก ChatGPT เทคโนโลยี AI ที่จับต้องได้ง่ายสำหรับทุกคนเปิดตัว โลกมนุษย์ทำงานก็แอบสั่นคลอน ถึงขนาดที่ว่า หลายๆ เว็ปไซต์จั่วหัวข่าวรุนแรงพาให้เราใจสั่นว่า ‘AI จะมาแย่งงานคุณ’
แต่ถ้าคุณลองมาคิดดูดีๆ นั่นอาจไม่ใช่คำเตือนแต่เป็นโอกาสลงทุนของคุณก็ได้
ในบทความนี้ Jitta Wealth เลยอยากมาแชร์ไอเดียการจัดพอร์ต Thematic DIY สายคนรัก AI สำหรับคนที่เห็นโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตนี้
เราขอแบ่งการจัดพอร์ตออกเป็น 2 ตัวอย่างแบ่งเป็น สายโฟกัสและสายกระจายความเสี่ยงดังนี้
แบบที่ 1 การลงทุนแบบโฟกัสในอุตสาหกรรม AI
คุณสามารถจัดพอร์ต Thematic DIY ได้ด้วย 5 ธีมเหล่านี้
- ธีมหุ่นยนต์และ AI (IRBO ETF)
- ธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ (IVV ETF)
- ธีมเทคโนโลยี (IXN ETF)
- ธีมเซมิคอนดักเตอร์ (SMH ETF)
- ธีมเมตาเวิร์ส (METV ETF)
การจัดพอร์ตแบบนี้ เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก
และอยากโฟกัสลงทุนในอุตสาหกรรม AI และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของ AI จัดเต็มไปด้วยธีมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม AI ในพอร์ตเดียว
จุดเด่นของการจัดพอร์ตแบบนี้คือ การโฟกัสไปที่อุตสาหกรรมเดียว ถ้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI เติบโต พอร์ตก็จะเติบโตสูงมาก
ข้อควรระวังของการจัดพอร์ตแบบโฟกัสคือ มีความผันผวนค่อนข้างสูง เพราะเป็นการลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เมื่อผลตอบแทนในอุตสาหกรรมนั้นๆ ขึ้น พอร์ตก็จะสร้างผลตอบแทนได้สูง แต่ถ้าผลตอบแทนในอุตสาหกรรมนั้นๆ ลดลงในบางช่วง พอร์ตก็อาจมีผลตอบแทนที่ติดลบบ้างในบางจังหวะ
แต่การลงทุนใน ETF ก็เป็นการกระจายความเสี่ยงไว้แล้วในระดับหนึ่ง ทำให้ความผันผวนของการลงทุนใน ETF ไม่น่ากลัวจนเกินไป
แต่ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงเกินไป อยากกระจายความเสี่ยงอีกสักนิด การจัดพอร์ตอีกแบบอาจจะตอบโจทย์
แบบที่ 2 การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
คุณสามารถจัดพอร์ต Thematic DIY ได้ด้วย 5 ธีมเหล่านี้
- ธีมหุ่นยนต์และ AI (IRBO ETF)
- ธีมเมตาเวิร์ส (METV ETF)
- ธีมเซมิคอนดักเตอร์ (SMH ETF)
- ธีมตลาดหุ้นเวียดนาม (VNM ETF)
- ธีมตลาดหุ้นฮ่องกง (EWH ETF)
การจัดพอร์ตแบบนี้ เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อยากลงทุนในอุตสาหกรรม AI แต่อยากกระจายความเสี่ยงเพื่อไม่ให้พอร์ตผันผวนจนเกินไป
จุดเด่นของการจัดพอร์ตแบบนี้คือ จัดพอร์ตลงทุนใน ETF ที่เกี่ยวข้องกับ AI พร้อมกระจายลงทุนในธีมที่มีความสัมพันธ์กันต่ำ
ข้อควรระวังของการจัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยงคือ หากธีมที่เกี่ยวของกับอุตสาหกรรม AI ทำผลตอบแทนได้สูง ภาพรวมของพอร์ตก็อาจจะไม่ได้หวือหวาเท่ากับการลงทุนแบบโฟกัส
แต่ไม่ว่าจะลงทุนในแบบที่ 1 หรือ 2 สิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้แน่นอนคือ…
Thematic DIY ทุกธีม ETF ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว แถมยังเป็น Passive ETF ค่าธรรมเนียมต่ำอีกด้วย ได้กำไรทีก็ได้กำไรไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ Jitta Wealth จะนำปันผลมาลงทุนต่อให้คุณทันที พร้อมปรับพอร์ตให้คุณอย่างมีวินัยอัตโนมัติเพื่อรักษาบาลานซ์ของพอร์ตด้วย
และทั้งหมดที่ว่ามานี้ คุณสามารถทำได้ด้วยการลงทุนใน Thematic DIY เริ่มต้นได้เลยด้วยเงินเพียง 10,000 บาท คุณก็เป็นเจ้าของอนาคตโลกได้แล้ว
ยิ่งคุณลงทุนตอนนี้! สิ่งที่คุณจะได้อีกอย่างก็คือ ส่วนเครดิตค่าธรรมเนียม!
พิเศษ! ลงทุนครั้งแรกหรือเพิ่มทุนภายในวันนี้ – 31 มี.ค. 67 ทุกๆ 10,000 บาทรับเครดิตค่าธรรมเนียม 50 บาท สูงสุดถึง 100,000 บาท
ลงทุน Thematic DIY เริ่มต้น 10,000 บาท เพิ่มทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท