Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา
blog

เลือก ETF ยังไงให้เหมาะกับคุณ? แนะนำ ETF น่าสนใจปี 2026


ไฮไลต์

  • ปี 2026 เป็นปีที่ ETF ยังมาแรง เพราะลงทุนง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ และกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการเลือกหุ้นรายตัว
  • เคล็ดลับสำคัญคือ ‘รู้จักตัวเองก่อนเลือกกอง’ ทั้งระดับความเสี่ยง ความกว้างของตลาดที่อยากลงทุน และสไตล์การจัดพอร์ต
  • ETF เด่นยังคงเป็นกลุ่ม S&P 500 (VOO และ SPY) Nasdaq 100 (QQQ) หุ้นโลก (VT และ ACWI) หุ้นจีน (MCHI และ FXI) และตราสารหนี้สหรัฐฯ (IEF TLT และ VCIT)
  • แต่ละประเภทตอบโจทย์ต่างกัน โตเร็ว โตมั่นคง กระจายทั่วโลก หรือลงทุนความเสี่ยงต่ำ
  • สำหรับคนที่ไม่อยากเลือกเอง Jitta Wealth มีตัวช่วย: Global ETF, Thematic Optimize, Thematic DIY และ Jitta Money ที่ทำให้ลงทุนง่ายขึ้นและมีระบบคอยดูแลให้อัตโนมัติ

กระแสการลงทุนผ่าน ETF (Exchange-traded Fund) ยังคงเติบโตต่อเนื่องและเป็นทางเลือกยอดนิยมของนักลงทุนยุคใหม่ เพราะลงทุนง่าย กระจายความเสี่ยงได้ดี และค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวมแบบดั้งเดิม ยิ่งปีหน้า ปี 2026 ที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การเลือก ETF ที่เหมาะสมยิ่งกลายเป็น ‘อาวุธสำคัญ’ ที่ช่วยให้พอร์ตเติบโตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีเลือก ETF ตามสไตล์ของตัวเอง พร้อมแนะนำรายชื่อ ETF เด่นที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ และมีแนวโน้มโดดเด่นต่อในปี 2026 ปิดท้ายด้วยเครื่องมือจาก Jitta Wealth ที่ช่วยให้การลงทุน ETF เป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด

เลือก ETF ยังไงให้เหมาะกับคุณ?

ก่อนจะเลือก ETF สักกอง สิ่งที่สำคัญกว่า ‘ชื่อกอง’ คือการรู้จักตัวเองก่อน เพราะ ETF มีหลายประเภท และแต่ละแบบก็เหมาะกับนักลงทุนคนละสไตล์จริงๆ การเริ่มต้นจากความเข้าใจนี้จะช่วยให้เลือกได้ตรงใจและทำให้คุณอยู่กับการลงทุนได้ระยะยาวจนถึงเป้าหมาย

อย่างแรก…ลองถามตัวเองว่า คุณรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?

ถ้าคุณไม่ชอบเห็นพอร์ตเหวี่ยงแรง อยากให้มูลค่าพอร์ตเดินหน้าแบบนิ่งๆ ETF ตราสารหนี้จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคุณรับความผันผวนได้ดีขึ้นและอยากให้เงินเติบโตเร็วขึ้น ETF หุ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสหรัฐฯ หุ้นโลก หรือธีมเทคโนโลยี อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า

ถัดมา…คิดต่อว่า อยากลงทุนแบบกว้าง หรือเจาะจงตลาดไหนเป็นพิเศษ?

บางคนชอบแนวถือโลกทั้งใบไม่ต้องเลือกเยอะ กองอย่าง VTI VT หรือ ACWI ก็เหมือนมี ‘พอร์ตสำเร็จรูป’ อยู่ในกองเดียว แต่ถ้าชอบตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก กองอย่าง VOO, SPY หรือ QQQ ก็เหมาะมาก ขณะที่นักลงทุนที่อยากคว้าโอกาสหุ้นจีนจีนโดยเฉพาะก็สามารถเลือก MCHI หรือ FXI ได้ตามสไตล์ของตัวเอง ส่วนใครชอบธีมล้ำๆ เช่น AI หรือชิป ก็มี ETF ธีมเฉพาะอย่าง SMH ให้เลือกเช่นกัน

สุดท้าย…ถามตัวเองว่า อยากจัดพอร์ตเองหรืออยากให้ระบบช่วยดูแล?

ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้คุณสามารถลงทุน ETF ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น Jitta Wealth ที่มีนโยบายลงทุนใน ETF โดยคัดเลือก จัดพอร์ต และคอยปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนให้อัตโนมัติ

Thematic DIY: ถ้าคุณอยากเลือกธีมที่ชอบด้วยตัวเอง ระบบจะคอยปรับพอร์ตบาลานซ์สัดส่วนให้อัตโนมัติ

Thematic Optimize: มี AI คัดเลือก ETF ธีมเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มดีในช่วยเวลานั้นๆ มาจัดพอร์ตให้ โดยมีระบบคอยบาลานซ์สัดส่วนอัตโนมัติ และรีวิวปรับเลือกธีมทุกๆ 3 เดือน

Global ETF: กระจายความเสี่ยงครบจบในพอร์ตเดียวแบบครอบคลุมทั้งโลก โดยลงทุนหุ้นทั่วโลก และตราสารหนี้สหรัฐฯ ในสัดส่วนที่ถูกวิเคราะห์มาแล้วว่าเหมาะสมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนระยะยาว 

เมื่อคุณรู้ว่าสไตล์ตัวเองเป็นแบบไหน การเลือก ETF ที่เหมาะจะลงทุนในปี 2026 ก็จะชัดเจนขึ้นมาก ต่อไปเราไปดู ‘โพย ETF ที่ได้รับความนิยมที่สุดในปีนี้ และยังมีแนวโน้มโดดเด่นต่อในปี 2026’ กันเลย ว่าแบบไหนเหมาะกับพอร์ตของคุณที่สุด

เลือก ETF ยังไงให้เหมาะกับคุณ? แนะนำ ETF น่าสนใจปี 2026

เปิดโพย ETF น่าลงทุนปี 2026

ETF หุ้นสหรัฐฯ กระแสนิยมอันดับหนึ่งของโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเป็นปลายทางหลักของนักลงทุนทั่วโลก เพราะมีโครงสร้างเศรษฐกิจแข็งแรง บริษัทชั้นนำระดับโลก และสถิติผลตอบแทนระยะยาวที่โดดเด่น ทำให้ ETF สหรัฐฯ เป็นตัวเลือกที่หลายพอร์ตมักใช้เป็น ‘แกนหลัก’ อยู่เสมอ

กลุ่ม S&P 500 อย่าง SPY (SPDR S&P 500 ETF Trust) VOO (Vanguard S&P 500 ETF) และ IVV (iShares Core S&P 500 ETF) เป็นสามกองที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะติดตามหุ้นใหญ่ 500 บริษัท เช่น Apple Microsoft และ Amazon 

ส่วนใครต้องการการเติบโตที่เร็วขึ้น QQQ (Invesco QQQ Trust) ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Nvidia Tesla และ Meta จะตอบโจทย์มากกว่า แม้มีความผันผวนสูง แต่ก็เป็น ETF ที่สร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ถ้าต้องการถือทั้งตลาดสหรัฐฯ แบบครอบคลุมที่สุด กอง VTI (Vanguard Total Stock Market ETF) ซึ่งรวมหุ้นกว่า 4,000 บริษัททั่วสหรัฐฯ คือทางเลือกที่ครบและจบที่สุดในกองเดียว

ETF หุ้นโลก กระจายความเสี่ยงแบบจบในกองเดียว

สำหรับนักลงทุนที่อยากถือทั้งโลก ไม่อยากเลือกทีละประเทศ VT และ ACWI คือสองกองที่ตอบโจทย์ที่สุด

VT (Vanguard Total World Stock Index Fund) ครอบคลุมบริษัททั่วโลกกว่า 9,000 บริษัท โดยสัดส่วนแบ่งเป็นสหรัฐฯ ประมาณ 60% และตลาดต่างประเทศราว 40% เหมือนคุณกำลังถือทั้งโลกไว้ในพอร์ตเดียว จึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นแบบง่ายที่สุด

ACWI (iShares MSCI ACWI ETF) มีลักษณะคล้ายกับ VT แต่มีโครงสร้างที่บาลานซ์ขึ้นเล็กน้อย กล่าวคือ ลดสัดส่วนสหรัฐฯ ลง และเพิ่มน้ำหนักตลาดต่างประเทศ จึงกลายเป็นฐานพอร์ตยอดนิยมของนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการความหลากหลายและเสถียรภาพในระยะยาว

ETF หุ้นจีน โอกาสในตลาดขนาดใหญ่ที่กำลังฟื้นตัว

แม้ตลาดจีนจะผ่านช่วงท้าทายหลายปี แต่โอกาสระยะยาวยังคงน่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นในบางภาคส่วน

MCHI (iShares MSCI China ETF) เป็นกองที่รวมบริษัทจีนชั้นนำ เช่น Tencent และ Alibaba ถือเป็น China ETF ที่ใหญ่ที่สุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในจีนแบบครอบคลุมทั้งตลาด

ส่วน FXI (iShares China Large-Cap ETF) โฟกัสเฉพาะหุ้นจีนขนาดใหญ่ 50 บริษัท จุดเด่นคือเน้น บริษัทขนาดใหญ่ และรัฐวิสาหกิจเยอะ สภาพคล่องสูง เคลื่อนไหวตามมุมมองต่อเศรษฐกิจจีนชัดเจน เหมาะกับคนต้องการเกาะกลุ่มผู้นำของประเทศ

แต่ความผันผวนมีได้มากกว่า MCHI เพราะพอร์ตค่อนข้างกระจุกตัว แม้เป็นหุ้นขนาดใหญ่ เหมาะกับผู้ลงทุนที่เชื่อในจังหวะการฟื้นตัวของจีน และรับความผันผวนระยะสั้นได้

ETF ตราสารหนี้ เสริมความมั่นคงให้พอร์ต

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความผันผวน หรือเสริมส่วนที่ปลอดภัยให้พอร์ต ETF ตราสารหนี้คือคำตอบที่ดีมาก

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อย่าง IEF (iShares 7-10 Year Treasury Bond ETF) และ TLT (iShares 20+ Year Treasury Bond ETF) เป็นที่นิยมสูง โดย IEF ถือพันธบัตรอายุ 7-10 ปี ส่วน TLT เน้นพันธบัตรระยะยาวกว่า 20 ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาความมั่นคงของพอร์ตและป้องกันช่วงตลาดหุ้นผันผวน

ในกลุ่มตราสารหนี้เอกชน VCIT เป็นกอง Investment Grade ที่เน้นหุ้นกู้คุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร แต่ยังคงคุณภาพของผู้ออกตราสารในระดับดีเยี่ยม

ลงทุน ETF ง่ายกว่าเดิมกับ Jitta Wealth

สำหรับคนที่อยากลงทุน ETF แต่ไม่อยากคอยจัดพอร์ตเองหรือกลัวเลือกผิด Jitta Wealth มีตัวเลือกที่ออกแบบมาให้ลงทุนง่าย ครบ และมีระบบคอยดูแลให้อย่างเป็นมืออาชีพ

Global ETF กระจายทั่วโลกในพอร์ตเดียว

จัดพอร์ตด้วย ETF หุ้นทั่วโลก หุ้นกู้ และพันธบัตรคุณภาพดีของสหรัฐฯ กระจายความเสี่ยงด้วยหลักการระดับโลก Modern Portfolio Theory ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 8.03% ต่อปี* มีระบบคอยปรับพอร์ตบาลานซ์ให้อัตโนมัติ ครอบคลุม ETF ตัวดังอย่าง VTI และ VCIT ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นด้วย เริ่มต้นเพียง 10,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาท

*ผลตอบแทนของแผนเติบโตจากการทดสอบผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 10 ปี (Back Test) ตั้งแต่ 2558-2567

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

Thematic Optimize ปล่อยให้ AI คัดธีมเมกะเทรนด์ให้

ลงทุนธีมเมกะเทรนด์โลก อนาคตไกล วิเคราะห์และคัดเลือกธีมที่น่าลงทุนที่สุดด้วย AI พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติทุก 3 เดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 23.20% ต่อปี* เริ่มต้นเพียง 10,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาท

*ผลตอบแทนของ Thematic Optimize จากการทดสอบผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย (Back Test) ตั้งแต่ 2561-2567

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

Thematic DIY เลือก ETF เองตามสไตล์

เหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองชัดเจนและอยากกำหนดธีมเองทั้งหมด ลงทุนธีมเมกะเทรนด์โลกที่คุณเชื่อมั่น Mix & Match ได้ถึง 5 ธีมในพอร์ตเดียว พร้อมบริหารจัดการและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ เริ่มต้น 10,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาท

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

Jitta Money ที่พักเงิน รอไปลงทุนในโอกาสที่คุณมั่นใจ

ลงทุนใน ETF พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นที่ดีที่สุด กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม รีวิวและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ เหมาะกับนักลงทุนที่อยากได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากแต่ความเสี่ยงต่ำ (ผลตอบแทนล่าสุด 3.45% ต่อปี*) พักเงินรอลงทุน เริ่มต้นเพียง 10,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาทเช่นกัน

*ผลตอบแทนของ Jitta Money คำนวณจาก 30-Day SEC Yield หลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆ แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2568)

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่อยากเริ่มแบบง่ายที่สุด หรือเป็นนักลงทุนที่อยากเพิ่มความหลากหลายให้พอร์ต ETF คือเครื่องมือที่ครบทั้งเติบโต กระจายความเสี่ยง และเลือกได้ตามสไตล์ของคุณ

หากสนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้เสมอที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผล ตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับนักลงทุนที่อยากศึกษาเกี่ยวกับ ETF เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความของเราได้ที่ ETF คืออะไร? ลงทุน ETF แบบไหนดีต่อใจ ได้กำไรจริง แล้วมาเติบโตไปพร้อมกันนะครับ