Jitta Wealth Journal – บริษัทเทคแห่ลดคน แต่หุ้นดันขึ้น?

อินเดียพร้อมเป็นโรงงานโลกแห่งต่อไป
Jitta Wealth Journal ปีที่ 3 ฉบับที่ 114 ประจำวันที่ 31 มกราคม 2566
หุ้นเทคสหรัฐฯ ฟื้นแรง หลายบริษัทบิ๊กเทคผลประกอบการดีเกินคาด ขณะที่ GDP สหรัฐฯ ก็ขยายตัว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คึกคัก นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย จีนแซงสหรัฐฯ ขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์เบอร์ 3 โลก เงินสะพัดทั่วจีนในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา บริษัทเวียดนามโตสวนทางตลาดหุ้น อินเดียเตรียมเป็นโรงงานโลกแห่งต่อไป
ทีมงานย่อยข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกมาให้คุณแล้ว ไปติดตามกันได้เลย
รับข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้การลงทุนดีๆ จากเราได้ที่ Line ID: @jittawealth
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นรายสัปดาห์
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ
S&P 500 +2.47% DJIA +1.81% NASDAQ +4.32%
หุ้นบิ๊กเทคสหรัฐฯ นำโดย Tesla ปรับตัวขึ้นกว่า 30% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึงหุ้นเทค ตัวอื่นๆ อย่าง Microsoft Amazon Meta บวกแรงมากกว่า 2% ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเป็นข้อพิสูจน์ว่าแต่ละบริษัทยังแข็งแกร่ง ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกในอนาคต
ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย
CSI 300 ปิดทำการ TOPIX +2.90% VNI ปิดทำการ SET +0.24%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่ง จากการผ่อนคลายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากหุ้นตัวใหญ่ปรับตัวลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวอย่างทรงตัว
ข้อมูลจาก S&P Capital IQ ณ 29 มกราคม 2566
เศรษฐกิจจีน
จีนแซงสหรัฐฯ ขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์เบอร์ 3 ของโลก
ในปี 2565 จีนส่งออกรถยนต์มากเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ 2.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากในปี 2563 เป็นรองเพียงแค่เยอรมนีและญี่ปุ่นเท่านั้น ในปัจจุบันค่ายรถยนต์ต่างชาติได้เข้าไปตั้งโรงงานในประเทศจีนและส่งออกไปทั่วโลก
ในปี 2565 Tesla ที่ผลิตในจีนกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกไปยุโรปมากที่สุด รวมไปถึงแบรนด์ Volvo ที่ถูกกลุ่ม Geely ซื้อไป และแบรนด์ BMW ก็ได้เพิ่มสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเช่นกัน
แนวโน้มการเติบโตของรถยนต์สัญชาติจีน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD และ NIO ที่ได้บุกตลาดต่างประเทศอย่างหนัก และครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกไปไม่น้อย โดยได้รับความนิยมอย่างมากในละตินอเมริกาและตะวันออกกลาง
ต่อจากนี้ ต้องจับตาดูว่าแบรนด์รถยนต์จีนจะผงาดขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์โลกได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ทิศทางการเติบโตของจีนถือว่าน่าจับตามองมากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสในอนาคต
เงินสะพัดการท่องเที่ยวจีนช่วงตรุษจีน
วันหยุดตรุษจีนแรกหลังยกเลิกมตราการ Zero-COVID อย่างเป็นทางการของจีน ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวนมากแตะ 308 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 23.1% yoy หรือ 88% ของปี 2562 และมีการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงถึง 375,843 ล้านหยวน สถิติผู้เดินทางกลับภูมิลำเนามากถึง 225 ล้านคน
ตัวเลขการเดินทางและการใช้จ่ายของคนจีนพอจะบอกได้ว่าคนจีนไม่กลัว Covid-19 อีกต่อไปแล้วแม้จะมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในปี 2565 จำนวนเงินฝากของคนจีนเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านล้านหยวน ตีความได้ว่าในช่วงล็อกดาวน์ Zero-COVID คนจีนฝากเงินเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มว่าหลังการยกเลิกมาตรการ Zero-COVID เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกนำมาใช้บริโภคมากขึ้น การบริโภคในประเทศถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6% ในปีนี้
Jitta Wealth มองว่าในปีนี้ การบริโภคในประเทศจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน และช่วยให้จีนฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

Jitta Wealth แจก Wallpaper สรุป 47 ปีตลาดหุ้นไทย
อยากรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอด 47 ปีในตลาดหุ้นไทย มาย้อนอดีตผ่าน Wallpaper สีสันสวยงาม เข้าใจง่าย มาร่วมส่องกระจกมองหลังเศรษฐกิจไทย และเรียนรู้ไปด้วยกัน
เทคโนโลยีสหรัฐฯ
เกิดอะไรขึ้น?! บริษัทเทคสหรัฐฯ ลดคน แต่หุ้นพุ่งกระฉูด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรหุ้นเทคสหรัฐฯ จะหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 ทำให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ หลายแห่งกำลังปรับโครงสร้างองค์กร โดยการลดค่าใช้จ่ายการจ้างงาน ทำให้ปัจจุบันเกิดการปลดคนในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก
แต่ที่น่าแปลกคือ ดัชนี NASDAQ ที่เปรียบเหมือนตัวแทนหุ้นเทคโนโลยีกลับทำผลงานได้ดี ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 10% ตั้งแต่ต้นปี 2566 ส่งสัญญาณดีต่อหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในปีนี้
การลดคนของบริษัทเทคโนโลยี ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถลดต้นทุนได้ ยกตัวอย่างเช่น Alphabet ที่ประกาศลดคน 12,000 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยให้ Alphabet ลดต้นทุนในการจ้างงานได้ถึง 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
การลดคนในบริษัทเทคโนโลยีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ และอาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผล และจากแนวโน้มการชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในปี 2566 เป็นอีกปัจจัยที่ส่งให้หุ้นเทคมีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2023 นี้

Talk of the Town
เรื่องเด่นประเด็นฮิตของชาว Jitta Wealth Official
การเติบโตของรายได้และ Market Cap ในแต่ละธีมของ Thematic
เงินปันผล Jitta Ranking หุ้นไทย ยื่นหรือไม่ยืนภาษี แบบไหนดีกว่ากัน?
นักลงทุน Jitta Ranking ไทย ยื่นเสียภาษี สามารถโหลดเอกสารจาก TSD ได้แล้ว
(ตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มนะ )
รถยนตร์ไฟฟ้า
Tesla มาแรง! โตพุ่งกว่า 51% ในปี 2565
เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา Tesla ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 และผลประกอบการรวมของปี 2565 โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
- รายได้รวมของปี 2565 อยู่ที่ 81,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 51%yoy
- กำไรปี 2565 อยู่ที่ 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 85%yoy
- รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2565 อยู่ที่ 24,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37%yoy
- กำไรในไตรมาส 4 ปี 2565 อยู่ที่ 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 43%yoy
รายได้ในไตรมาสที่ 4 ทำสถิติรายได้ต่อไตรมาสสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่บริษัทมีหนี้เหลือเพียง 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พลิกจากการเป็นบริษัทที่ขาดทุนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ กลายมาเป็นบริษัทที่มีเงินสดเหลือเฟือในการพัฒนาธุรกิจและลงทุนเพิ่ม
ปี 2565 Tesla ส่งมอบรถไปถึง 1.37 ล้านคัน มากเป็นอันดับ 1 ของโลกในประเภทรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ตามมาด้วย BYD ที่ประมาณ 900,000 คัน และ Volkswagen ที่ 570,000 คัน
จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้น Tesla ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ

บทเรียน ‘ตกรถหุ้นดี’ เพราะอคติของ Warren Buffett
นักลงทุนคนไหนๆ ก็คงเคย ‘ตกรถหุ้นดี’ แม้แต่นักลงทุนที่รวยที่สุดในโลกอย่าง Warren Buffett อคติอะไรที่ทำให้เขาพลาดโอกาสได้หุ้นดีระดับต่ำนานอย่าง Google และ Amezon ไปหาคำตอบได้เลย

Passive Way Podcast ซีรีส์ที่ 2 Episode 07 George Soros เซียนหุ้นสายดาร์ก…ชนวนวิกฤต ‘ต้มยำกุ้ง’
มาทำความรู้จักกับ George Soros พ่อมดแห่งโลกการเงินที่เชี่ยวชาญการ Short Sell สร้างกำไรให้ตัวเขาเองอย่างมหาศาล และก็สร้างความปั่นปวนให้กับตลาดหุ้นนานาประเทศมาแล้วเช่นกัน มาเข้าคลาสเวทมนต์กับพ่อมดตลาดหุ้นคนนี้ได้เลย
ฟัง Passive Way Podcast ซีรีส์ 2 Episode 07
เศรษฐกิจเวียดนาม
บริษัทเวียดนามโต สวนทางตลาดหุ้น
ปี 2565 แม้ว่าจะเกิดแรงกดดันด้านเศรษฐกิจมากมาย รวมไปถึงตลาดหุ้นที่ร่วงแรง แต่บริษัทจดทะเบียนของเวียดนามยังมีผลประกอบการที่โดดเด่น ไปในทิศทางเดียวกับ GDP ของเวียดนาม
Vietnam Oil and Gas Group ประกาศผลประกอบการมีกำไรมากสุดในรอบ 61 ปี โดยมีรายได้อยู่ที่ 931.2 ล้านล้านดอง และมีกำไรสูงถึง 82.2 ล้านล้านดอง ได้รับอานิสงส์มาจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่อย่าง Viettel และกลุ่มแบงก์ Vietcombank ก็ทำผลงานได้ดี ซึ่งจากตัวเลขผลประกอบการของบริษัทเวียดนามจะเห็นได้ว่า บริษัทใหญ่ของเวียดนามรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
หากพิจารณาดูพื้นฐานเศรษฐกิจของจะเห็นว่าเวียดนามยังแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามมี P/E อยู่ที่เพียง 12.05 เท่า หากเทียบกับตลาดในภูมิภาคต้องบอกว่าตลาดเวียดนามในตอนนี้มีราคาถูกน่าลงทุน และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่กำลังสนใจจะลงทุนในเวียดนาม

Jitta Ranking vs ตลาดหุ้นทั่วโลกปี 65 ใครแพ้…ใครชนะ
ปี 2565 ผ่านไปแล้ว ผลตอบแทน Jitta Ranking เทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกปี 2565 เป็นอย่างไรกันบ้าง เปิดศึกท้าดวลในครั้งนี้ เทียบผลตอบแทนกัน 4 ยกให้เห็น ใครแพ้ ใครชนะ

แจ้งเตือนกลโกงใหม่จากมิจฉาชีพ อย่าตกเป็นเหยื่อ
ระวังกลโกงรูปแบบใหม่ หลอกเอาเงินนักลงทุนโดยแอบอ้างว่าเป็นการลงทุนกับ Jitta Wealth โดยจุดเริ่มต้นเริ่มจากการ ‘ชวนทำงานออนไลน์’ แต่ปิดท้ายด้วยการหลอกเอาเงินจากคุณไป ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ โปรดเช็คให้แน่ใจว่าเป็น Jitta Wealth จริง
เศรษฐกิจอินเดีย
อินเดียจะกลายเป็นแหล่งห่วงโซ่อุปทานโลก
ในปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกลงทุนในอินเดียมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Apple ที่สั่งผลิต iPhone นอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่ Samsung ก็เริ่มการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและสมาร์ทโฟนในอินเดียมาสักระยะแล้ว การขยายฐานการผลิตนี้แสดงให้เห็นว่าอินเดียมีแนวโน้มจะเป็นโรงงานโลกแห่งต่อไป
จากผลสำรวจของหอการค้าสหรัฐฯ ปรากฎว่าอินเดียเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับบริษัทที่ต้องการลงทุนสร้างฐานการผลิตในเอเชีย บวกกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็ยิ่งทำให้อินเดียน่าสนใจ
รัฐบาลอินเดียเองก็พยายามพัฒนาในหลายๆ ด้านเพื่อดึงดูการลงทุนจากต่างประเทศ โดยนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา อินเดียตัดถนนใหม่ไปแล้วกว่า 80,000 กิโลเมตร และเพิ่มความยาวของรางรถไฟอีกกว่า 9,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังออกแบบโปรแกรม Production-linked incentive (PLI) ซึ่งจะเป็นสิทธิประโยชน์ให้กับบริษัทที่ตั้งฐานการผลิตในอินเดีย
Jitta Wealth มองว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่การเปลี่ยนแปลงอาจจะต้องใช้เวลาระดับหนึ่งเพราะรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจในประเทศ
เป็นสัปดาห์ที่เริ่มมีข่าวดีมาให้เห็นกันบ้างแล้ว กับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมีผลประกอบการที่คึกคักขึ้น แต่ก็มีข่าวรายสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ถูก layoff กันเกือบทุกวันเช่นเดียวกัน เพราะบริษัทเทคเหล่านี้กำลังพยายามลดต้นทุน
เศรษฐกิจจีนเองก็สดใสขึ้น พอที่จะเห็นอนาคตกันมากขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนตัดสินใจยุตินโยบาย Zero-COVID และเทศกาลตรุษจีนเองก็เป็นแรงขับเคลื่อนที่ดีของเศรษฐกิจในประเทศ ส่งสัญญาณเติบโตได้อย่างน่าจับตามองมากๆ ในปีนี้
ใครที่ลงทุนระยะยาวอยู่ก็พอที่จะใจชื่นขึ้นมาได้นิดนึง ส่วนใครที่กำลังหาโอกาสในการลงทุน ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป หรือถ้าจะพูดจริงๆ ที่ย้ำอยู่บ่อย ‘วันที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน คือ วันนี้’ เลิกรอ แล้วมาเริ่มสร้างความมั่นคงไปด้วยกันได้เลย
หวังว่าเดือนแรกของปี 2566 ของคุณจะเป็นเดือนที่ดี และได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ นะ
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า