Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา

นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้บริการ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว และเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ซึ่งติดต่อเข้ามายังบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ และ/หรือตกลงใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท (“ผู้ใช้บริการ”) โดยบริษัทรับประกันคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการด้วยความระมัดระวังและอย่างสมเหตุสมผล สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

จุดประสงค์ของการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว บริษัทในฐานะผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงได้จัดทำนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ จัดเก็บ ส่งต่อ ปกป้อง และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล และบริการอื่นของบริษัท (“บริการ”) ผ่าน Website หรือ Mobile Application หรือผ่านแพลตฟอร์มอื่นใด (“Platform”) ทราบ

การยอมรับนโยบาย เมื่อผู้ใช้บริการใช้บริการ Platform และ/หรือสมัครบัญชีใช้งานเพื่อใช้บริการ บริษัทจะถือว่าผู้ใช้บริการยอมรับ รับทราบและตกลงตามนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ หากผู้ใช้บริการไม่ตกลงตามเงื่อนไขของนโยบายฉบับนี้ หรือฉบับแก้ไขอื่น ๆ บริษัทสงวนสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการดังกล่าวใช้บริการ เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่การให้บริการในการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล รวมถึงใช้บริการอื่นให้แก่ผู้ใช้บริการโดยตรง ทั้งภายใต้กฎหมาย สัญญา เงื่อนไขการให้บริการ และเพื่อการคุ้มครองสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการ และ/หรือ Platform อยู่ ผู้ใช้บริการดังกล่าวจะถือว่ายอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ

ผลบังคับใช้ของนโยบาย นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับการใช้บริการของบริษัทผ่าน Platform เท่านั้น โดยไม่มีผลใช้บังคับกับแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ และบริการอื่น ๆ ของบุคคลภายนอกที่อาจเชื่อมต่อกับ Platform ซึ่งบริษัทไม่มีอำนาจควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลง และศึกษาเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้แพลตฟอร์ม หรือเว็บไซต์ และบริการดังกล่าวแยกต่างหาก

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายใต้นโยบายฉบับนี้ บริษัทจะประกาศอย่างชัดแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านช่องทางการติดต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะผ่าน Platform ทั้งนี้นโยบายฉบับปรับปรุงจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่มีการประกาศ

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดา (ผู้ใช้บริการบุคคลธรรมดา) คนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม

แหล่งที่มา ที่บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

โดยหลักการ บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจาก 3 แหล่งโดยพื้นฐาน ได้แก่

  • ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยตรงมาจากผู้ใช้บริการ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีสำหรับการติดต่อกับลูกค้า ได้แก่ โทรศัพท์ Social Media / Website (ข) การลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผู้ใช้งานผ่าน Platform (ค) การกรอกแบบสอบถามหรือแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่บริษัทอาจจัดทำขึ้นเพื่อการให้บริการ ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline (ง) การที่ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ
  • ได้รับจากการเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติด้วยระบบปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งระบบของบริษัทจะจัดเก็บโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้บริการเข้าชม Platform
  • ได้รับจากบุคคลภายนอกอื่น ได้แก่ บริษัทภายนอกที่บริษัทอาจว่าจ้างให้จัดเก็บรวบรวมข้อมูล พันธมิตร และบุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการอาจให้ความยินยอมแก่บุคคลดังกล่าวในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้แก่บริษัท รวมถึงฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลอื่นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งบริษัทอาจดำเนินการเชื่อมระบบหรือส่งต่อหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปเพื่อดำเนินการตรวจสอบเพื่อการยืนยันตัวตน การให้บริการ และการประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บจากการเยี่ยมชม Platform วัตถุประสงค์การประมวลผล และระยะเวลาการประมวลผล

เมื่อผู้ใช้บริการเข้าเยี่ยมชม Platform บริษัทอาจดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนของผู้ใช้บริการ โดยเป็นการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติด้วยระบบของบริษัท ได้แก่ ข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของผู้ใช้บริการ และหน้าเพจอื่น ๆ ที่ส่งผู้ใช้บริการมาหาเรา ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประเภทและเวอร์ชั่นเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทและเวอร์ชั่นเบราว์เซอร์ปลั๊กอิน ระบบ ปฏิบัติการและแพลตฟอร์มของผู้ใช้บริการ และ
  • ข้อมูล Cookies ซึ่งหมายถึง text files ที่อยู่ใน Browser ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัทจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล รวมถึงบันทึกการใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการเยี่ยมชม Platform ของผู้ใช้บริการ โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ Cookies หลายประเภท เพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้
  1. ⁠Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็น Cookies ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของ Platform และการให้บริการแก่ผู้ใช้งานในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
  2. Functionality Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบน Platform เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา font และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
  3. Performance Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของ Platform ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอกที่จะทำหน้าที่ให้บริการประเมินวิเคราะห์การทำงานของบริษัท และ
  4. Advertising Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเคยเยี่ยมชม รวมถึง ลักษณะการใช้ Platform ของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอกที่จะทำหน้าที่ให้บริการให้แก่บริษัท

สำหรับ Cookies ประเภท Strictly Necessary Cookies นั้น บริษัทมีความจำเป็นในการใช้ Cookies ดังกล่าว เพื่อการให้บริการของ Platform ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยตรง และในส่วนของ Cookies ประเภทอื่นนั้น หากได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการให้บริษัทใช้แต่ละประเภทของ Cookies ดังกล่าว บริษัทจะใช้ Cookies ดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์เฉพาะที่ได้ระบุไว้สำหรับ Cookies แต่ละประเภท ทั้งนี้ แม้ว่าการใช้ Cookies จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการและการทำงานของ Platform แก่ผู้ใช้บริการ แต่หากผู้ใช้บริการต้องการ ผู้ใช้บริการสามารถลบการตั้งค่า Cookies บน Browser ของตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องรับทราบและยอมรับว่า การลบการตั้งค่าดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้บริการของเว็บไซต์ได้ในบางส่วน

จุดประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บในระหว่างการเยี่ยมชม Platform นี้จะได้รับการจัดเก็บ รวบรวมเพื่อจุดประสงค์ ดังนี้ (1) การปรับปรุงระบบ Platform ให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการต่าง ๆ ได้ มากขึ้น และ (2) การป้องกันและหลีกเลี่ยง รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีจากการเข้าชม Platform ทั้งนี้บริษัทจะประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นทางธุรกิจ โดยรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิของผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินสมควร และกรณี Cookies บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจนกว่าผู้ใช้บริการจะถอนความยินยอม ในการใช้ Cookies ดังกล่าว

ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการลงทะเบียนและอนุมัติรับลูกค้า วัตถุประสงค์การประมวลผล และระยะเวลาการประมวลผล

เมื่อผู้ใช้บริการประสงค์จะเปิดบัญชีเพื่อการบริหารจัดการเงินกองทุนส่วนบุคคลผ่าน Platform ของบริษัท ผู้ใช้บริการต้องกรอกข้อมูลซึ่งจำเป็นเพื่อการ “สร้างบัญชีและการยืนยันตัวตนก่อนรับเป็นลูกค้า” ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการต้องให้แก่บริษัททั้งหมด เป็นข้อมูลที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้เพื่อการประเมินคุณสมบัติยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการตามขั้นตอนที่กฎหมายป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน และกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องประมวลผลในขั้นตอนนี้ ได้แก่

  • ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ ได้แก่ ชื่อนามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ปัจจุบัน วันเดือนปีเกิด สัญชาติ และเพศ และข้อมูลพื้นฐานอื่น เช่น ระดับรายได้ อาชีพ ระดับการศึกษา และวัตถุประสงค์การลงทุน และทำธุรกรรมกับบริษัท
  • ข้อมูลเอกสารแสดงตนของผู้ใช้บริการ ได้แก่ ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งรวมถึงรูปถ่ายบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เลขบัตรประจำตัวประชาชน และเลข Laser Code ด้านหลังบัตร
  • รูปถ่ายใบหน้าของผู้ใช้บริการ ซึ่งเมื่อผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บภาพถ่ายจำลองใบหน้าของผู้ใช้บริการผ่านระบบ Live Selfie
  • ผลการทดสอบแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test)
  • ผลการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกับฐานข้อมูลผู้มีความเสี่ยงด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการสนับสนุนการก่อการร้าย หรือฐานข้อมูลความเสี่ยงตามกฎหมายอื่น ที่บริษัทมีหน้าที่ต้องตรวจสอบและสอบทานข้อมูลของผู้ใช้บริการ

จุดประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทได้รับในระหว่างการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งานนี้ จะถูกเก็บ รวบรวม ใช้ ภายใต้วัตถุประสงค์หลัก ดังนี้

  1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย ในฐานะสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน และกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท (ได้แก่ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ ก่อนเปิดบัญชีผู้ใช้งานและรับเป็นผู้ใช้บริการดังกล่าวเป็นผู้ใช้บริการ บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของผู้ใช้บริการ และเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการไว้อีกเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
  2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการของบริษัท และเพื่อการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะข้อมูลการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะ เวลาที่ผู้ใช้บริการยังมีบัญชีผู้ใช้งานกับบริษัทอยู่ และบริษัทมีหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ

ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินธุรกรรม วัตถุประสงค์การประมวลผล และระยะเวลาการประมวลผล

ภายหลังจากที่ผู้ใช้บริการผ่านการตรวจสอบยืนยันตัวตน และได้รับบัญชีผู้ใช้งานแล้ว ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินธุรกรรมการฝาก-ถอนเงินสด และเริ่มต้นใช้บริการการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล และบริการอื่นของบริษัทผ่าน Platform ของบริษัทได้ ซึ่งระหว่างการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี้

  • ⁠⁠ข้อมูล Username และ Password เพื่อการเข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานของผู้ใช้บริการ
  • ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลยืนยันการชำระเงินหรือฝากเงิน โดยเฉพาะจากการตรวจสอบโดยสถาบันการเงิน หรือบริษัทภายนอกที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลรายละเอียดธุรกรรมการฝาก-ถอน และการวางคำสั่งเพื่อการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการได้ดำเนินการผ่าน Platform หรือผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นที่บริษัทอาจประกาศกำหนด รวมถึงข้อมูล log บันทึกรายการการใช้บริการและทำธุรกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ
  • ข้อมูลการติดต่อเป็นคำถาม ข้อสงสัย ข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการอาจติดต่อมายังบริษัท และข้อมูลความสนใจ และความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการอาจลงทะเบียนและแจ้งให้บริษัททราบผ่านกระบวนการจัดทำแบบสอบถามต่าง ๆ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการอาจให้แก่บริษัท ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ภาพถ่าย (ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว) ของผู้ใช้บริการที่อาจเข้าร่วมกิจกรรม หรือการฝึกอบรม (Event / Webinar) ที่บริษัทอาจจัดขึ้นทั้งในรูปแบบ Online หรือ Offline ข้อมูล Testimonial หรือความเห็นของผู้ใช้บริการที่ผู้ใช้บริการอาจให้เกี่ยวกับบริษัท Platform และ/หรือบริการอื่น หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นไม่ว่าส่วนใดที่ผู้ใช้บริการอาจติดต่อและแจ้งให้บริษัททราบ ระหว่างการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัท รวมถึงบันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัท บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log / Chat-Bot เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทได้รับ และเก็บรวบรวมในระหว่างการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกประมวลผล เท่าที่จำเป็นโดยอ้างอิงพื้นฐานที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์หลัก ดังนี้

  • ⁠⁠เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (1) ในฐานะสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการตรวจสอบ และจัดทำรายงานธุรกรรมเงินสดและธุรกรรมที่น่าสงสัยภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (2) ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล ภายใต้กฎหมาย และกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (3) ในฐานะหน่วยบัญชีและภาษีอากร ทั้งนี้สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้ บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริการเพื่อจุดประสงค์การไว้ตลอดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการของบริษัท และเพื่อการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะ

(ก) การให้บริการติดต่อกลับไปยังลูกค้าที่แสดงความสนใจในการขอข้อมูลที่ลูกค้าอาจสนใจ

(ข) การจัดทำเอกสารสัญญา เอกสารธุรกรรมต่าง ๆ และการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ที่บริษัทอาจมีต่อลูกค้า ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง

(ค) การระบุเชื่อมโยงตัวตนผู้ใช้บริการที่ดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ บน Platform ตั้งแต่เริ่มต้นจนดำเนินธุรกรรมทั้งหมดสำเร็จ ภายใต้เงื่อนไขการใช้บริการที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดต่อประสานงานเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ลูกค้าและบริษัทเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึง การให้เข้าร่วมเงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรมที่อาจได้รับการจัดขึ้น

(ง) การติดตามและตรวจสอบการดำเนินธุรกรรมผ่านทาง Platform เช่น การใช้งานหรือดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีการใช้งาน การเปลี่ยนแปลงข้อมูล การใช้งานระบบ การตรวจสอบและการยืนยันการทำธุรกรรม การตรวจ สอบและปรับปรุงรายการธุรกรรม การจัดทำรายงานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม เพื่อประโยชน์ในการติดตามและตรวจสอบย้อนหลังโดยผู้ใช้บริการเอง

(จ) การดำเนินธุรกรรมตามคำสั่งและเงื่อนไขอื่นใดที่ได้ตกลงและกำหนดระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการให้สำเร็จสมบูรณ์ รวมถึงการปฏิบัติสิทธิที่บริษัทอาจมี ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการติดตามการชำระค่าบริการที่บริษัทจะได้รับจากผู้ใช้บริการ

(ฉ) การตอบคำขอความช่วยเหลือของผู้ใช้บริการ หรือการให้บริการอื่นใดที่อาจเกี่ยวข้องแก่ผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาทั้งหมดนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังคงมีบัญชีผู้ใช้งานบน Platform

  • ⁠⁠เพื่อการปกป้องประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่กระทบสิทธิของผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ โดยบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บ รวบรวม ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นทางธุรกิจของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้

(ก) การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การจัดทำรายงานการติดตามตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทให้แก่ลูกค้า การวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงภาพรวมขององค์กร ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าต่อเนื่อง

(ข) การวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้า เพื่อการปรับปรุงออกแบบผลิตภัณฑ์หรือรูปแบบการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท ให้สามารถตอบสนองความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ละท่าน และลูกค้าในภาพรวมของบริษัท รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานบน Platform ของบริษัท

(ค) การปกป้องและต่อสู้สิทธิการเรียกร้องใดที่บริษัทอาจมีกับลูกค้า ซึ่งเพื่อการดำเนินการวัตถุประสงค์ดังกล่าว บริษัทสงวนสิทธิ์เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นระยะเวลาที่จำเป็นตลอดระยะอายุความที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย อย่างน้อย 5 ปี หรือตลอดอายุความ ภายหลังจากการทำธุรกรรมระหว่างกัน

(ง) การใช้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลการประชาสัมพันธ์อื่นของเจ้าของข้อมูลที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท

(จ) การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้บริการของลูกค้า เพื่อการวางแผนการตลาด โดยเฉพาะการทำการตลาดประชาสัมพันธ์ไปยังบุคคลอื่นที่อาจมีลักษณะใกล้เคียงกับท่านได้มากขึ้น ทั้งนี้ไม่รวมถึง การทำการตลาดโดยตรงไปยังลูกค้า

(ฉ) การปรับปรุงการให้บริการในอนาคตอื่น ๆ รวมถึงการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัทผ่านการฝึกอบรมพนักงาน และการพิจารณาทบทวนการแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ

  • ⁠⁠เมื่อผู้ใช้บริการให้ความยินยอม บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะที่ผู้ใช้บริการอาจให้เป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

⁠⁠(ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ภาพจำลองใบหน้าของผู้ใช้บริการ เพื่อกระบวนการในการยืนยันตัวตน ทั้งนี้ สำหรับการขอความยินยอมดังกล่าว หากผู้ใช้บริการไม่ให้ความยินยอม บริษัทในฐานะผู้มีหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ สงวนสิทธิในการปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการดังกล่าว

(ข) การประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์การทำการตลาด และสื่อสารประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น และข่าวสารอื่น ๆ ของบริษัทหรือบริษัทในเครือที่ผู้ใช้บริการอาจให้ความสนใจ

(ค) การใช้ Cookies บางประเภทเพื่อการปรับปรุงการให้บริการ Platform แก่ผู้ใช้บริการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้

    การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

    โดยหลักการ ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นความลับ แต่โดยอ้างอิงตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลที่ระบุไว้ ผู้ให้บริการอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราวให้แก่บุคคลภายนอก ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ให้บริการจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็น ให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้

    • ผู้ให้บริการภายนอก ที่บริษัทอาจว่าจ้างเพื่อการให้บริการต่าง ๆ ที่อาจจำเป็นของบริษัท ได้แก่ (แต่ไม่จำกัดเพียง) ผู้รับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูลการยืนยันตัวตนและการประเมินความเสี่ยงการฟอกเงิน ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ผู้ให้บริการการชำระเงิน ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาเฉพาะทางสำหรับการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทรับประกันจะส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว เฉพาะตามขอบวัตถุประสงค์ที่ระบุบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการรับประกันความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่มีการเปิดเผยและส่งต่อดังกล่าว ภายใต้กรอบข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จะได้รับการจัดทำขึ้นทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการประมวลผลข้อมูลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย⁠
    • หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานกำกับดูแล ที่บริษัทมีหน้าที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล ตามกฎหมายและข้อบังคับ หรือคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ รวมถึงการเปิดเผยต่อศาล อนุญาโตตุลาการ และ/หรือ หน่วยงานของรัฐด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
    • เมื่อผู้ใช้บริการให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่บุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการอาจกำหนดให้ความยินยอม

    มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

    ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัท ดังนั้นบริษัทได้กำหนดมาตรการเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่า มีเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ และบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความ สำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

    นอกจากนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิ ภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้ เมื่อมีการตรวจพบหรือได้รับเรื่องร้องเรียนถึงการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะรีบดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงจะดำเนินการรายงานให้กับหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ตามที่กฎหมายระบุไว้

    สิทธิของผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูล

    บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยบริษัทตกลงผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้

    • สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง เว้นเป็นกรณีที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดภายใต้กฎหมายในการเปิดเผย หรือมอบสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ
    • สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
    • สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูล นั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
    • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบ หรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
    • สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ เมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลา แต่การถอนความยินยอมนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้ยกเว้นกรณีการใช้สิทธิในการถอนความยินยอมการใช้แบบจำลองใบหน้าซึ่งหากถอนความยินยอมดังกล่าว ผู้ให้บริการซึ่งมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บ รวบรวมข้อมูลดังกล่าว อาจสงวนสิทธิในการปฏิเสธการขอถอนความยินยอมดังกล่าวได้

    ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อมายังบริษัท เพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของผู้ใช้บริการให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย

    ข้อมูลการติดต่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทยินดีรับคำถาม ข้อร้องเรียน ความเห็นและคำขอใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โดย เฉพาะการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลของผู้ใช้บริการได้ โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งมาที่

    ที่อยู่: บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
    1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

    เบอร์โทรศัพท์: 02-460-8888
    Email: [email protected]